ความเป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน
จะพยายามเข้าใจคำ หรือจะเข้าใจธรรมที่กำลังปรากฏ ความพยายามที่จะเข้าใจ
ไม่ใช่หนทาง เพราะจะพยายามให้สติเกิด ย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่ทำไมไม่เข้าใจสภาพ
ธรรมเพื่อเป็นปัจจัยให้สติเกิด แทนที่จะพยายามด้วยความเป็นเรา มิเช่นนั้นสติก็จะ
เป็นที่ต้องการของ โลภะ สติเป็นอารมณ์ของโลภะ ด้วยความไม่เข้าใจสภาพธรรม
พระพุทธองค์ทรงตรัส แต่ละขณะของชีวิต ที่มีจริงๆ มีเห็น ได้ยิน โลภะ ความขุ่นเคือง
ใจ พุทธธัง สรณัง คัจฉามิ มีพระพุทธองค์เป็นที่พึ่ง ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ มีพระ
ธรรมคำสอนที่จะเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นที่จะเป็นที่พึ่งได้ ไม่ใช่คิดเอาเอง แต่ด้วยการ
ฟังให้เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ เข้าใจลักษณะของสภาพธรรมแต่ละอย่าง เห็น ได้ยิน
มีจริงๆ ไม่ใช่เพียงเข้าใจคำว่า เห็นมีจริง ได้ยินมีจริง เห็นไม่ได้อยู่ในพระไตรปิฎก
ไม่ได้อยู่ในหนังสือเล่มใด ขณะนี้ เห็น เป็นเห็น เกิดขึ้นเห็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตา
เท่านั้น ลักษณะของเห็นไม่เปลี่ยน เห็นจะได้ยินเสียงไม่ได้ พระอรหันตสัมมา-
สัมพุทธเจ้าทรงแสดงสภาพธรรมที่มีจริงแต่ละอย่าง ไม่มีเรา ไม่ใช่เรา ไม่มีตัวตน
นี่คือ สิ่งสำคัญที่จะเข้าใจความจริง ไม่มีใครทำเห็น ไม่มีใครทำไม่ให้เห็นได้ นี่คือ
ความเป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน
... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ