การเจริญสติปัฏฐาน ๔ ถึงความเป็นอริยบุคคล
อ่านพระสูตร ที่พระพุทธเจ้า ทรงกล่าวว่า ผู้ใด เจริญสติปัฏฐาน ๔ ตลอด ๗ ปี
สามารถถึงความเป็นอริยบุคคลได้
ขอความอนุเคราะห์ชี้แจงว่า นัยที่พระพุทธเจ้าทรงกล่าวนี้ เพื่ออะไรคะ และ
เหตุที่ทรงตรัส คืออะไรคะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระพุทธเจ้าทรงอนุเคราะห์แสดงถึงเหตุตามความเป็นจริง เพื่อให้เห็นว่า
หากเจริญสติปัฏฐานถูกต้องแล้ว สำหรับผู้ที่สะสม อุปนิสัยปัญญามา ที่พร้อม
จะบรรลุในชาตินี้ เป็น เวนัยยบุคคล ก็สามารถบรรลุได้ ภายใน เจ็ดปี ก็มี หรือ
เจ็ดเดือน เจ็ดวัน เป็นต้น เพื่อให้ปรารภความเพียร ในการที่จะอบรมปัญญา
ศึกษาพระธรรมเพื่อที่จะไม่ทอดธุระ แต่เป็นผู้ไม่ประมาท เมื่อได้ฟังพระดำรัส
ว่าสามารถบรรลุธรรม ตามเวลานี้ ก็จะหมั่น ไม่ประมาทในการศึกษาพระธรรม
อบรมปัญญา ปรารภความเพียรเป็นสำคัญ ครับ แต่จะต้องด้วยความเห็นถูก
และ มีปัญญาเข้าใจหนทางการอบรมสติปัฏฐานถูกต้องแล้ว การทำด้วยความ
เห็นถูก ในสมัยพุทธกาล กับ การทำด้วยความต้องการ โลภะ ที่อยากจะบรรลุ
จึงต่างกัน ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การอบรมเจริญสติปัฏฐาน เป็นหนทางที่พระอริยเจ้าทั้งหลายดำเนินมาแล้ว
การอบรมเจริญสติปัฏฐาน เป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่การดับกิเลสประการต่างๆ ได้
ในที่สุด สภาพธรรมที่ปัญญาจะประจักษ์แจ้งได้นั้น ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่กำลัง
ปรากฏเกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวัน ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย
และทางใจ เพราะฉะนั้นแล้ว จึงต้องอาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม พิจารณา-
พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงทั้งในเรื่องของรูปธรรมนามธรรมในชีวิตประจำวัน
บ่อยๆ เนืองๆ เพื่อเป็นเครื่องปรุงแต่งให้สติเกิดขึ้นระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรม
ที่กำลังปรากฏ ซึ่งจะเป็นไปเพื่อการละคลายความยึดถือในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ
ว่าเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนได้ เพราะเหตุว่าไม่มีหนทางอื่นที่จะเป็นไปเพื่อความ
บริสุทธิ์หมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลายได้เลย นอกจากการอบรมเจริญสติปัฏฐานในชีวิต
ประจำวัน ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...