แสงธรรมสาดส่องที่เวียดนาม 2
วันที่ 1 ก.ย. 56
หลังอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ระดับมาตรฐานของโรงแรมลัคกี้ (ถูกลูกทัวร์ต่อว่า เพราะไม่เข้าใจว่ามีหลายมาตรฐาน) แล้ว ท่านอาจารย์ก็เดินทางไปสนทนาธรรม ต่อที่ชั้นบนของร้านกาแฟขนาดใหญ่ในศูนย์การค้าที่เดิม ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับโรงแรม ทำให้ทราบว่า เข้าใจผิดเรื่องจำนวนคน เพราะปัญหาอยู่ที่นโยบายเรื่องความ ปลอดภัยของรัฐบาล ถ้ามีการประชุมพบปะกันเป็นจำนวนมาก ต้องส่งรายชื่อให้ ตำรวจตรวจสอบ ถ้ามีคนอื่นที่ไม่ได้แจ้ง จะถือว่าผิดตามกฎหมาย มีโทษขนาด ปิดร้านได้เลย และพระก็ไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ ในตอนบ่ายวันนี้จึงมี พระภิกษุเวียดนามที่คงบวชแบบพม่า เพราะยังมีคิ้ว มาร่วมสนทนาธรรมกับท่าน อาจารย์ที่โรงแรม
พวกเรา นักเรียนนอก (นอกสถานที่บรรยายธรรม) ไปเที่ยวชมโบสถ์นอตเตอร์ดาม ที่ทำการไปรษณีย์สมัยฝรั่งเศสทำเนียบรัฐบาลเก่า เรื่องสิ่งปรากฏทางตาขอบรรยาย ด้วยภาพ เพราะเห็นเพื่อลืมจริงๆ แต่ก็ยังคงติดข้องอยู่อย่างเหนียวแน่นกับสิ่งที่เพียง ปรากฏแล้วหมดไป ไม่กลับมาอีก และเพราะชอบเป็นนักเรียนนอกจึงมีปัญญาเพียง ขั้นฟัง ยังไม่สามารถประจักษ์แจ้งได้จริงๆ ว่า ทุกอย่างเป็นธรรมะและเป็นอนัตตา แต่อย่างไรนักเรียนธรรมะตัวจริงคือท่านจักรกฤษณ์ เจนเจษฎาผู้ไม่เคยขาดการฟัง สักครั้งเดียว ได้นำข้อความธรรมะมาเล่าให้พวกเราฟังต่อแล้ว ขออนุโมทนาค่ะที่ ทำชื่อเรื่อง "แสงธรรมสาดส่องที่เวียดนาม" ดูมีคุณค่า น่าเลื่อมใสยิ่งขึ้น
ระหว่างทาง น้องฟ้าเล่าเรื่องราวของเวียดนามอย่างละเอียด ฟังดูคุ้นๆ จึงอยาก เล่าให้ฟังต่อ กาลครั้งหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ (เพราะจำปี พ.ศ.ไม่ได้ ไม่อยากเสียเวลาค้นเนื่อง จากไม่ใช่วิชาประวัติศาสตร์) เวียดนามถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือ เหนือและใต้ ผู้ใดสมัครใจจะอยู่ฝ่ายไหนก็อพยพไปได้ภายใน 2 ปี ฝ่ายใต้ปกครองแบบ ประชาธิปไตย มีสหรัฐอเมริกาหนุนหลัง สัญลักษณ์คือสีเหลือง ฝ่ายเหนือแบบ คอมมิวนิสต์ มีจีนและรัสเซียสนับสนุน สีที่ใช้ คือสีแดง รัฐบาลเวียดนามใต้ขณะนั้นได้รับเงินอุดหนุนจากสหรัฐจำนวนมากเพื่อพัฒนา ประเทศให้เจริญก้าวหน้าเป็นตัวอย่างที่ดีของภูมิภาค แต่ไม่ได้มาควบคุมการใช้เงิน ให้โปร่งใส คณะรัฐบาลที่ประกอบไปด้วยพวกพ้อง เครือญาติ สามีภรรยา จึงพากัน คอร์รัปชั่น และบ้าอำนาจ ถ้าใครขัดขวางหรือต่อต้านก็ยิงทิ้งได้เลยในข้อหาเป็น สายลับของเวียดนามเหนือ ขณะนั้นผู้คนพากันหวาดระแวงกันและกัน เพราะไม่ แน่ใจว่าใครเป็นฝ่ายไหน มีฝ่ายเหนือบางคนมาบวชเป็นพระในวัดพุทธ ถูกจับให้ สึก แล้วยิงทิ้ง ด้วยข้อหาเป็นสายลับ และเผาวัด สร้างโบสถ์ขึ้นแทน เพราะรัฐบาล ต้องการให้มีแต่ศาสนาคริสต์ด้วย พระจึงต้องอพยพหนีไปอยู่นอกเมือง ปัจจุบัน สองข้างทางจึงมีเห็นแต่โบสถ์คริสต์ วัดพุทธมีหลงเหลืออยู่นอกเมืองหรือในซอย ลึก เหตุการณ์คุกคามวัดพุทธรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนพระที่เมืองเว้ยอมสละชีวิต เผา ตัวเองที่กลางเมืองไซ่ง่อน เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก มีนักข่าวไปสัมภาษณ์มาดาม ที่เป็นภรรยาน้องชายประธานาธิบดีและเป็นคณะรัฐบาลด้วยถึงเรื่องพระเผาตัวเอง ขณะที่sheกำลังช็อปปิ้้งอยู่ที่ฝรั่งเศส (ดูคุ้นๆ อีกแล้ว) เธอตอบว่า "just a barbucue" (แค่เนื้อย่าง) ทำให้คนเวียดนามโกรธแค้นมาก และอีกหลายเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดสงครามเวียดนาม ทุกอย่างเป็นธรรมะที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ทรงแสดงไว้ว่า "อำนาจเป็นใหญ่ในโลก วโส อิสสริยัง โลเก" แต่ถ้าผู้ใช้อำนาจนั้นไม่ประกอบด้วยธรรม ผู้ใช้อำนาจและผู้ อยู่ใต้อำนาจนั้นย่อมประสบความหายนะทั้งในปัจจุบันและอนาคต มีตัวอย่างให้เห็นประจักษ์มากมาย หวังว่าการเผยแพร่ความเห็นถูกให้มีผู้เข้าใจความ จริงมากขึ้นๆ ๆ จนความเข้าใจนั้นทำกิจให้ทำดีและศึกษาพระธรรมมากขึ้น จะช่วยชาติ คือการเกิดขึ้นของจิต เจตสิก รูป เป็นแต่ละคนพ้นจากภัยทั้งปวงได้
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นัน
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของอาจารย์กาญจนา เป็นอย่างยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขออนุโมทนาพี่แดงคะที่ทำให้แสงธรรมส่องมาถึงไทยด้วยค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นัน
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของอาจารย์กาญจนา เป็นอย่างยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพสูงสุด และขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณแม่แดงที่กรุณาเล่าประวัติศาสตร์ ช่วงหนึ่งของเวียดนาม ทำให้เห็นว่าไม่ว่าประเทศไหน
"ถ้าผู้ใช้อำนาจนั้นไม่ประกอบด้วยธรรม ผู้ใช้อำนาจและผู้อยู่ใต้อำนาจนั้นย่อม ประสบความหายนะทั้งในปัจจุบันและอนาคต"
ยิ่งทำให้เห็นว่า อกุศลจิต นำความเดือดร้อนมาให้ ไม่เฉพาะตนแต่รวมถึงคนส่วนใหญ่ด้วย ผู้นำที่ดีจึงควร ปกครองด้วยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของชนส่วนรวมค่ะ
ขอกราบอนุโมทนาในกุศลจิต ของทุกๆ ท่านค่ะ
ถ้อยคำสนทนาธรรมะระหว่างท่านอาจารย์และสหายธรรมชาวเวียดนามบางตอนครับ
Understanding dhamma cannot be sudden. It takes time. Comparing to studying foreign language, one has to study one word at a time and need to remember and understanding. But understanding dhamma is much more difficult because we has been with ignorance for long long time.
เข้าใจพระธรรมมิได้เกิดขึ้นได้ทันที แต่ต้องใช้เวลา เหมือนเรียนภาษาต่างชาติ ต้องเรียนทีละคำ จนเข้าใจและต้องจำได้ แต่การเข้าใจธรรมะยากกว่ามากเพราะเราอยู่กับความไม่รู้มานานแสนนาน
The word "anatta" is difficult for us to understand because we have wrong view of atta from life after life. How can we understand anatta in short time?.
แม้คำว่า "อนัตตา" ก็ไม่ง่ายที่จะเข้าใจ เพราะเรามีความเห็นผิดเรื่องอัตตามากหลายชาติแล้ว จะเข้าใจอนัตตาในเวลาอันสั้นได้อย่างไร?
The Lord Buddha said that everything is anatta but we are against his teaching by thinking that "I can do".
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ทุกสิ่งเป็นอนัตตา แต่เรากลับทำตรงข้ามที่ทรงตรัส โดยคิดว่า "ฉันทำได้"
Do we notice that we understand dhamma very little and in very short time during listening to dhamma? After that we spend our daily life full of kilesas. How understanding can be developed more and more until deeply rooted?
เราสังเกตไหมว่า ความเข้าใจธรรมะเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยและไม่นานชั่วขณะที่ฟังธรรมะเท่านั้น หลังจากนั้นชีวิตประจำวันของเราเต็มไปด้วยกิเลส เมื่อเป็นเช่นนี้ความเข้าใจพระธรรมจะเพิ่มขึ้นจนมั่นคงได้อย่างไร?
Speaking a lot of words in Tipitaka without real understanding, one will actually achieve nothing.
พูดคำในพระไตรปิฎกโดยไม่เข้าใจจริงๆ ผู้พูดย่อมไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ
Anatta shall be heard and considered so many times until it is firmly understood.
ควรฟังและพิจารณาเกี่ยวกับคำว่าอนัตตาหลายๆ ครั้ง จนกว่าจะเข้าใจได้อย่างมั่นคง
Right understanding is never wrong but practicing without right understanding is inevitably wrong.
ความเข้าใจถูกไม่มีทางผิด แต่การปฏิบัติโดยขาดความเข้าใจย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะผิด
The Lord Buddha not only taught right 8 Fold Paths but also wrong 8 Fold Paths.
พระพุทธองค์มิได้ตรัสเฉพาะสัมมามรรค ๘ แต่ทรงตรัสมิจฉามรรค ๘ ด้วย
With wrong understanding, it's always wrong 8 Fold Paths.
เมื่อมีความเห็นผิด นั้นย่อมหมายถึงมิจฉามรรค ๘
Right understanding is the way to detach wrong understanding.
ความเข้าใจถูกย่อมเป็นหนทางที่จะละความเห็นผิด
While sila arises, one must understand that sila is anatta, not anyone's sila with self.
แม้ศีลเกิดขึ้น ต้องเข้าใจด้วยว่าศีลก็เป็นอนัตตาไม่ใช่ของใครที่เป็นตัวตน
Even though we've heard about avijja and Paticca-samuppada, but if we don't have any understanding, we will never know that it's all about now.
แม้เราจะรู้จักคำว่าอวิชชาหรือปฏิจสมุทปาท แต่ถ้าไม่มีความเข้าใจแล้วเราจะไม่รู้เลยว่าเป็นเรื่องของขณะนี้ทั้งหมด
One never eradicate unwholesomeness unless understanding what is it.
จะละกิเลสได้ก็ต่อเมื่อเข้าใจก่อนว่ามันคืออะไร
If The Lord Buddha taught us to practice, no need for him to teach for 45 years.
ถ้าพระพุทธองค์ทรงตรัสให้ปฏิบัติ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทรงแสดงธรรมะถึง 45 ปี
If The Lord Buddha were here, what would we do?
ถ้าพระพุทธองค์ทรงอยู่ที่นี้ พวกเราจะทำอะไร?
This moment is a moment of samsara. If there is no this moment, there is no samsara.
ขณะนี้คือขณะหนึ่งในสังสารวัฏฏ์ ถ้าไม่มีขณะนี้ ย่อมไม่มีสังสารวัฏฏ์แน่
When right understanding arises, there is no one.
เมื่อมีความเข้าใจ ย่อมรู้ว่าไม่มีใครเลย
We don't have to look for dhamma because dhammas always arise and fall away. Just understanding them.
เราไม่ต้องไปหาธรรมะที่ไหนเลย เพราะธรรมะเกิดดับอยู่แล้วตลอดเวลา เพียงแต่เข้าใจมันเท่านั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ