มิจฉามรรค
มิจฉามรรคคืออะไรครับ ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
มรรรค หมายถึง ทาง ซึ่งเป็นคำกลางที่หมายถึง ทางที่ดำเนินไป ส่วน คำว่า มิจฉา หมายถึง สิ่งที่ผิด เมื่อ เป็นมิจฉามรรค จึงหมายถึง ทางที่ผิด หนทางที่ผิด หมายถึง ข้อปฏิบัติที่ไม่นำไปสู่ความพ้นทุกข์ เป็นไปด้วยอกุศลจิตซึ่งพระผู้มีพระภาคทรงแสดงเปรียบเทียบกับสัมมามรรคโดยนัยของพระสูตรคือ มิจฉามรรค ๘ ได้แก่
๑.มิจฉาทิฏฐิ ความเห็นที่ผิด
๒.มิจฉาสังกัปปะ ความคิดผิด
๓.มิจฉาวาจา วาจาผิด
๔.มิจฉากัมมันตะ การกระทางกายที่ผิด
๕.มิจฉาอาชีวะ อาชีพที่ผิด
๖.มิจฉาวายามะ ความเพียรผิด
๗.มิจฉาสติ ความระลึกผิด
๘.มิจฉาสมาธิ ความตั้งมั่นผิด
ซึ่ง หากพิจารณาให้ละเอียด จะเห็นว่า การดำเนินหนทางที่ผิด มีแกนหลัก คือ ความเห็นผิด ที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะ อาศัย ความเห็นผิดที่ผิด จึงทำให้ ความคิดก็ผิดตามไปด้วย เมือ่คิดผิด การพูด วาจา ก็ผิด กากระทำทางกายก็ผิด อาชีพก็ผิด เพียรผิด และ ระลึกผิด ตั้งมั่นผิด เพราะ อาศัยความเข้าใจผิดที่เป็น มิจฉาทิฏฐิเป็นปัจจัย ครับ
เพราะฉะนั้น มิจฉามรรค ที่เป็นหนทางที่ผิด จึงไม่พ้นจากอกุศลธรรม ความไม่ดีโดย มีอวิชชา ความไม่รู้ อันเป็นเหตุให้เกิดความเห็นผิด และ ดำเนินทางที่ผิดได้ตามกิเลสทีเ่กิดขึ้น ซึ่ง การจะละคลาย การดำเนินทางทีผิดก็ด้วยการอบรมปัญญา ที่เป็น ความเห็นถูกที่เป็น สัมมาทิฏฐิ ด้วยการเสพ คบกับ สัตบุรุษ คือ การฟังพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงอย่างถูกต้อง ย่อมจะค่อยๆ ดำเนิน สัมมามรรค หนทางที่ถูก ทีละน้อยได้และ ละ มิจฉามรรคได้ในที่สุด ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ก่อนอื่นก็ต้องแปลคำว่า มรรค ก่อนว่ามรรค หมายถึง หนทาง ซึ่งมีทั้งทางถูกกับทางผิด ถ้าเป็นหนทางที่ถูกต้องเป็นไปเพื่อการอบรมเจริญปัญญา ขัดเกลากิเลส จนกว่าจะดับได้อย่างหมดสิ้น ก็เป็นหนทางที่ถูกต้อง (สัมมามรรค,อริยมรรค) เริ่มต้นด้วยความเข้าใจถูกเห็นถูก (สัมมาทิฏฐิ) เป็นต้น แต่ถ้าเป็นหนทางที่ผิด ที่ไม่ได้เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญา มีแต่จะทำให้อกุศลเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น ตรงกันข้ามกับหนทางที่ถูกต้องอย่างสิ้นเชิง นั่นเป็นมิจฉามรรค อันมีพื้นฐานมาจากความเห็นผิดและความไม่รู้ ที่จะดำเนินไปในหนทางที่ถูกต้องได้ จะต้องอาศัยเหตุที่สำคัญ คือ การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ฟังความจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ความเข้าใจถูกเห็นถูกนี้เอง จะเป็นเครื่องป้องกันไม่ให้ตกไปในฝ่ายที่ผิด ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...