ธัมมานุปัสสนา
[เล่มที่ 14] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 223
ธัมมานุปัสสนา
นีวรณบรรพ
[๒๙๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อย่างไร ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นธรรม ในธรรมเนืองๆ อยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณา เห็นธรรมในธรรม คือนิวรณ์ ๕
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อย่างไร ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรม คือ นิวรณ์ ๕ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เมื่อกามฉันท์ (ความพอใจในกามารมณ์) มี ณ ภายในจิต ย่อมรู้ชัดว่า กามฉันท์ มีอยู่ ณ ภายในจิตของเรา หรือเมื่อกามฉันท์ไม่มี ณ ภายในจิต ย่อมรู้ชัดว่ากามฉันท์ ไม่มี ณ ภายในจิตของเรา อนึ่ง ความที่กามฉันท์อันยังไม่เกิดขึ้น ย่อมเกิดขึ้น ด้วยประการใด ย่อมรู้ประการนั้นด้วย อนึ่ง ความละกามฉันท์ที่เกิดขึ้นแล้ว เสียได้ด้วยประการใด ย่อมรู้ประการนั้นด้วย อนึ่ง ความที่กามฉันท์อันตนละ เสียแล้ว ไม่เกิดขึ้นต่อไปได้ด้วยประการใด ย่อมรู้ประการนั้นด้วย ฯลฯ
ขันธบรรพ
[๒๙๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอยู่อีก ภิกษุ ย่อมพิจารณา เห็นธรรมในธรรมคือ อุปาทานขันธ์ ๕. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อย่างไร ภิกษุ ย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรมคืออุปาทานขันธ์ ๕
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ (ย่อมพิจารณาดังนี้ ว่า) อย่างนี้ รูป (สิ่งที่ทรุดโทรม) อย่างนี้ ความเกิดขึ้นของรูป อย่างนี้ความดับไปของรูป อย่างนี้เวทนา (ความเสวยอารมณ์) อย่างนี้ความเกิดขึ้นของเวทนา อย่างนี้ ความดับไปของเวทนาอย่างนี้สัญญา (ความจำ) อย่างนี้ความเกิดขึ้นของสัญญา อย่างนี้ความดับไปของสัญญา อย่างนี้สังขาร (สภาพปรุงแต่ง) อย่างนี้ ความ เกิดของสังขาร อย่างนี้ ความดับของสังขาร อย่างนี้ วิญญาณ (ความรู้) อย่าง- นี้ ความเกิดขึ้นของวิญญาณ อย่างนี้ ความดับไปของวิญญาณดังนี้.
ฯลฯ
[๒๙๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอยู่อีก ภิกษุย่อมพิจารณาธรรมในธรรม คือ อายตนะภายใน และอายตนะภายนอก ๖ (อย่างละ ๖) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อย่างไร อายตนบรรพภิกษุย่อมพิจารณา เห็นธรรมในธรรม คือ อายตนะภายในและอายตนะภายนอก ๖. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้จักตาด้วย ย่อมรู้จัก รูปด้วย อนึ่ง สังโยชน์ (เครื่องผูก) ย่อมเกิดขึ้น อาศัยตาและรูปทั้ง ๒ นั้น อันใด ย่อมรู้จักอันนั้นด้วย อนึ่ง ความที่สังโยชน์ อันยังไม่เกิดขึ้น ย่อมเกิดขึ้น ด้วยประการใด ย่อมรู้จักประการนั้นด้วย อนึ่ง ความที่ละสังโยชน์ที่เกิดขึ้นแล้ว เสียได้ ด้วยประการใด ย่อมรู้จักประการนั้นด้วย อนึ่ง ความที่สังโยชน์ อัน ตนละเสียแล้ว ย่อมไม่เกิดขึ้นต่อไปได้ด้วยประการใด ย่อมรู้จักประการนั้ด้วย.