สิ่งที่ปรากฏ คืออะไร หมายความว่าอย่างไร

 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่  13 ส.ค. 2556
หมายเลข  23368
อ่าน  1,714

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอเรียนถามค่ะ "สิ่งที่ปรากฏ" คืออะไรคะ "ปรากฏ" หมายความว่าอย่างไร การปรากฏขึ้น ของ จิต เจตสิก รูป มีไหม รู้ได้อย่างไร

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาในความอนุเคราะห์ค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 13 ส.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สิ่งที่ปรากฎ คือ สิ่งที่กำลังเป็นอารมณ์ของจิต ให้รู้ในขณะนั้น ชื่อว่า เป็นสิ่งที่ปรา กฎ ซึ่งสิ่งที่ปรากฎ ก็ไม่พ้นจากสภาพธรรม ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ

สิ่งที่ปรากฎทางตา คือ เป็นอารมณ์ของจิตเห็น โดยอาศัยตา ซึ่งสิ่งที่ปรากฎทาง ตา ก็คือ สี

สิ่งที่ปรากฎทางหู คือ เป็นอารมณ์ของจิตได้ยิน โดยอาศัยหู ซึ่งสิ่งที่ปรากฎทางหู คือ เสียง

สิ่งที่ปรากฎทางจมูก คือ เป็นอารมณ์ของจิตได้กลิ่น โดยอาศัยจมูก ซึ่งสิ่งที่ปรากฎ ทางจมูก คือ กลิ่น

สิ่งที่ปรากฎทางลิ้น คือ เป็นอารมณ์ของจิตรู้รส โดยอาศัยลิ้น ซึ่งสิ่งที่ปรากฎทาง ลิ้น คือ รส

สิ่งที่ปรากฎทางกาย คือ เป็นอารมณ์ของจิตรุ้กระทบสัมผัส โดยอาศัยกาย ซึ่งสิ่ง ที่ปรากฎทางกาย คือ เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว

สิ่งที่ปรากฎทางใจ ก็คือ สภาพธรรมที่เป็น จิต เจตสิกต่างๆ ครับ

ดังนั้น ถ้าจะกล่าว สิ่งที่ปรากฎ คือ อะไร ก็คือ สภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ที่กำลัง เกิด กำลังปรากฎ ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ

ส่วนคำว่า ปรากฎ หมายถึง ปรากฎ คือ เกิดขึ้น กำลังเกิด และ เป็นอารมณ์ของจิต ในขณะนั้น ขณะปัจจุบัน ก็ชื่อว่า ปรากฎ ปรากฎให้รู้เพราะการเกิดขึ้นนั่นเอง ครับ

ดังนั้น การปรากฎ ก็ไมพ้นจาการเกิด ปรากฎของ จิต เจตสิก รูป เพราะเป็นการปรา กฎของสภาพธรรมที่มีจริง ที่มีลักษณะให้รู้เป็นสำคัญ ครับ

การเจริญสติปัฏฐาน คือ การเจริญอบรมปัญญาที่รู้ความจริงของสภาพธรรมที่มีจริง ในขณะนี้ว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ที่กำลังเกิด กำลังปรากฎอันแสดงถึงความเป็น ปัจจุบันขณะ คือ กำลังปรากฎ และ จะปรากฎกับสติ ความหมาย คือ เป็นอารมณ์ของ สติ และ ปัญญา ให้รู้ได้ในขณะนั้น ว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา

ซึ่งการจะรู้สิ่งที่ปรากฎตามความเป็นจริง ก็ด้วยสติและปัญญา ไม่ใช่เรา อันเริ่มจาก การอบรมเหตุ คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมในขณะนี้ ครับ

ความเป็นจริง จึงไม่มีสัตว์ บุคคล ปรากฎในขณะนี้ แต่เป็นเพียงสภาพธรรมที่กําลัง เกิด ที่เป็นจิต เจตสิกรูป กำลังปรากฎเกิดขึ้นและดับไป อันเป็นการปรากฎของสภาพ ธรรม ที่แสดงถึงความเป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ประโยชน์ของการเข้าใจ เรื่องสิ่งที่ปรากฎ แม้ขั้นการฟัง เพื่อเข้าใจว่า ไม่มีเรา ไม่มีสัตว์ บุคคล อันเป็นหนทาง การละความยึดถืออว่าเป็นเรา อันเป็นหนทางการละกิเลสที่ถูกต้อง ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 13 ส.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สิ่งที่ปรากฏ คือ สภาพธรรมที่มีจริงๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไป

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษานั้น แสดงถึงความ เป็นจริงของสภาพธรรม ที่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา เพื่อให้ผู้ ฟังได้เข้าใจถึงลักษณะ ของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง สำหรับ ธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงนั้น ไม่พ้นไปจากสิ่งที่มีจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึก จิตเป็นกุศล เป็นอกุศล เป็นวิบาก เป็นกิริยา โดยประมวลแล้ว เป็นจิต เจตสิก รูป หรือ เป็นนามธรรม กับ รูปธรรม เมื่อประมวลให้ย่อที่สุดแล้ว คือ เป็นธรรม หรือ เป็นธาตุ เมื่อเป็นธรรม เป็นธาตุ แต่ ละอย่างๆ จึงหาความเป็นสัตว์เป็นบุคคลไม่ได้เลย

การศึกษาธรรม เป็นเรื่องที่ ละเอียด จุดประสงค์ก็เพื่อเข้าใจสภาพธรรม ที่ไม่ใช่ สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ตามความเป็นจริง ถ้าไม่อาศัยการฟัง ไม่อาศัยการ ศึกษาอย่างต่อเนื่องด้วยความละเอียดรอบคอบแล้ว ย่อมไม่สามารถเข้าใจตามความ เป็นจริงได้ ดังนั้น จึงต้องฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม บ่อยๆ เนืองๆ เพื่อความ เข้าใจที่ถูกต้องยิ่งขึ้นไปตามลำดับ และที่ฟัง ที่ศึกษา ก็คือ เพื่อเข้าใจสภาพธรรมที่ ปรากฏตามความเป็นจริง นั่นเอง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ.....

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 13 ส.ค. 2556

สิ่งที่ปรากฎ คือ ตอนนี้เดี๋ยวนี้ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
orawan.c
วันที่ 16 ส.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 25 ต.ค. 2563

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
มังกรทอง
วันที่ 8 พ.ย. 2565

คำจริง คำในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านแจ้งมา จักนำมาไตร่ตรอง จนเข้าใจ ขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ