ยานอนหลับกับความเข้าใจที่ติดไปกับจิต
กระผมต้องทานยารักษาโรคซึมเศร้าหรือยานอนหลับเกือบทุกวันทำให้บางวันตื่น
ขึ้นมาลืมความเข้าใจที่เกิดจากการอ่านพรือฟังพระธรรมตอนกลางคืนขอเรียนถาม
อาจารย์ว่าความเข้าใจดังกล่าวข้างต้นจะติดตามไปภพหน้าได้ไหมครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
จิตเป็นสภาพธรรมที่สะสม สะสมทั้งฝ่ายดีทีเป็นกุศลและ สะสมธรรมฝ่ายไม่ดี ที่เป็น
อกุศล ทำให้มีอุปนิสัยที่ดีหรือไม่ดี ตามการสะสมของกุศลหรือ อกุศลครับดังนั้นขณะที่
กุศลจิตเกิดขึ้น จิตสะสมแล้ว สะสมธรรมฝ่ายดี คือ สะสมเป็นผู้มีอุปนิสัยที่ดี เช่น ขณะ
ที่ให้ทาน ก็สะสมแล้ว สะสมที่จะเป็นผู้มีอุปนิสัยในการให้ทานมากขึ้นนั่นเอง ขณะที่
โกรธ จิตที่เป็นโทสะเกิดขึ้น สะสมแล้ว สะสมให้มีอุปนิสัยโกรธเพิ่มขึ้นครับ ดังนั้นจะ
เห็นได้ว่าในชาตินี้แต่ละคนมีอุปนิสัยต่างๆ กันเพราะสะสะมมาไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่พ้น
จากการสะสมของจิตที่เป็นกุศลที่เกิดบ้างและอกุศลที่เกิดบ้างครับ
ซึ่ง แม้แต่ขณะที่เข้าใจ ปัญญาเกิดขึ้น แต่เล็กน้อยมาก แต่ ก็มีการสะสมแล้ว
สะสมความเข้าใจ แต่น้อยมาก ซึ่ง ก็เป็นปัจจัยให้ปัญญายังไม่มีกำลัง ยังไม่มั่นคง
จึงเป็นปจัยจัยให้ลืมได้เป็นธรรมดา แม้ผู้ไม่ป่วย ไม่ทายา ก็ลืมแล้วแม้เพียงฟังชั่วครู่
ถือว่าเป็นปกติธรรมดาของปุถุชน เพราะ สภาพธรรมที่ทำให้หลงลืม คือ อวิชชา
กิเลสที่สะสมมามากในจิตใจ จึงลืมได้เป็นธรมดา แม้เพียงชั่วครู่ แต่ว่า แม้ลืมใน
ขณะต่อไป เพราะ ความที่ปัญญายังไม่มีกำลัง แต่ก็ได้สะสมความเข้าใจทีละน้อย
แล้ว โดยไม่รู้ตัว เปรียบเหมือนการจับด้ามมีด ที่ จับแล้วไม่เห็นรอยสึก ดังนั้น ความ
เข้าใจก็สะสมต่อไปใน จิตขณะต่อไป และ ที่สมมติที่เรียกว่าชาติหน้าด้วย ครับ และ
ในอนาคต เมือ่ได้ยิน ได้ฟังพระธรรมที่ถูกต้องอีก ก็สนใจ และ ศึกษาอีก เหมือนชาตินี้
ที่ผู้ถาม สนใจในธรรม ก็เพราะ มีการสะสมความเข้าใจในอดีตชาติมานั่นเอง ครับ
ความเข้าใจึงไม่ไหายไปไหน ก็ค่อยๆ สะสมไปมทีละน้อย และ เป็นปัจจัยห้หลงลืม
ได้เป็นธรรมดา แต่เมื่อสะสมปัญญาจนมีกำลัง ย่อม หลงลืมน้อยลง เพราะปัญญา
มากขึ้น กิเลสที่ทำให้หลงลืมน้อยลง ซึ่ง อีกยาวไกลกหว่าจะถึงจุดนั้น ดังนั้น หน้าที่
คือ ขอให้ฟังพระธรรม ศึกาษพระธรรมต่อไป ครัยบ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขณะที่มีการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมนั้น ก็เป็นการเริ่มสะสมความเข้าใจถูกเห็น
ถูก จะให้ปัญญาเจริญขึ้นมากๆ ในทันทีทันใดก็ไม่ได้ ก็ต้องค่อยๆ สะสมความ
เข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย เพราะเหตุว่าสะสมความไม่รู้มานานแสนนาน
ถูกปกคลุมมืิดมิดด้วยความไม่รู้และกิเลสอกุศลธรรมประการต่างๆ มานานแสนนาน
จึงต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานในการสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกซึ่งจะเป็นไปเพื่ี่อ
ขัดเกลาความไม่รู้ซึ่งมีเป็นอย่างมากไปทีละเล็กทีละน้อย ความเข้าใจไม่สูญหาย
ไปจากจิต มีแต่จะสะสมเพิ่มขึ้น ถ้าไม่ขาดการฟังพระธรรม เมื่อเห็นประโยชน์ของ
พระธรรม ก็จะไม่ละเลยโอกาสที่สำคัญ ตราบใดที่ยังมีการฟังพระธรรมศึกษา
พระธรรมอยู่ มีหรือที่จะไม่เข้าใจ? ก็จะต้องเข้่าใจอย่างแน่นอน ฟังแล้วมีการ
พิจารณาไตร่ตรองในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง ถ้าในขณะที่ไม่ได้ฟัง ก็สามารถที่จะพิจารณา
ไตร่ตรองในพระธรรมที่ได้ยินได้ฟัง ได้ ที่สำคัญจะต้องไม่ใจร้อน ค่อยๆ เป็น
ค่อยๆ ไป
อย่างความประพฤติเป็นไปของคุณ papon ที่มีการสนทนา สอบถามในประเด็น
ธรรมต่างๆ ก็จะเป็นเหตุสำคัญทำให้ความเข้าใจถูกเห็นถูกค่อยๆ เจริญขึ้น ทำให้
มีความมั่นคงในความเป็นจริงของธรรมเพิ่มขึ้นว่า ทุกขณะ มีแต่ธรรมเท่านั้นที่เกิดขึ้น
เป็นไป ไม่มีเรา ไม่ใช่เรา ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...