ภิกษุณีที่สัมภาษณ์ออกอากาศเมื่อวันพุธที่ 8 พ.ย.49

 
medulla
วันที่  12 พ.ย. 2549
หมายเลข  2336
อ่าน  1,635

ภิกษุณีที่รายการบ้านธัมมะไปสัมภาษณ์ออกอากาศเมื่อวันพุธที่ 8 พ.ย.49

ภิกษุณีที่ดิฉันได้ชมทางรายบการบ้านธัมมะไปสัมภาษณ์ ออกอากาศวันพุธที่ผ่านมา8 พ.ย.2549 ไม่ทราบว่าเป็นภิกษุณีที่ทางบ้านธัมมะเห็นว่าถูกต้องตามพระไตรปิฎกหรือเปล่าคะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 12 พ.ย. 2549

ขอเรียนให้ทราบว่า รายการบ้านธัมมะ บริษัทเบิร์ดอายวิว เป็นผู้ผลิตรายการเพื่อออกอากาศทางโทรทัศน์ช่อง ๑๑ กรมประชาสัมพันธ์ เวลา ๐๔.๐๕-๐๕.๐๐ น. ทุกวันพุธ โดยแบ่งเป็น ๒ ช่วง คือ ช่วงแรก เป็นช่วงเวทีธรรม ช่วงที่สอง เป็นช่วงธรรมทัศนะ สรุปคือ การผลิตรายการทั้งหมดเป็นของบริษัทเบิร์ดอายวิว ทางมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา เป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกในการถ่ายทำบางโอกาส ดังนั้นทางมูลนิธิ ฯ ไม่มีรายละเอียดของผู้ที่ให้สัมภาษณ์ทางรายการบ้านธัมมะ เรื่องพระภิกษุณีที่ออกรายการในวันและเวลาดังกล่าวก็เช่นกันทางมูลนิธิฯ ไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมด จึงไม่สามารถแสดงความเห็นในเรื่องนี้ได้

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
saowanee.n
วันที่ 12 พ.ย. 2549

ครุธรรม ๘ ประการนั้น มีดังนี้

๑. ภิกษุณีแม้บวชแล้วตั้ง ๑๐๐ ปี ก็ต้องทำการอภิวาท ลุกขึ้นต้อนรับ อัญชลีกรรม และสามีจิกรรม แก่ภิกษุแม้ผู้บวชแล้วในวันนั้น

๒. ภิกษุณีต้องไม่จำพรรษาในอาวาสที่ไม่มีภิกษุ

๓. ภิกษุณีต้องถามวันอุโบสถ และเข้าไปรับโอวาทจากภิกษุทุกกึ่งเดือน

๔. ภิกษุณีจำพรรษาแล้วต้องปวารณา คือเปิดโอกาสให้ตักเตือนสั่งสอน จากสำนักทั้งสองคือ ทั้งจากภิกษุณีสงฆ์และภิกษุสงฆ์

๕. ภิกษุณีต้องอาบัติหนัก เช่น สังฆาทิเสสแล้ว ต้องประพฤติมานัตต์ตลอด ๑๕ วัน

ในสงฆ์ทั้งสองฝ่าย คือทั้งในภิกษุสงฆ์และภิกษุณีสงฆ์

๖. นางสิกขมานาคือสตรีที่เตรียมจะบวชเป็นภิกษุณี จะต้องประพฤติปฏิบัติศีล ๖ ข้อ

คือตั้งแต่ข้อ ๑ ถึงข้อ ๖ ให้ครบบริบูรณ์ตลอดเวลา ๒ ปี ขาดไม่ได้ ถ้าขาดลงจะต้องตั้งต้นใหม่ เมื่อทำได้ครบแล้วต้องอุปสมบทในสงฆ์ ๒ ฝ่าย

๗. ภิกษุณีต้องไม่ด่าว่าเปรียบเปรย หรือบริภาษภิกษุไม่ว่ากรณีใดๆ

๘. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ห้ามภิกษุณีว่ากล่าวสั่งสอนภิกษุ ให้ภิกษุว่ากล่าวสั่งสอน

ภิกษุณีได้ฝ่ายเดียว

นอกจากนี้ สิกขาบทที่มาในพระปาฏิโมกข์ของสงฆ์มีเพียง ๒๒๗ ข้อ แต่ภิกษุณีมีถึง ๓๑๑ ข้อ อาบัติเบาๆ ของภิกษุ เมื่อภิกษุณีกระทำเข้ากลายเป็นเรื่องหนัก แสดงว่าไม่มีพุทธ

ประสงค์ให้ภิกษุณีมีขึ้นในศาสนาจริงๆ และทรงมีพระกรุณาต่อสตรีไม่ต้องการให้สตรีได้รับความลำบาก เพราะการบวชเป็นเรื่องยาก ผู้บวชอยู่ได้ต้องเป็นคนเข้มแข็งจริงๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
devout
วันที่ 12 พ.ย. 2549

ขอความกรุณา อธิบายครุธรรม ข้อที่ ๕ ด้วยค่ะว่า สังฆาทิเสส คือ อะไร และ ประพฤติมานัตต์ คือ อะไร

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
korn
วันที่ 13 พ.ย. 2549

ภิกษุณีต้องบวชในสงฆ์สองฝ่าย หากไม่มีสงฆ์ฝ่ายภิกษุณีย่อมไม่อาจบวชในสงฆ์สองฝ่ายได้ เมื่อภิกษุณีสงฆ์ขาดช่วงในฝ่ายเถรวาทแล้ว จึงไม่สามารถบวชในสงฆ์สองฝ่ายได้ อย่างไรก็ตาม หากบวชในฝ่ายมหานิกายก็น่าจะกระทำได้ หากเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่มหานิกายกำหนด

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
study
วันที่ 13 พ.ย. 2549

ตอบความเห็นที่ ๔ คำว่า สังฆาทิเสส คือ การต้องอาบัติหนักแต่ยังพอแก้ไขได้ เช่น สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๓ ภิกขุณีวิภังค์ว่า อนึ่งภิกษุณีใด ผู้เดียวไปสู่ละแวกบ้าน เป็นอาบัติสังฆาทิเสส ผู้ที่ต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้ว จะออกจากอาบัติได้ต้องประพฤติ-วัตร เรียกว่า มานัตต์ การประพฤติมานัตต์ เป็นอย่างไรโปรดอ่านข้อความโดยตรงจากพระวินัย

เชิญคลิกอ่าน....

การประพฤติมานัตต์

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
อิสระ
วันที่ 15 พ.ย. 2549
สาธุครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 26 มี.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ