เมื่อใกล้ถึงเวลาที่ต้องพลัดพรากสูญเสียผู้มีพระคุณ (คุณแม่)
คุณแม่ผม (อายุ ๗๙ ปีป่วยหนักหลายโรคมาพร้อมๆ กัน รักษาอยู่ ICU มาเดือนกว่า ... เมื่อ 2 วันก่อนมีภาวะการหยุดหายใจ แต่ปั๊มกลับมาได้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่รู้สึกตัวเลย ...
การที่ (เรา) กำลังจะต้องสูญเสียพลัดพรากบุคคลอันเป็นที่รัก และผู้มีพระคุณ เป็น สถานการณ์ที่ต้องทำใจ และเข้าใจความจริงว่าทุกอย่างไม่เที่ยงมีการเปลี่ยนแปลง ไม่แน่นอน ...
ขอธรรมและคำแนะนำในการตอบแทนพระคุณของคุณแม่จากอาจารย์ และ ทุกๆ ท่านด้วยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุด ดูแลท่านอย่างดีที่สุด และ ไม่ละเลยโอกาสที่สำคัญ คือการมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา ปัญญาความเข้าใจ ถูกเห็นถูก จะไม่ทำให้เศร้าโศกเสียใจ แต่จะทำให้ยิ่งมั่นคงในความเป็นจริงของธรรม ว่า ความตายเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ตราบใดที่ยังมีการเกิดอยู่ ความตาย ก็ต้องมี
ทุกคนเกิดมาแล้วต้องตายด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะไปไหน หนีไปอยู่ ณ ที่ใดก็ไม่พ้น เพราะสัตว์โลกถูกความตายครองงำไว้ และจะต้องพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รักทั้งปวง อย่างหนีไม่พ้น นี้คือ สัจจธรรม (ความจริง) ที่ทุกคนควรรู้ ความจริงเป็นอย่างไรก็ ต้องเป็นอย่างนั้น จะไปเปลี่ยนแปลงความจริงให้เป็นอย่างอื่น ก็ไม่สามารถที่จะเป็น ไปได้เลย
จึงควรที่จะได้พิจารณาว่า ไม่มีอะไรที่จะเป็นที่พึ่งสำหรับชีวิตอย่างแท้จริง นอกจากปัญญา ความรู้ความเข้าใจซึ่งความจริงเท่านั้น แม้จะมีพ่อแม่พี่น้อง ญาติสนิทมิตรสหาย แต่ในที่สุดแล้ว ก็จะต้องทิ้งกันและกันอยู่ดี ด้วยความตาย ที่เกิดขึ้น ไม่มีทรัพย์สมบัติไม่มีบุคคลอื่นติดตามไปในภพหน้าได้ แต่ความดีที่ ได้สะสมไว้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ปัญญาที่เกิดจากการ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมในแต่ละครั้งในชีวิตประจำวันนั้น ไม่สูญหายไปไหน สะสมสืบต่ออยู่ในจิตทุกขณะ และ จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริงสำหรับชีวิต จนกว่า จะมีปัญญาคมกล้าสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด ไม่ต้องมีการเกิดอีกในสังสารวัฏฏ์ ครับ.
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การตอบแทนพระคุณบิดา มารดา ที่สูงสุด และ จะเป็นชื่นใจของบิดา มารดา และ แม้ท่านจะรับรู้ หรือ ไม่รับรู้ก็ตาม คือ การเป็นคนดี ที่ไม่ใช่เพียงการทำความดีทั่วไป เท่านั้นแต่เป็นความดี ด้วยการศึกษาพระธรรม ที่เป็นการเจริญปัญญาตามที่พระพุทธ เจ้าทรงแสดง เพราะ ปัญญาที่เจริญขึ้น ย่อมนำทางให้ ปฎิบัติตนถูกต้อง ตามที่พระ พุทธเจ้าทรงแสดง ใน สิงคาลกสูตร ที่แสดงว่า มารดา บิดา เป็นทิศเบื้องหน้า การ ตอบแทน คือ การเลี้ยงดูท่าน เมื่อท่านแก่ชรา ก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และเมื่อท่านจาก ไป ก็ทำบุญ อุทิศส่วนกุศลไปให้เป็นสำคัญ ครับ
ควรพิจารณาว่า ชีวิตทุกคนต้องจากไป และ สัตว์ในโลกก็เป็น บิดา มารดา มา นับชาติไม่ถ้วน พระพุทธเจ้าทรงอุปมา ว่า หาก นำดินปั้นทีละก้อน ในทั่วโลก ดินนั้น ยังน้อยกว่า การเกิดมีมารดา ในสังสารวัฏฏ์ที่มากกว่านั้น ดังนั้นชีวิตที่เหลือยู่ก็เกื้อกูล ทำหน้าที่ของตนที่เป็นบุตรจนวาระสุดท้าย และ การเป็นคนดี และ ศึกษาพระธรรม เป็นความกตัญญูอันสูงสุด และ หากจะเศร้าโศกก็ควรนึกถึงตนเองที่มี ความตายเป็นธรรมดา และ ไม่ประมาทที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เพื่ออบรม ปัญญา ดับกิเลส หมดทุกข์ที่จะต้องมาเศร้าโศก เพราะ การมีคนที่รัก ครับ
อนนุโสจิยชาดก
ทุกคนจะต้องตายควรเมตตากัน
[๖๑๒] อายุสังขารหาได้เป็นไปตามเฉพาะสัตว์ ที่ยืน นั่ง นอนหรือเดินอยู่เท่านั้นก็หาไม่ วัยย่อมเสื่อมไปทุกขณะที่ยังหลับตาและ ลืมตาอยู่.
[๖๑๓] เมื่อวัยเสื่อมไปอย่างนั้นหนอ ในตน ซึ่งเป็นทางอันตรายนั้นหนอ ต้องมีความ พลัดพรากจากกันโดยไม่ต้องสงสัย หมู่ สัตว์ที่ยังเหลืออยู่ ควรมีเมตตาเอ็นดูกัน ส่วนที่ตายไปแล้ว ไม่ควรจะต้องเศร้าโศกถึง.
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
... อริยสาวิตรี ...
พุทธังสรณังคัจฉามิ ธัมมังสรณังคัจฉามิ สังฆังสรณังคัจฉามิ
ขอเป็นกำลังใจแก่คนดีผู้มีกตัญญูกตเวทีทุกๆ ท่าน
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
