เสียง
อ่านหนังสือของท่านอ.สุจินต์
อ้างถึง "กลาปที่เล็กที่สุดจะต้องมีรูปเกิดด้วยกัน ๘ รูป ได้แก่ มหาภูตรูป ๔ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม และอุปาทายรูป คือ รูปที่อาศัยมหาภูตรูปอีก ๔ รูป ได้แก่ สี (สิ่งที่ปรากฏทางตา) กลิ่น รส และ โอชา"
ขอเรียนถามว่า เสียงประกอบด้วยรูปอะไรบ้างครับ ต้องมี ๘ รูปนี้ด้วยไหมครับ
กราบขอบพระคุณมากครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
มหาภูตรูป มหา คือ รูปที่เกิดขึ้นแล้วเป็นใหญ่ เป็นประธาน หมายถึง สภาวรูป ๔ รูป คือ ปฐวี (ดิน) อาโป (น้ำ) เตโช (ไฟ) วาโย (ลม) รูปทั้ง ๔ นี้ ได้ชื่อว่า มหาภูตรูป เพราะเป็นสภาพที่เกิดขึ้นมีอยู่โดยความเป็นใหญ่เป็นประธาน และเป็นที่อาศัยของอุปาทายรูป (รูปที่อาศัยมหาภูตรูป) ซึ่งไม่ว่ารูปใด ก็จะต้องมี มหาภูตรูป เกิดร่วมด้วยเสมอ คือ ธาตุดิน น้ำ ไฟ และลม ครับ
สัททรูป คือ รูปเสียง หมายถึง สิ่งที่สามารถปรากฏได้ทางหู ซึ่งมีลักษณะที่ดัง และกระทบกับโสตปสาท จะเป็นความดังค่อย ดังแรง ดังแหลม ดังทุ้มอย่างไร ก็เป็นเพียงความดังที่ปรากฏได้ทางหูในขณะปัจจุบันเท่านั้น เป็นสภาพที่ไม่รู้อารมณ์อย่างหนึ่ง ฉะนั้น ความหมายที่รู้จากเสียงนั้น จึงไม่ใช่เสียง แต่เป็นบัญญัติซึ่งจิตทางมโนทวารคิดตามหลังจากที่จิตได้ยินเสียงทางหูดับไปแล้ว สัททรูป คือ เสียง เกิดจากสมุฏฐาน ๒ อย่าง คือ จิตตสมุฏฐาน และอุตุสมุฏฐาน
สัททรูป คือ เสียง จะดังที่ไหน ในป่า ในเขา หรือในที่ห่างไกลอย่างไรก็ยังคงเป็นสัททรูป แต่ถ้ามีจิตได้ยินเสียง หรือจิตที่รู้เสียงเกิดขึ้น จึงรู้เสียงนั้นได้ ซึ่งเสียงที่เกิดจาก อุตุ เช่น วัตถุ กระทบกัน ทำให้เกิดเสียง แต่ถ้าเสียงที่เกิดจากจิต ก็เช่น การเปล่งวาจา เพื่อสื่อความหมาย ครับ
ดังนั้น เมื่อ รูปเกิดขึ้น ไม่ใช่เกิดเพียงรูปเดียว แต่เกิดเป็นกลุ่มกลาปของรูป ดังนั้นเมื่อเสียงเกิดขึ้น ไม่ใช่มีเพียงสัททรูป ที่เป็นเสียงอย่างเดียวเท่านั้น ก็มีรูปอื่นๆ เกิดร่วมด้วย อย่างน้อย อีก 8 รูป ที่เป็น อวินิพพโภครูป ที่เป็นกลุ่มของรูป 9 รูป ที่เรียกว่า สัททนวกกลาป เช่น เสียงฟ้าร้อง เสียงฝนตก เป็นต้น ซึ่ง เกิดจากอุตุเป็นเหตุ ซึ่ง เสียงก็คือ เสียงมีลักษณะกระทบ โสตปสาทรูป แต่ เสียง มีรูปอื่นเกิดร่วมด้วยคือ ธาตุดิน น้ำ ไฟ และลม สี กลิ่น รส โอชา เป็นต้น ครับ แต่ถ้าเป็นเสียง ที่เกิดจากจิตเป็นเหตุ ก็ให้มีรูปเพิ่มมากขึ้น มากกว่า 9 คือ มี อวินิพพโภครูป 8 คือ ธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม สี กลิ่น รส โอชา และ วจีวิญญัติ และ เสียง เป็นต้น ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ก่อนการศึกษาพระธรรม อาจจะเข้าใจผิดว่า เสียง ไม่ได้เป็นรูป ที่เป็นรูปจะมีเฉพาะสิ่งที่จับต้องได้ เท่านั้น นี้คือ ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง แม้แต่เสียง ก็เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นรูปธรรมอย่างหนึ่ง ที่เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย ตามสมุฏฐานของตนๆ เสียง เป็นสภาพธรรมที่ปรากฏทางหู เสียง เกิดจาก ๒ สมุฏฐาน คือ เกิดจากอุตุบ้าง เกิดจากจิต บ้าง แต่ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่เกิดจากสมุฏฐานใดใน ๒ สมุฏฐาน ก็คือ มีลักษณะที่กระทบกับโสตปสาทะ (หู) เท่านั้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า เสียง ในภายนอก มีมากมาย ก็เป็นเสียง แต่ไม่ได้เป็นอารมณ์ของจิตในขณะนั้น แต่ถ้าเป็นอารมณ์ของจิตเมื่อใด ก็เป็นสัททารมณ์ เพราะเป็นสิ่งที่จิตรู้ในขณะนั้น
ถ้าเป็นเสียงในภายนอก ซึ่งเกิดจากอุตุ ก็มีรูปรวมกัน ๙ รูป คือ อวินิพโภครูป ๘ และ สัททรูป อีก ๑ รวมเป็น ๙ รูปพอดี แต่ถ้าเป็นกลุ่มของเสียงที่เกิดจากจิตเป็นสมุฏฐาน จะมีรูปมากกว่านั้น ซึ่งก็เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ครับ
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
เสียง เป็นรูปธรรม อย่างน้อย มี 9 รูป แต่ ถ้าเกิดจากจิต ก็มี รูปอื่นเพิ่มขึ้น คือ วจีวิญญัติรูป ค่ะ
เรียน อาจารย์ ทั้งสอง ท่าน
วจีวิญญัติรูปคือรูปอะไรครับ ขอ รายละเอียดด้วยครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
วจีวิญญัติรูป เป็นอสภาวรูปคือ ไม่มีภาวะลักษณะของตน แต่เป็นวิการ หรืออาการของสภาวรูปที่เกิดจากจิตซึ่งมีเจตนาจะพูด ในขณะที่จิตเกิดขึ้นว่า “เราจักกล่าวคำนี้ “ย่อมยังรูปให้ตั้งขึ้น พร้อมกับการเกิดขึ้นของจิต ปฐวีธาตุที่มีจิตเป็นอุปาทินนกรูป (รูปที่เกิดจากกรรม) ทำให้เกิดเสียงขึ้น เสียงที่เกิดจากจิตนี้ไม่ใช่ วจีวิญญัติ ความวิการแห่งอาการ ที่สามารถเพื่อเป็นปัจจัยแก่การกระทบฐานเสียงซึ่งเป็นอุปาทินนกรูป ของปฐวีธาตุที่มีจิตเป็นสมุฏฐานนั่นแหละ ชื่อว่า วจีวิญญัติรูป เสียงที่ไม่ได้เกิดจากจิต ที่เป็นปัจจัยทำให้มีรูปกระทบ ที่ฐานของเสียง ไม่มีวจีวิญญัติรูป เช่น เสียงเรอ เสียงอ้วก เสียงที่เปล่งออกมาเป็นภาษาใดภาษาหนึ่ง แม้เสียงสุนัขที่เห่า ไม่ว่าผู้ฟังจะเข้าใจความหมายหรือไม่ก็ตาม หรือแม้พูดอยู่คนเดียว ก็มีวจีวิญญัติรูป