ขณะที่นอนหลับสนิท

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

1.ในขณะที่นอนหลับสนิท นามธรรม (จิต เจตสิก) อื่นๆ ไม่เกิดดับเลยยกเว้นภวังคจิต

แต่มีการเกิดดับของรูปขันธ์ตลอดเวลาไช่ไหมครับ

ในขณะที่หลับสนิท ขณะนั้น ภวังคจิตทำหน้าที่ จิตที่เป็นภวังคจิตเท่านั้น ที่เกิดดับ

และ เจตสิกที่เกิดร่วมด้วย กับ ภวังคจิตเท่านั้นที่เกิดดับ

สวนจิตอื่น ที่ไม่ใช่ภวังคจิต เมื่อยังไม่เกิด ก็ยังไม่ดับ และ รูปที่เกิดดับ ก็เกิดดับ

ตามสมุฏฐานอยู่แล้ว ครับ เช่น กัมมชรูป คือ รูปที่เกิดจากรรม เช่น จักขุปสาทรูป

โสตปสาทรูป เป็นต้นที่เกิดจากกรรมก็เกิดดับ และ รูปอื่นๆ ที่เกิดจากอุตุก็เกิดดับ

ตลอดเวลา ครับ ซึ่งผู้ถามมีความเข้าใจถูกต้องแล้ว ครับ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

2.โต๊ะตัวหนึ่งก็เป็นการประชุมรวมกันของรูป มันจึงมีการเกิดดับตลอดเวลาไช่ไหมครับ

ถูกต้อง ครับ โต๊ะ ก็เป็นการประชุมรวมกันของรูปธรรม ที่มีอย่างน้อย 8 รูป คือ

อวินิพโภครูป 8 ซึ่ง รูปเหล่านี้ก็มีการเกิดดับตลอดเวลา เพราะ เมือ่เป็นรูปรรมแล้ว

ย่อมเกิดดับเป็นธรรมดา ซึ่งรูปหล่านี้ เกิดจากอุตุเป้นสมุฏฐาน เป็นเหตุให้เกิด ครับ

และ เมื่อเกิดแล้วก็ดับไป และ เกิดใหม่ และดับไปทยอยกันเกิด ทยอยกันดับไป ครับ

ขออนุโมทนา

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

กราบขอบพระคุณมากครับ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

-ถ้ากล่าวถึงขณะที่หลับสนิทแล้ว ก็คือ ขณะที่เป็นภวังคจิต ภวังคจิตเกิดดับสืบ

ต่อกัน เมื่อกล่าวถึงภวังคจิต ก็ต้องเข้าใจว่า เป็นจิต เป็นนามธรรม และเมื่อจิต

เกิดขึ้นจะต้องมีเจตสิกธรรมเกิดร่วมด้วย เพราะฉะนั้น ในขณะที่หลับสนิท ก็คือ

ภวังคจิตและเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย นั่นเอง ไม่ใช่จิตขณะอื่น เลย ต้องหมายถึง

เฉพาะภวังคจิตเท่านั้น ที่เกิดขึ้นเป็นไป นี้ คือ ความเป็นจริงของธรรมที่เป็น

นามธรรม

สำหรับผู้ที่เกิดมาเป็นมนุษย์นั้น เป็นผลของกรรม ไม่ได้มีเฉพาะนามธรรม

เท่านั้นที่เกิดขึ้น ยังมีรูปธรรมเกิดขึ้นเป็นไปด้วย รูปธรรม เช่น ตา หู จมูก ลิ้น

กาย เป็นต้น เหล่านี้เป็นรูปธรรมที่เกิดเพราะกรรม ตามความเป็นจริงแล้ว รูปที่เกิด

เพราะกรรม เกิดทุกอนุขณะของจิต ดังนั้น แม้ในขณะที่หลับสนิท ก็มีรูปธรรมเกิด

ขึ้นเป็นไป แต่จะไม่ปะปนกันนามธรรมเลย หรือ แม้แต่ลมหายใจก็เป็นรูปที่เกิดจาก

จิตด้วย ดังนั้น แม้ในขณะที่หลับสนิท จิตก็ยังเป็นปัจจัยให้เกิดรูปได้ มีรูปเกิดขึ้น

เป็นไป แสดงให้เห็นตามความเป็นจริงว่า รูปทะยอยกันเกิด ทะยอยกันดับ จริงๆ

เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป

-ที่มีการสมมติเรียกว่า เป็นโต๊ะหนึ่งตัว ก็เพราะมีความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมที่

เป็นรูปธรรม ดังนั้น ขึ้นชื่อว่า เป็นรูปธรรมแล้ว แล้ว ไม่มีแม้แต่รูปเดียวที่เที่ยงยั่งยืน

เพราะล้วนแล้วแต่ต้องดับไปเป็นธรรมดาด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งจะต้องมีความมั่นคงใน

ความเป็นจริงของธรรม จริงๆ ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

ขณะที่หลับสนิท เป็นภวังคจิต จิตเกิดดับอยู่แล้ว แต่ขณะที่เป็น

ภวังคจิต ไม่รู้อารมณ์โลกนี้ ค่ะ

กราบขอบพระคุณมากครับ

ขออนุโมทนาครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ