หัตถกเทพบุตรไม่อิ่มในธรรม ๓ อย่าง

 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่  27 ก.ย. 2556
หมายเลข  23711
อ่าน  896

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

[๕๖๗] ...ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสถามว่า ดูกรหัตถกะ ธรรมที่เป็นไปแก่ท่านผู้เป็นมนุษย์ แต่ครั้งก่อนนั้น บัดนี้ยังเป็นไปแก่ท่าน อยู่บ้างหรือ หัตถกเทพบุตรกราบทูลว่า พระเจ้าข้า ธรรมที่เป็นไปแก่ข้าพระองค์ เมื่อยังเป็นมนุษย์ครั้งก่อนนั้น บัดนี้ ก็ยังเป็นไป แก่ข้าพระองค์อยู่ และ ธรรมที่มิได้เป็นไปแก่ข้าพระองค์ เมื่อยังเป็นมนุษย์ครั้งก่อนนั้น บัดนี้ก็เป็นไปอยู่

ขอความอนุเคราะห์ ช่วยกรุณาอธิบายความหมายข้อความที่ขีดเส้นใต้ เป็นธรรมอย่างไรคะ

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาในคำตอบและกุศลทุกประการของทุกท่านค่ะ ด้วยความเคารพ จาก ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี (ใหญ่ราชบุรี)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 27 ก.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

หัตถกเทพบุตร แสดงถึงธรรมที่ท่านเคยฟัง เคยศึกษาในสมัย เป็นมนุษย์ แม้ท่านเกิดในพรหมโลก ท่านก็ยังจำได้ ไม่ลืม เพราะ ท่านจำได้เพราะ เกิดปัญญาบรรลุธรรมแล้ว ถึงความเป็นพระ อนาคามี จึงไม่ลืมธรรมที่เคยเรียนนี่คือ ธรรมที่เคยอบรมและ ก็ยังเป็นอยู่ นั่นก็คือ การเจริญสติปัฏฐาน ระลึกรู้ลักษณะของ สภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ รวมถึงพระธรรมที่เคยได้ยิน ได้ฟัง ก็ยังจำได้

และธรรมที่ข้าพระองค์ไม่เคยมีในมนุษย์ บัดนี้ก็เป็นไปอยู่ คือ ปัญญาที่คมกล้า มากขึ้น มีกำลงมากขึ้น เพื่อถึงความเป็นพระอรหันต์ ข้อสำคัญที่ทุกคนควรพิจารณา คือ เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็น สิ่งที่ได้ยากแสนยาก ก็ควรที่จะเป็นมนุษย์ที่แท้จริง แสวงหา ประโยชน์จากการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ให้มากที่สุด ด้วยการฟัง พระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ แล้วน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม ไม่ประมาทในการเจริญกุศล ทุกประการ เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองต่อไป ครับ.

ขออนุโทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 27 ก.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จากเรื่องของท่านหัตถกเทพบุตร (พรหมบุคคลในพรหมโลกชั้น อวิหา) ก็แสดง ถึงความเป็นผู้เห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา ปัญญาที่สะสมไว้ ความเข้าใจพระธรรมไม่สูญหายไปไหน สะสมสืบต่ออยู่ในจิต ทุกขณะ เพราะมีเหตุที่สำคัญนั่นก็คือ การมีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง นี้คือ เหตุสำคัญที่จะทำให้ปัญญาเจริญขึ้น เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมก็ทำให้ท่านได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคล ขั้นพระอนาคามี (ซึ่งคำว่า ธรรมในที่นี้ ในอรรถกถาได้อธิบายไว้ว่า หมายถึง พระพุทธพจน์ ที่หัตถกเทพบุตร เคยเรียนมาในกาลก่อน) และ ในที่สุดก็จะได้ บรรลุเป็นพระอริยบุคคลขั้นสูง คือ ถึงความเป็นพระอรหันต์ ดับกิเลสทั้งปวงได้ อย่างหมดสิ้น ซึ่งก็ไม่มีหนทางอื่น นอกจากหนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญา เจริญมรรคมีองค์ ๘ มีสัมมาทิฏฐิ เป็นต้น นั่นเอง ซึ่งก็เป็นหนทางเดียวและหนทาง เดิมที่พระอริยบุคคลทั้งหลายได้ดำเนินไปแล้ว

และอีกประเด็นหนึ่งที่น่าพิจารณา คือ บุคคลผู้ที่มีปัญญา มีความเข้าใจถูกเห็น ถูกในธรรมตามความเป็นจริง ก็จะสามารถเป็นที่พึ่งให้กับผู้อื่น ได้ด้วย อย่างเช่น ท่านหัตถกเทพบุตร นี้ เป็นผู้แสดงธรรม กล่าวธรรมให้แก่พวกเทพบุตรทั้งหลายผู้ ประสงค์จะฟังพระธรรม เป็นการเกื้อกูลให้ผู้อื่นได้เข้าใจถูกเห็นถูกในธรรม ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 27 ก.ย. 2556

ไม่อิ่มในธรรม เพราะสนใจที่จะฟังธรรมที่ดี ที่งามในเบื้องต้น ท่ามกลาง และ ที่สุด ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
j.jim
วันที่ 28 ก.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 27 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ