ไม่ถือมั่น ยึดมั่น อุปาทานขันธ์ ๕

 
chomchean
วันที่  11 ก.ย. 2556
หมายเลข  23575
อ่าน  821

[เล่มที่ 27] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓- หน้าที่ 261

[๒๐๗] ดูก่อนท่านยมกะส่วนพระอริยสาวกผู้สดับแล้ว

ได้เห็นพระอริยะทั้งหลาย ฉลาดใน อริยธรรมได้รับแนะนำใน อริยธรรม

ดีแล้ว ได้เห็นสัตบุรุษทั้งหลาย ฉลาดใน สัปปุริสธรรมได้รับแนะนำใน

สัปปุริสธรรม ดีแล้ว ย่อมไม่เห็นรูปโดยความเป็นอัตตา ย่อมไม่เห็น

อัตตามีรูป ย่อมไม่เห็นรูปในอัตตา หรือย่อมไม่เห็นอัตตาในรูป

ย่อมไม่เห็นเวทนาโดยความเป็นอัตตา ฯลฯ ย่อมไม่เห็นสัญญา

โดยความเป็นอัตตา ฯลฯ ย่อมไม่เห็นสังขารโดยความเป็นอัตตา ฯลฯ

ย่อมไม่เห็นวิญญาณโดยความเป็นอัตตา ย่อมไม่เห็นอัตตามีวิญญาณ

ย่อมไม่เห็นวิญญาณในอัตตา หรือย่อมไม่เห็นอัตตาในวิญญาณ

เขาย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่ง

รูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ

อันไม่เที่ยงว่า ไม่เที่ยง

ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่ง

รูปเวทนาสัญญ สังขาร วิญญาณ

อันเป็นทุกข์ว่า เป็นทุกข์

ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่ง

รูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ

อันเป็นอนัตตาว่า เป็นอนัตตา

ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่ง

รูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ

อันปัจจัยปรุงแต่ง ว่าปัจจัยปรุงแต่ง

ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่ง

รูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ

อันเป็นผู้ฆ่า ว่าเป็นผู้ฆ่า

เขาย่อมไม่เข้าไปถือมั่น ยึดมั่น ซึ่ง

รูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณว่า

ว่าเป็นตัวตนของเรา

อุปาทานขันธ์เหล่านี้

อันอริยสาวกนั้น ไม่เข้าไป ถือมั่น ยึดมั่นแล้ว

ย่อมเป็นไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อสุขตลอดกาลนาน.

…………………..


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ