พระเล่าความฝัน
คืออาตมาสงสัยว่าเป็นพระนี่ถ้าเล่าความฝันให้กับครอบครัวฟังนี่ถือเป็นการอวด อุตริมนุสธรรมหรือไม่ครับอวด อุตริมนุสธรรม
คือเรื่องมีอยู่ว่าคืนหนึ่งอาตมาฝันเห็นสิงโตเข้ามาในบ้าน พอตื่นขึ้นมาก็เลยเปิด ดูคำทำนายฝันในอินเตอร์เน็ทดูคำทำนาย ใจความคำทำนายก็ตามนี้เลยจ้า "หากท่านฝันว่าท่านเห็นสิงโตหรือเสือ ที่มีความองอาจ สง่าผ่าเผย ไม่ว่าจะเป็นตัว ผู้หรือตัวเมียก็ตาม (ไม่ได้วิ่งเข้ามาทำร้ายท่าน แค่เห็น ได้ขี่ หรือได้จับเฉยๆ ) ทำนายฝันว่า ท่านจะได้รับของขวัญจากญาติผู้ใหญ่ การงานสิ่งใดก็ตามหากมี อุปสรรคจะมีคนที่มีอายุมากกว่า เข้ามายื่นมือช่วยท่านเอาไว้ หรือ ในอนาคต ท่านจะเป็นคนที่มีบุญวาสนา มีบารมีมาก หากท่านทำงานเกี่ยวกับรับราชการ จะมียศถาบรรดาศักดิ์มาก เป็นคนที่คนรอบข้างเกรงใจ หากท่านเป็นผู้ที่ตั้งครรภ์ อยู่ท่านอาจจะได้บุตรที่มีกำลังเข้มแข็งมาก เป็นคนที่มีความองอาจ สง่าผ่าเผย และไม่กลัวใคร เป็นที่พึ่งของพ่อแม่ได้ในอนาคต"
หลังจากนั้นได้เอามาเล่าให้กับครอบครัวฟังและเปิดคำนายให้กับครอบครัวดู พอมานั่งคิดดูย้อนหลังก็กังวลว่าจะถือเป็นการอวดอุตริมนุสธรรมหรือไม่ เลยลอง ไปเปิดดูตำราหาความหมายของการอวดอุตริมนุสธรรม ตำราก็บอกว่าอุตริมนุษย ธรรมนั้น คือ ธรรมอันยอดยิ่งของมนุษย์ ได้แก่ ญาณ วิโมกข์ สมาธิ สมาบัติ มรรค ผล เป็นต้น ในความเข้าใจของอาตมาการอวดอุตริมนุสธรรมคือเป็นการหลอกลวง ประชาชน ว่าได้บรรลุธรรม โดยหวังลาภยศ แต่อาตมาก็เล่าสิ่งที่ได้ฝันจริงๆ ให้ ครอบครัวฟัง ไม่ได้หลอกลวงอย่างใด ในความฝันของอาตมานั้นส่วนตัวก็คิดว่า ไม่ได้มีการอวดว่าบรรลุธรรมแต่อย่างใดน่ะครับ แต่ก็ยังคงกังวลและคิดมาก อาตมา เลยสงสัยว่าแบบนี้ถือเป็นการอวดอุตริมนุสธรรมหรือไม่ครับ
รบกวนท่านผู้รู้ไขข้อสงสัย ให้กับอาตมาหน่อยนะครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ ครับ
อวดอุตริมนุสธรรมหมายความว่า อวดคุณอันไม่มีอยู่ อันไม่เป็นจริง เช่น อวดว่าตนเองได้ฌาน วิโมกข์ สมาบัติ ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ภิกษุที่อวด คุณธรรมอันไม่มีในตนย่อมอาบัติปาราชิก คือ ขาดจากความเป็นพระภิกษุ จากที่ได้อ่านข้อความที่พระคุณเจ้าได้เขียนมา นั้น พระคุณเจ้า ไม่ได้กล่าวอวด คุณที่ไม่มีในตน แต่ประการใด จึงไม่เป็นการกล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม แต่จะต้อง เป็นผู้ละเอียดว่า แม้จะไม่ได้เป็นอาบัติปาราชิก ซึ่งเป็นอาบัติหนัก ก็ควรที่จะได้ พิจารณาว่า สิ่งใดควรพูด สิ่งใดไม่ควรพูด เพราะสิ่งใดก็ตามที่พูดไปแล้ว ไม่ได้ เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรม มีแต่ทำให้อกุศลธรรมเกิดเพิ่มมากขึ้น เพิ่ม พูนความเห็นผิด เพิ่มพูนความไม่รู้ให้มีมากขึ้น อย่างนี้ก็ไม่ควรพูด สิ่งที่ควรกล่าว เป็นอย่างยิ่ง เพื่อเกื้อกูลแก่ผู้อื่น ก็คือ พระธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่งจะต้องเป็นผู้มีความเข้าใจถูกเห็นถูก ก่อน จึงจะสามารถเกื้อกูลคนอื่นให้ได้เข้าใจ ถูกเห็นถูก ได้
เพศบรรพชิต เป็นเพศที่จะต้องขัดเกลาเป็นอย่างยิ่ง ครับ ที่สำคัญที่สุด ที่ขาด ไม่ได้เลยคือ การฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม ให้เข้าใจ ขัดเกลากิเลสของตนเอง ให้สมกับเป็นผู้ที่ตั้งใจสละอาคารบ้านเรือน สละทรัพย์สมบัติ เป็นต้น แล้วมุ่งสู่เพศ ที่สูงยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีโอกาสได้ศึกษาในส่วนของพระวินัยบัญญัติ เป็น สิกขาบทแต่ละข้อๆ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ ซึ่งถ้าได้เข้าใจอย่าง ถูกต้องและน้อมประพฤติตามในสิ่งที่ควร และละเว้นในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรแล้ว ความเดือดร้อนใจในภายหลังก็จะไม่เกิดขึ้น ครับ
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อวดอุตริมนุสธรรม คือ การอวดคุณของความดีที่เหนือมนุษย์ ที่มนุษย์โดยทั่วไป ไม่มีกันเช่น การบรรลุธรรม การได้ฌาน สมาบัติ ที่เกิดจกาการเจริญสมถภาวนา การได้มรรคผล ที่เกิดจากการเจริญวิปัสสนา ซึ่งคุณธรรมเหล่านี้ มนุษย์ทั่วไปโดย มาก ไม่มีกัน และ เป็นคุณธรรมขั้นสูง ซึ่ง พระภิกษุสงฆ์ จะเป็นการอวดอุตริมนุสธรรม ก็ด้วยการกล่าวถึงคุณธรรมของตนเอง ที่ตนเองไม่มีจริง ที่เป็นคุณธรรมขั้นสูงเหนือ มนุษย์ ที่เป็นฌาน วิปัสสนา มรรค ผล เป็นต้น อย่างนี้ เป็นการอวดอุตริมนุสธรรม ที่เป็นคุณธรรมเหนือมนุษย์ แต่ ถ้าเป็นการกล่าวอ้าง ถึงทรัพย์สมบัติ การได้ลาภ ยศ สรรเสริญ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่คุณธรรมเลย แต่เป็นสิ่งที่ทั่วไปกับชาวบ้านที่ได้กันอยู่แล้ว จึงไม่ใช่ตัวคุณธรรมที่มนุษย์ทั่วไปไม่มี แต่เป็นผลของกรรมที่เป็นวิบากที่เกิดจาก กรรมดีให้ผล เพราะฉะนั้น เราจะต้องแยกว่า การอวดอุตริมนุสธรรม ธรรมที่เหนือ มนุษย์ หมายถึง ตัวเหตุที่เป็นคุณธรรมที่เป็นความดีขั้นสูง แต่การได้ทรัพย์ ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นผล ที่ไม่ใช่เหตุ ครับ ดังนั้นการกล่าวอวดอ้าง ในสิ่งที่เป็นผลของกรรม เหล่านี้ ไม่ใช่การอวดอุตริมนุสธรรม ไม่ต้องอาบัติปาราชิก ครับ
ที่สำคัญ เพศบรรพชิต เมื่อบวชแล้ว สำคัญที่สุด คือ ประพฤติตามพระธรรมวินัย และ เห็นโทษของกิเลสแม้เพียงเล็กน้อย ดุจการเห็นก้อนเมฆที่ลอยบนอากาศ ที่ ใหญ่โต ไม่ควรประมาทในอกุศลเล็กน้อย และ สำคัญที่สุด คือ ศึกษาพระธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้วด้วย ครับ
ขออนุโมทนา