การละกิเลส
ผมได้อ่านเจอในหนังสือของคุณจารุพรรณ เรื่อง "ประสบการณ์ทางธรรม" แล้ว ได้อ้างถึงเรื่องที่ท่านได้ฟังจากท่านอาจารย์สุจินต์ว่า ก่อนจะละโลภะ ละโทสะ ละโมหะ นั้นจะต้องละกิเลสก่อน ช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วยครับ ยังไม่เข้าใจดีเลยครับ แล้วละกิเลสนั้นจะละอย่างไรก่อน ที่จะละโลภะ ละโทสะ และ ละโมหะ ถ้าละกิเลสได้แล้ว ต่อจากนั้นจะละโลภะ โทสะ โมหะต่ออย่างไรครับ
กราบขอบพระคุณ
ธรรมที่ทำให้จิตเศร้าหมองเรียกว่ากิเลส มี ๑๐ ประการ คือ โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตตัปปะ กิเลสทั้งหมดนี้จะละได้ด้วยปัญญาขั้นโลกุตรปัญญา และละได้ตามลำดับมรรค คือ มรรคที่ ๑ โสตาปัตติมรรค ละทิฏฐิ ได้แก่ ความเห็นผิดจากความเป็นจริงและละวิจิกิจฉา ความสงสัยในคุณพระรัตนตรัย เป็นต้น ส่วนกิเลสที่เหลือยังละไม่ได้ พระอนาคามีละโทสะได้ กิเลสที่เหลือต้องอาศัย ปัญญาขั้นอรหัตตมรรคจึงจะละได้
สรุป คือ กิเลสจะละได้ตามลำดับขั้น ลำดับแรกจะละโลภะ โทสะ โมหะยังไม่ได้ ต้องละความเห็นผิดก่อน กิเลสที่เหลือจะละได้เมื่อเจริญปัญญาขั้นสูงกว่านั้น
คุณเคยเจอสภาพเช่นนี้ไหม ดูเหมือนเป็นคนดีมีเมตตา เช่น เมื่อเห็นคนที่ยากจนลำบาก ก็รู้สึกสงสารอย่างจับใจช่วยเหลือราวกับชีวิตของตัวเอง แต่พอเขาลืมตาอ้าปาก กินดี อยู่ดี กว่าเราเท่านั้นเอง เราก็จะเป็นจะตายให้ได้เลย อะไรคือเหตุแห่งอกุศลก็เพราะกิเลส ตัวเดียวนี้แหละ ที่ทำให้ คนเราเดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย ไม่มีใครดับกิเลสได้เลย ถ้าไม่ศึกษาพระธรรม