วินัยไม่ใช่เผด็จการแต่เป็นมาตรฐานของความดี

 
fouron
วันที่  13 ส.ค. 2556
หมายเลข  23365
อ่าน  2,537

หากเราจะอธิบายธรรมเรื่องนี้ควรจะอธิบายยังไงดีครับ ให้เขาเข้าใจ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 13 ส.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

คำว่า วินัย โดยความหมายทางโลก หมายถึง ระเบียบข้อประพฤติปฏิบัติ เป็นวินัย

แต่ในความเป็นจริงในพระพุทธศาสนา วินัย หมายถึง เครื่องกำจัด กำจัดอย่างวิเศษ

ขัดเกลาอย่างวิเศษ กำจัด ขัดเกลาอะไร ก็ต้องเป็นการกำจัด สภาพธรรมที่ไม่ดี ที่

เป็นอกุศลธรรมและกิเลส สภาพธรรมอะไรก็ตามที่กำจัดเสียซึ่งความไม่ดี ชื่อว่า วินัย

วินัย มี 2 อย่าง คือ สังวรวินัย และ ปหานวินัย

สัวรวินัย คือ เครื่องกำจัดกิเลส ด้วยการสังวร หรือ สำรวม ซึ่งแบ่งเป็นสังวร 5 อย่าง

คือ สีลสังวร สติสังวร ขันติสังวร ญาณสังวร วิริยะสังวร

สังวรทั้ง 5 อย่างนี้ เป้นส่วนหนึ่ง ของ วินัย ที่เป็น สังวรวินัย ซึ่ง สีลสังวร ก็คือ การ

สำรวมด้วยศีล ถ้าเป็นคฤหัสถ์ก็ศีล 5 ถ้าเป็นบรรพชิต ก็สิกขาบท เพราะ สีลสังวร

เป็นวินัย เพราะ กำจัดกิเลสที่หยาบทางกาย วาจา สติสังวร คือ การสำรวมด้วยสติ

คือ ขณะที่สติปัฏฐานเกิด รู้ลักษณะสภาพธรรมทางตา หู..ใจ ญาณสังวร การสำรวม

ด้วยปัญญา ขันติสังวร การสำรวมด้วยขันติ และ วิริยสังวร การสำรวมไม่ให้กิเลสเกิด

ด้วย วิริยะ

จะเห็นนะครับว่า ที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่เป็นสภาพธรรมที่เป็นเครื่องกำจัดกิเลส ที่

เป็นอรรถ ความหมายของวินัย

ดังนั้นคำว่า วินัย ไม่ใช่เผด็จการ แต่ เป็นมาตรฐานของความดี

ก็ต้องเข้าใจให้ถูกว่า วินัย ที่เป็นข้อประพฤติปฏิบัตินั้น จะต้องเป็นสภาพธรรมที่

ละกิเลส กำจัดกิเลส คือ กุศลธรรม คือ วินัยจะต้องเป็นความดี จึงจะชื่อว่า เป็น

วินัยที่แท้จริง ดังนั้น วินัย ที่เป็นสภาพธรรมที่ดี ที่ละกิเลสได้นั้น จึงไม่ได้บังคับ

ให้บุคคลนั้นทำตาม หรือ จะต้องทำ ที่เป็นเผด็จการ หากแต่ว่า กุศลจิต ความดี

เกิดขึ้นกับใคร ก็เป็นวินัยในขณะนั้น ที่กำจัดกิเลสในขณะนั้น และ ขณะใดที่

อกุศลเกิด ความไม่ดีเกิดขึ้นในขณะใด ขณะนั้น ก็ไม่ใช่ วินัย ไม่ใช่ ธรรมที่ละ

กิเลส เพราะ เป็นอกุศลธรรม ครับ

ดังนั้น ความดี ไม่เปลี่ยนลักษณะ ความไม่ดี ก็ไม่เปลี่ยนลักษณะ วินัยทางโลก

หากเป็นอกุศละรรม ก็ไม่ชื่อว่า วินัย หากว่า วินัยทางโลก เป็นความดี ที่จะทำให้

ละกิเลส ขัดเกลากิเลสของผู้ประพฤติตามก็เป็นวินัย วินัยที่เป็นคุณความดี ไม่มี

การบังคับให้เกิด กับใคร ที่เป็นเผด็จการ แล้วแต่เหตุปัจจัยของการสะสมแต่ละคน

ซึ่งจะมีวินัย มีธรรมทีเป็นเครือ่งขัดเกลกิเลสได้ ก็ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษา

พระธรรม ซึ่ง พระธรรมแต่ละคำ เป็นวินัย เป็นข้อธรรมที่ดี และ ประเสริฐที่สุด

พระธรรมของพระพุทธเจ้า จึงเป็นข้อวินัยที่ดีที่สุด ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 13 ส.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ นั้น มีความละเอียดลึกซึ้งเป็น

อย่างยิ่งสำคัญที่ความเข้าใจอย่างถูกต้องตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะทรงแสดง

โดยนัยใดก็ตาม ไม่พ้นไปจากเพื่อให้เข้าใจตามความเป็นจริง จะเห็นได้ว่า

พระธรรมคำสอนในทาง พระพุทธศาสนา เป็นไปเพื่อกำจัดขัดเกลาบาปธรรม

ขัดเกลาธรรมที่เป็นอกุศลไปตาม ลำดับ จนกว่าจะสามารถดับได้จนหมดสิ้น

ถ้ากล่าวโดยความหมายแล้ว วินัย มีความหมายหลายอย่างแต่ที่พอจะเข้าใจ

ได้ชัดเจนที่สุด คือ วินัย แปลว่า ขจัดธรรมฝ่ายเศร้าหมองออกไป พระธรรม

ทั้งหมดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็เป็นเพื่ออย่างนี้

เมื่อมีการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม มากยิ่งขึ้น เข้าใจเพิ่มมากขึ้น ก็จะเป็น

เครื่องอุปการะเกื้อกูลให้มีการงดเว้นจากทุจริตประการต่างๆ ด้วยความเข้าใจที่ถูก

ต้อง พร้อมทั้งสะสมความดียิ่งขึ้น เป็นไปเพื่อกำจัดขัดเกลาละคลายกิเลสของ

ตนเอง เป็นการสะสมเหตุที่ดีให้กับตนเอง แต่ละคนก็เป็นแต่ละหนึ่งจริงๆ

ที่กล่าวว่าเป็นคนดี ก็เพราะคุณความดีเกิดขึ้นเป็นไป และเมื่อความดีเกิดขึนเป็น

ไปนั้น ความไม่ดี เกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเป็นผู้ไม่เห็นคุณของความดี ไม่เห็นโทษ

ของความไม่ดีที่เป็นอกุศลประการต่างๆ แล้วไม่มีทางที่จะกำจัดขัดเกลากิเลสของ

ตนเองได้เลย มีแต่จะสะสมพอกพูนสิ่งที่ไม่ดีมากยิ่งขึ้น ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 13 ส.ค. 2556

วินัยที่เป็นไปในศึลเป็นเครื่องกำจัดกิเลส ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
kinder
วันที่ 16 ส.ค. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
fouron
วันที่ 19 ธ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ