คิดถึงพระ บาปมั้ย
คิดถึงคนที่เป็นพระนี่บาปมั้ยคะ
มีเพื่อนคนนึงไปบวชเป็นพระแล้ว ก่อนบวชเค้าก็ไม่ใช่แฟนเราค่ะ แค่คุยด้วยกันและรู้สึกผูกพันมากๆ เท่านั้นเอง เคยกลับไปอ่านกระทู้ที่เคยตั้งไว้ คือ ห้ามคิดถึง ให้ทำตัวเหมือนตายจากกันไปเลย ต้องขนาดนั้นเลยเหรอคะ
แต่ตลอดเวลาที่พระบวช เราก็ไม่เคยไปเยี่ยม โทรศัพท์ หรือติดต่อใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงความรู้สึกของเราอยู่ฝ่ายเดียว แล้วก็รอให้เขากลับมาน่ะค่ะ เราสวดมนต์ให้เขาทุกคืน ภาวนาให้ตั้งใจศึกษาพระธรรม แก้นิสัยที่ไม่ดีต่างๆ ให้ได้ ถ้าเรายังรู้สึกแบบนี้ คิดแบบนี้ จะบาปมั้ยคะ?
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
บาป คือ สภาพธรรมที่ไม่ดี ที่เป็นอกุศลธรรม นำมาซึ่งสิ่งที่มีโทษ เป็นทุกข์ อกุศลธรรม เป็นสภาพธรรมที่ไม่ดี ซึ่งเราสามารถเรียกว่าบาปก็ได้ แต่อกุศลมีหลาย ระดับ บาปจึงมีหลายระดับด้วย บาปที่เพียงเกิดขึ้นในจิตใจแต่ไม่ล่วงออกมาทางกาย ทางวาจาก็เป็นเพียงอกุศลจิต ไม่ได้ให้ผลของกรรมที่จะทำให้ตกนรก เป็นต้น แต่ อกุศลจิตที่มีกำลังที่ล่วงออกมาทางกาย ทางวาจา จนครบกรรมบถ เช่น การฆ่าผู้อื่น การลักขโมยของๆ เขา อันนี้เป็นบาปที่จะทำให้ตกนรกได้ ครับ
ดังนั้น การคิดถึง ที่คิดอยู่ในใจ ไม่ว่าคิดถึงใครก็ตาม ก็คิดด้วยอกุศลจิต ที่เป็น โลภะ ความติดข้องพอใจ เป็นบาปในใจ แต่ไม่ได้มีผล ที่จะทำให้ตกนรก ไปอบาย ร้ายแรงเลย จึงเป็นธรรมดาที่เกิดอกุศล เกิดบาปในใจ กับทุกคน และไม่ได้มีผลที่จะ ทำให้เกิดผลอะไร เพราะเพียงคิดในใจ ไม่ได้ล่วงทำทุจริตออกมาทางกาย วาจา ที่เป็นการล่วงศีล 5 ครับ
ขณะนี้ไม่ได้คิดถึงใคร ก็มีบาป อกุศลในใจเกิดขึ้นแล้ว โดยไม่รู้ตัว ทั้งความไม่รู้ ทั้งความติดข้อง ยินดีในอาหาร ยินดีในกิจการงาน ก็เป็นบาป อกุศลในใจ เกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่ได้มีผลที่จะทำให้เกิดในนรก หรือ ให้ผลไม่ดี เพราะเป็นเพียงอกุศลจิต บาปใน ใจที่ไม่ได้ล่วงออกมาทางกาย วาจา ครับ
อย่างไรก็ดี พระพุทธศาสนา ไม่ใช่ การแก้ปัญหา ว่า บาป หรือไม่บาป จะมีผล หรือไม่ และ เมื่อทราบผลแล้ว ก็จากพระพุทธศาสนาไป เมื่อได้คำตอบ แต่แท้ที่ จริง ควรทราบเหตุแห่งทุกข์ทั้งหลายที่เกิดขึ้น เพราะ มีกิเลส ดังนั้น ควรแสวง ประทีป คือ ปัญญา ที่เป็นธรรมที่ชำระล้างกิเลส ชำระล้างบาป เพื่อที่จะหมดทุกข์ ในอนาคต ครับ ควรอย่างยิ่งที่จะศึกษาธรรมต่อไป ไม่ว่าชีวิตจะทุกข์ หรือ ไม่ทุกข์ จะได้คำตอบ หรือไม่ได้คำตอบ เพราะ ชีวิตที่ประเสริฐ และเป็นสาระที่สุด คือ ชีวิต ที่เข้าใจพระธรรม เจริญกุศลทุกๆ ประการ ในชาติที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ และ ได้พบ พระพุทธศาสนา ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตราบใดที่ยังไม่สามารถดับโลภะ ความติดข้อง ได้ ก็ย่อมจะมีเหตุให้โลภะเกิดขึ้น เป็นไปในลักษณะต่างๆ ตามการสะสมของแต่ละบุคคล ขณะที่โลภะเกิดขึ้นเป็นไปนั้น เป็นอกุศล ไม่ใช่กุศล เมื่อว่าตามสภาพธรรมแล้ว ขณะนั้นไม่ดี จะบอกว่าอกุศล ดี ไม่ ได้เลยทีเดียว ความจริงเป็นอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น เพราะสภาพธรรมที่ดี ต้องเป็น กุศลประการต่างๆ เท่านั้น
ไม่มีใครห้ามหรือบังคับบัญชาให้สภาพธรรมเกิดหรือไม่เกิดได้ แต่ธรรมเกิดเพราะ เหตุปัจจัย หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญา จะเป็นไปเพื่อเข้าใจโลภะ ตลอดจนถึง สภาพธรรมที่มีจริงประการอื่นๆ ตามความเป็นจริง เพราะปกติก็มีโลภะอยู่แล้ว ก็เพราะ มีโลภะนี้เอง ผู้เห็นโทษ จึงมีการฟัง มีการศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสม ความเข้าใจถูกเห็นถูก ซึ่งจะทำให้มีการขัดเกลาละคลายกิเลสอกุศลธรรมประการต่างๆ ขณะที่เข้าใจถูกเห็นถูก ขณะที่กุศลเกิด อกุศลก็เกิดไม่ได้ ถ้าจิตไม่ได้เป็นไปใน กุศลประการต่างๆ กล่าวคือ ไม่ได้เป็นไปในการให้ทาน ไม่ได้เป็นไปในการรักษาศีล ไม่ได้เป็นไปในการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมแล้ว นอกนั้นก็เป็นอกุศลทั้งหมด
เพราะฉะนั้น ควรที่จะได้พิจารณาว่า ที่พึ่งในชีวิต ไม่ใช่บุคคลอื่น แต่อยู่ที่ความดี ที่ตนเองได้สะสมไว้ในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ปัญญา อันเนื่องมา จากการฟัง การศึกษาพระธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เมื่อมีความเข้าใจ ถูกเห็นถูกมากขึ้น ทำให้เป็นผู้มีที่พึ่ง น้อมประพฤติในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม สะสมเป็นที่พึ่ง ต่อไปในภายหน้า เพราะเหตุว่าในที่สุด ทุกคนก็จะต้องละจากโลกนี้ไปด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีบุคคลอื่นติดตามไปในโลกหน้าด้วย เพราะสิ่งที่สะสมอยู่ในจิตเท่านั้นที่จะติดตาม ไปได้ นั่นก็คือ กุศล กับ อกุศล, กุศล เป็นที่พึ่งได้ ส่วนอกุศล พึ่งไม่ได้เลย มีแต่จะนำ มาซึ่งทุกข์โทษภัยโดยส่วนเดียว ครับ
....ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ชอบคำตอบของทั้งสองท่านคะ แจ่มแจ้งนัก
สาธุๆ ๆ ....ในพระรัตนตรัย
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)