อริยมัคคญาณ [สาวัตถีนิทาน-ชาณุสโสณีพราหมณ์]

 
munlita
วันที่  29 ก.ย. 2556
หมายเลข  23724
อ่าน  1,266

จากกระทู้เดิม สีขาวกับอริยมรรค [พราหมณสูตร] มีข้อความตอนหนึ่งที่กล่าวว่า

อริยมรรคญาณนั้นมีธรรม คือ

#ศรัทธากับปัญญา - เป็นแอก

#มีศรัทธา - เป็นทูบ

#มีหิริ - เป็นงอน

#มีใจ - เป็นเชือกชัก

#มีสติ - เป็นสารถีผู้ควบคุม

#รถนี้มีศีล - เป็นเครื่องประดับ

#มีฌาน - เป็นเพลา

#มีความเพียร - เป็นล้อ

#มีอุเบกขากับสมาธิ - เป็นทูบ

#ความไม่อยากได้ - เป็นประทุน

#กุลบุตรใดมีความไม่พยาบาทความไม่เบียดเบียน และวิเวก - เป็นอาวุธ

#มีความอดทน - เป็นเกราะหนัง

กุลบุตรนั้นย่อมเป็นไปเพื่อความเกษมจากโยคะ พรหมยานอันยอดเยี่ยมนี้ เกิดแล้วในตนของบุคคลเหล่าใด บุคคลเหล่านั้นเป็นนักปราชญ์ ย่อมออกไปจากโลกโดยความแน่ใจว่า มีชัยชนะโดยแท้.

กราบเรียนถามว่า :

๑. ศรัทธากับปัญญา - เป็นแอก อย่างไร

๒. มีศรัทธา - เป็นทูบ อย่างไร

๓. มีหิริ - เป็นงอน อย่างไร

๔. มีใจ - เป็นเชือกชัก อย่างไร

๕. มีสติ - เป็นสารถีผู้ควบคุม อย่างไร

๖. รถนี้มีศีล - เป็นเครื่องประดับ อย่างไร

๗. มีฌาน - เป็นเพลา อย่างไร

๘. มีความเพียร - เป็นล้อ อย่างไร

๙. มีอุเบกขากับสมาธิ - เป็นทูบ อย่างไร

๑๐. ความไม่อยากได้ - เป็นประทุน อย่างไร

๑๑. มีความไม่พยาบาทความไม่เบียดเบียน และวิเวก - เป็นอาวุธ อย่างไร

๑๒. มีความอดทน - เป็นเกราะหนัง อย่างไร

รบกวนท่านผู้รู้ช่วยอธิบายเพิ่่มเติมถึงรายละเอียดให้เข้าใจถึงจุดประสงค์ของการเปรียบเทียบในบทความนี้ได้หรือเปล่าคะ กราบขอบพระคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 30 ก.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

๑. ศรัทธากับปัญญา - เป็นแอก อย่างไร

๒. มีศรัทธา - เป็นทูบ อย่างไร

---------------------------------------------

ศรัทธา ที่ถึงการบรรลุธรรม ศรัทธานั้น เป็นทูบ ที่เป็นส่วนประกอบของรถ ทูบ เป็น

ส่วนที่รองรับรับบรถเกวียนทั้งหมด แพราฉะนั้น ศรัทธา เป็นทูบ คือ ศรัทธา เป็น

สภาพธรรมที่รองรับกุศลธรรมทั้งหมด ครับ และ มีปัญญา เป็นแอกของรถนั้น ปัญญา

ทำหน้าที่รู้ตามความเป็นจริง และ เป็นหัวหน้าของกุศละรรมทั้งหลาย จึงเป็ฯแอก

ทีเป็นคาน รองรับในการเทียมวัว

๓. มีหิริ - เป็นงอน อย่างไร

หิริทีเกิดพร้อมกับ โอตัปปะ และ เกิดพร้อมกับปัญญาระดับสูง ที่เป็นงอนมในตัวรถ ครับ

๔. มีใจ - เป็นเชือกชัก อย่างไร

ใจทีเกดิพร้อมกับปัญญา คือ วิปัสสนาปัญญา และ มรรคจิตที่เกิดพร้อมปัญา เป็น

สภาพธรรมที่รวมสภาพธรรมที่เป้นกุศลธรรมอย่างอื่นๆ ให้เกิดร่วมด้วยและ ละกิเลส

ประการต่างๆ เปรียบเหมือน เชือกท่ำทหน้าที่ รวม โค และ รถให้ไปด้วยกันได้ ครับ

๕. มีสติ - เป็นสารถีผู้ควบคุม อย่างไร

สติทำหน้าที่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพะรรมตามความเป็นจริง และ สตินี้เกิดกับ

ปัญญาระดับมรรคจิต จึงเป็นธรรมที่ทำหน้าที่ระลึกรู้ถูก และ ย่อมทำให้ กิเลส

หมดพยศ ทำให้ รถทั้งหลายไปได้ด้วยดี คือ สภาพธรรมทีเกิดร่วมด้วยเป็นไป

ได้ด้วยดี เปรียบเหมือนสารถี ทีบังคับรถให้ไปได้ด้วยดี ให้เป้นไป ครับ

๖. รถนี้มีศีล - เป็นเครื่องประดับ อย่างไร

รถมีศีลเป็นเครื่องประดับ หมายถึง มรรคจิต หรือ หนทางการดับกิเล สจะต้องมี

ศีลด้วย ศีลนี้เป้นเครือ่งประดับ คือ เกิดพร้อม และ ทำให้สภาพธรรมนั้นงดงามด้วย

ศีล ครับ

๗. มีฌาน - เป็นเพลา อย่างไร

ฌาน เป็นสภาพธรรมทีเผ่ากิเลส ฌานจึงเป็นสภาพธรรมที่เป็นเพลา ของรถ ที่ทำ

ให้ ทรงอยู่ได้ ซึ่ง ฌานในที่นี้ หมายถึง ฌานที่ประกอบด้วยปัญญา ทีเกิดพร้อมกับ

มรรคจิต ทำกิจละกิเลสได้ เป็นสำคัญ ครับ

๘. มีความเพียร - เป็นล้อ อย่างไร

เพียรหมายถึง วิริยเจตสิกทีเกิดพร้อมกับปัญญา ที่ทำให้ การละกิเลสดำเนินเป็นไป

เปรียบเหมือน ล้อที่ทำหน้าที่ หมุน และ ให้รถ ดำเนินไป ครับ

๙. มีอุเบกขากับสมาธิ - เป็นทูบ อย่างไร

สมาธิที่เกิดพร้อมกับปัญญา แต่เป็นความวางเฉย อุเบกขาด้วยปัญา ในขณะนั้น

ย่อมทำกิจให้เป็นไป คือ ความสม่ำเสมอ การวิ่งไปของรถ สมำเสมอฉันใด การละ

กิเลส ก็เป้นไปอย่างสม่ำเสมอฉันนั้น ครับ

๑๐. ความไม่อยากได้ - เป็นประทุน อย่างไร

ประทุน คือ เครื่องหุ้มของรถ ทีเป็นหนัง เป็นต้น ความไม่อยากได้ คือ อโลภเจตสิก

ที่เป้ฯสภาพธรรมที่ไม่ติดข้อง ไม่อยากได้ ซึ่ง อกุศลธรมทั้งหลาย เพราะ สำรอก ละ

คลายกิเลสทั้งหมาย ด้วย มรรคจิต ทีเป็นอโลภเจตสิก ทีเกิดร่วด้วยในขณะนั้น ครับ

๑๑. มีความไม่พยาบาทความไม่เบียดเบียน และวิเวก - เป็นอาวุธ อย่างไร

อาวุธ ที่มีบนรถ ย่อมแทง ต่อ สู้กับข้าศึกศัตรูฉันใด เมตตา ความกรุณา และ ความ

วิเวก ย่อมเป็นอาวุธ ที่ฆ่า ทำลาย กิเลส คือ เมตตา ย่อมทำลาย โทสะ ไม่พยาบาท

กรุณา ย่อมทำลายความพยาบาท และ ความวิเวก ย่อมทำลา ความคลุกคลี ครับและ

วิเวกสูงสุด คือ อุปธิวิเวก ที่เป็น การสงัดจากกิเลสทั้งหมด ย่อมทำลาย อกุศลธรรม

ทั้งหมด จนหมดสิ้น ครับ

๑๒. มีความอดทน - เป็นเกราะหนัง อย่างไร

ความอดทน เป็นเกราะหนัง เพราะ เหตุว่า เพราะ อาศัย ความอดทนต่อ ถ้อยคำชั่ว

ของคนพาล ย่อมไม่หวั่นไหว ฉันใด อาวุธทั้งหลาย ย่อมไม่สามารถทำลายรถ ที่หุ้ม

ด้วยเกาะหนังได้ฉันนั้น ครับ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ซึ่ง พระสูตรนี้ พระพุทธเจ้าทรงแสดง อุปมา เพื่อเปรียบเทียบให้เห้ถึง ความสำคัญ

ของ อริยมรรค ทีเป็น ยาน เป็นรถที่ประเสริฐที่สุด เพราะ สัตว์โกล เห็นรถทางโลกที่

งาม และ ยกย่องกัน พระพุทธเจ้าตรัสว่า มีรถที่ประเสริฐ ที่ไปสู่จุดหมายได้ คือ รถ คือ

อริยมรรค ทีเป็นหนทางการดับกิเลส ที่ประกอบด้วยส่วนต่างๆ คือ ศรัทธา และ ปัญญา

รวมทั้ง กุศลธรรมประการต่างๆ เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่า การละกิเลสได้ จะต้อง

ประกอบด้วยคุณธรรมประการต่างๆ มากมาย การจะเป็นรถ ก็จะต้องประกอบด้วยส่วน

ต่างๆ มากมาย ประกอบกัน เพื่อจะเป็นรถ เพราะฉะนั้น การละกิเลส จึงต้องอาศัย

คุณธรรมประการต่างๆ ซึ่งจะมีได้ด้วยการฟัง ศึกษาพระธรรม โดยให้เข้าใจถูก ถึง

อุปมาว่า เป็นการแสดงถึง คุณธรรมประการต่างๆ ประกอบกันไป ครับ ซึ่ง สำคัญที่

การฟัง ศึกษาพระรรม ก้จะนำมาซึ่ง กุศลธรรมประการต่างๆ เพราอาศัยการฟัง ศึกษา

พระธรรม ปัญญาที่เจริญขึ้นย่อมนำมาซึ่ง กุศลธรรมประการต่างๆ ได้ มี ศรัทธา ขันติ

หิริ เป็นต้น ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
munlita
วันที่ 30 ก.ย. 2556

เนื้อหาส่วนนี้ ในหนังสือมีอยู่สิบบรรทัด อ่านวนไปวนมาก็ไม่เข้าใจเหมือนเดิม ลองมาค้นกระทู้เก่าอ่านแล้วก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ต้องขออภัยที่ตั้งกระทู้ถามซะยาวเหยียด

"กราบขอบพระคุณอย่างยิ่งค่ะที่กรุณาเข้ามาให้คำตอบ ขออนุโมทนาค่ะ"

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 30 ก.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เป็นการแสดงถึงการอบรมเจริญมรรคมีองค์ ๘ [เปรียบเหมือนกับรถคันหนึ่งที่จะ

นำผู้ขับไปสู่จุดหมายปลายทางได้จะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญอะไรบ้าง] ซึ่งจะไป

ถึงการประจักษ์แจ้งพระนิพพานดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น จะขาดธรรมฝ่ายดีไม่ได้

ต้องอาศัยธรรมฝ่ายดีเหล่านี้ ทั้งศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ เป็นต้นและที่สำคัญอย่าง

ยิ่งคือปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูก และจะต้องเกิดกับจิตด้วย ถ้าไม่มีจิตสภาพธรรม

ที่เป็นเจตสิกเหล่านี้ก็เกิดขึ้นไม่ได้ และกว่าจะไปถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมนั้น

ก็จะต้องมีการอบรมเจริญปัญญาสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกตั้งแต่ต้นในเรื่องของ

สภาพธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน สะสมปัญญาที่เข้าใจสภาพธรรมที่เกิดดับใ

นขณะนี้ซึ่งเป็นโลกิยธรรม จนกว่าจะประจักษ์แจ้งพระนิพพานซึ่งเป็นโลกุตตรธรรม

พระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของปัญญา เป็นเรื่องของการละ การดับกิเลส

เพราะฉะนั้นจะต้องอาศัยคุณความดีประการต่างๆ พร้อมกับการอบรมเจริญปัญญา

จึงจะไปถึงจุดหมายปลายทางคือการดับกิเลสได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องกลับมาที่ขณะนี้

คือ ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ โดยอาศัยพระพุทธพจน์คือพระธรรมคำ

สอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ฟัง ศึกษา ด้วยความละเอียดรอบคอบ

ไม่ประมาทในพระธรรมที่ได้ยินได้ฟังและไม่ประมาทในการสะสมความดีในชีวิต

ประจำวันด้วย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 30 ก.ย. 2556

รถ ยานที่ประเสริฐ คือ อริยมรรค มีองค์ 8 ที่นำทางไปสู่การรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ