สักกายทิฏฐิ

 
ผู้มาใหม่
วันที่  4 ต.ค. 2556
หมายเลข  23761
อ่าน  14,667

สักกายทิฏฐิ (อ้างอิงจากกระทู้วันที่ 25 ส.ค. 2551)

สก (ของตน) + กาย (ที่ประชุม) + ทิฏฺฐิ (ความเห็น) ความเห็นว่าเป็นกายของตน , ความเห็นผิดว่าเป็นตัวตน หมายถึง ความเห็นผิดในขันธ์ ๕ ว่าเป็นเรา ของเรา หรือเป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งผิดไปจากความเป็นจริงตามสภาพธรรม

ขอความกรุณาอาจารย์ ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าบุคคลที่ละสักกายทิฏฐิแล้วทำไมยังมีราคะอยู่ครับ

ขอยพระคุณมากครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 4 ต.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สักกายทิฏฐิ เป็นความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรม คือ ขันธ์ ๕ ว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์

เป็นบุคคล เป็นเรา เป็นของเรา ซึ่งผิดไปจากความเป็นจริงของสภาพธรรม (ตามที่คุณ

นิรมิตได้แสดงความคิดเห็นมา) ขึ้นชื่อว่าความเห็นผิดแล้ว (มิจฉาทิฏฐิ) เป็นสภาพ

ธรรมที่เห็นคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ไม่ตรงตามความเป็นจริง แม้แต่ความเห็นผิด

ที่เป็นสักกายทิฏฐิ ก็เช่นเดียวกัน เป็นความเห็นผิดประการหนึ่ง ที่เห็นผิดในสภาพธรรม

ที่เป็นรูปธรรมและ นามธรรม ว่าเป็นตัวตนเป็นสัตว์เป็นบุคคล และยังครอบคลุมถึงเป็นสิ่ง

หนึ่งสิ่งใดด้วย เพราะแท้ที่จริงแล้ว ธรรม เป็นธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่

ตัวตน ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นแต่เพียงสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ เท่านั้น แต่เพราะยัง

ไม่ได้ดับความเห็นผิดได้อย่างเด็ดขาด ยังมีพืชเชื้อของความเห็นผิดอยู่ ความเห็นผิด

ประเภทนี้ ก็ย่อมจะเกิดขึ้นได้ เพราะตราบใดก็ตามที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคล ก็

ยังไม่สามารถดับความเห็นผิดใดๆ ได้เลย ความเห็นผิดทุกประการจะถูกดับได้อย่าง

หมดสิ้น เมื่อรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระโสดาบัน

ตามที่กล่าวแล้ว พระโสดาบันย่อมละ สักกายทิฏฐืได้ ก็ต้องเข้าใจว่า สักกาย

ทิฏฐิ มุ่งหมายถึง กิเลสที่เป็นทิฏฐิเจตสิก ที่เป็นความเห็นผิดว่ามีเรา มีสัตว์บุคคล

แต่ไม่ใช่ราคะ โลภะ ที่เป็นความยินดี ติดข้องในรูป เสียง กลิ่น รส สิ่งที่กระทบ

สัมผัส เพราะ ราคะ เหล่านั้น จะดับได้ ด้วยความเป็นพระอนาคามี กิเลสจึงต้องละ

ไปตามลำดับ ละสักกายทิฏฐิก่อน และ จึงจะราคะ ความติดข้องในรูป เสียง กลิ่น

เป็นต้น ได้ครับ

พระอริยบุคคล ผู้ที่เป็นพระโสดาบัน มีนางวิสาขาอุบาสิกา เป็นต้น ก็แต่งตัวสวย

งาม ยินดี เกิด โลภะ ราคะ ในรูป เสียง เป็นต้นได้เป็นธรรมดา แต่ ท่านไม่ยึดถือ

ว่าเป้นราแป็นสัตว์ บุคคล ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ผู้มาใหม่
วันที่ 4 ต.ค. 2556

ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 4 ต.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขึ้นชื่อว่า ความเห็นผิดแล้ว (มิจฉาทิฏฐิ) เป็นสภาพธรรมที่เห็นคลาดเคลื่อนจาก

ความเป็นจริง ไม่ตรงตามความเป็นจริง แม้แต่ สักกายทิฏฐิ

ก็เช่นเดียวกัน เป็นความเห็นผิดประการหนึ่ง ที่เห็นผิดในสภาพธรรมที่เป็นรูปธรรม

และ นามธรรม ว่าเป็นตัวตนเป็นสัตว์เป็นบุคคล เพราะแท้ที่จริงแล้ว ธรรม เป็น

ธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน แต่เพราะยังไม่ได้ดับความเห็นผิดได้อย่าง

เด็ดขาด ยังมีพืชเชื้อของความเห็นผิดอยู่ ความเห็นผิดประเภทนี้ ก็ย่อมจะเกิดขึ้น

ได้ เพราะตราบใดก็ตามที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคล ก็ยังไม่สามารถดับความเห็นผิด

ใดๆ ได้เลย แต่ความเห็นผิดทุกประการจะถูกดับได้อย่างหมดสิ้น เมื่อรู้แจ้งอริย-

สัจจธรรมถึงความเป็นพระโสดาบัน หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญาเท่านั้น

ที่จะเป็นไปเพื่อขัดเกลาละคลายกิเลส ดับความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัว

ตนสัตว์บุคคล ตลอดจนถึงกิเลสประการอื่นๆ ได้ในที่สุด ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 4 ต.ค. 2556

พระโสดาบันละโลภะที่ประกอบด้วยความเห็นผิด 4 ดวงแต่ยังมี

โลภะที่ไม่ประกอบด้วยความเห็นผิด 4 ดวง ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nippana
วันที่ 4 ต.ค. 2556

เราจะมีวิธีการตรวจสอบอย่างไรว่าละสักกายทิฏฐิได้แล้วหรือยัง

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 4 ต.ค. 2556

เรียนความเห็นที่ 5 ครับ

ปัญญาเป็นเครื่องตรวจสอบ ด้วยการเป็นพระโสดาบัน เมื่อถึงความ

เป็นพระโสดาบันแมื่อไหร่ ปัญญาก็จะบอกว่ากิเลสอะไรละได้แล้ว

นั่นคือ จะรู้ว่าละสักกายทิฏฐิได้แล้ว วิจิกิจฉาได้แล้ว สีลพรตปรามาส

ได้แล้ว ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ผู้มาใหม่
วันที่ 4 ต.ค. 2556

ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
nippana
วันที่ 4 ต.ค. 2556

กระจ่างจริงๆ ครับ...ขอบพระคุณมากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
s_sophon
วันที่ 13 ก.ค. 2560

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
one_man253026
วันที่ 7 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ