เหตุผลอะไรความเพลิดเพลินจึงเป็นอกุศลธรรมครับ
เรียน อาจารย์ ทั้งสองท่าน
ความเพลิดเพลินจากการดูกีฬาและการดูทีวีจึงเป็นอกุศลธรรมครับ หรือว่า ทำให้
หลงลืม สติ ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขณะที่ ดูหนัง ฟังเพลง เกิด อกุศลจิต ติดข้องเพลิดเพลิน ขณะนั้นเป็นเพียงอกุศลจิต
ที่เป็นโลภมูลจิต ที่เกิดขึ้นในใจ ไม่ใช่อกุศลจิตที่มีกำลัง จึงไม่จัดเป็นอกุศลกรรมบถ
ที่ไม่ให้ผล เพียงแต่ว่าขณะนั้น หลงลืมสติแน่นอน เพราะขณะนั้นเป็นอกุศลจิตที่มีโมหะ
เจตสิก เกิดร่วมด้วย ทำให้ไม่รู้ตามความเป็นจริง ซึ่ง อกุศลจิตที่ไม่มีกำลังนี้ ไม่ให้เกิด
วิบาก แต่จะเป็นอกุศลกรรม ก็ต่อมื่อ ทำให้อกุศลกรรมบถ มีการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์
ประพฤติผิดในกาม เป็นต้น ที่ถึงกับการล่วงศีล จึงจะเป็นบาป อกุศลกรรมที่ทำให้เกิด
ผลของกรรมได้ ครับ
เพราะฉะนั้น ชีวิตประจำวัน ก็เกิดอกุศลจิต เป็นธรรมดาอยู่แล้ว แม้ขณะนี้เอง เพียง
เห็นสิ่งต่างๆ แม้ยังไม่ได้ดูหนัง ฟังเพลง ก็เกิดอกุศลจิตแล้วโดยไม่รู้ตัว
หนทางการอบรมปัญญา จึงไม่ใช่การกลัวอกุศลจะเกิด เพราะ กลัวอย่างไร อกุศลก็
เกิดแน่นอน แต่ ควรเข้าใจในสิ่งที่เกิดแล้ว ว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา โดยเริ่มจาก
การฟัง ศึกษาพระธรรมเป็นสำคัญ ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขณะที่ความเพลิดเพลิน ความติดข้อง (โลภะ) เกิดขึ้นเป็นไป ก็ผูกไว้ในสิ่งที่ติดข้อง
ไม่ปล่อย ไม่สละ ไม่ทำให้กุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นไป ไม่ว่าจะเป็นในขณะที่ดูกีฬา หรือ
ไม่ได้ดูกีฬา ก็ยากที่พ้นไปจากโลภะ แสดงให้เห็นว่า อกุศลในชีวิตประจำวัน เกิดขึ้น
เป็นไปมาก มากกว่ากุศลอย่างเทียบกันไม่ได้เลย
โลภะ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นอกุศลธรรม ไม่ว่าจะเกิดกับใคร ก็เป็นอกุศลธรรม
ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะเป็นอย่างอื่นไปได้ เพราะลักษณะของโลภะ คือ ความติดข้อง
ยินดีพอใจ ยึดติดในอารมณ์ ในเมื่อ โลภะ เป็นอกุศลธรรม จึงเป็นสิ่งที่ดีไม่ได้ อกุศล-
ธรรม จะมากหรือน้อย ก็ไม่ดีทั้งนั้น หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญาเป็นหนทางที่จะ
ทำให้รู้โลภะ ตลอดจนถึงสภาพธรรมที่มีจริงประเภทอื่นๆ ตามความเป็นจริง ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ไม่ถึงกับเป็นกรรมบถ แต่เป็นอกุศลจิต เพราะ เราไปตามกับละคร รัก โลภ โกรธ
หลง ค่ะ
อกุศลธรรม
อกุสล (ไม่ฉลาด ,มีโทษ ,ให้ผลเป็นอกุศลวิบาก) + ธมฺม (สภาพที่ทรงไว้) ขณะที่เพลิดเพลิน (อกุศลธรรม) ขณะนั้นไม่มีสติเจตสิก (กุศลธรรม) เกิดร่วมด้วยขณะที่เพลิดเพลินในการดูกีฬาแล้วมีคนปิดทีวี.อาจเป็นเหตุให้เกิดความโกรธถ้าโกรธมากๆ ๆ ทำให้ทำอกุศลกรรมทางกายหรือวาจาเช่นด่าหรือทำร้ายร่างกายได้..ความเพลิดเพลินนั้นจึงรู้ได้ว่ามีโทษ (อกุศลธรรม) ..อกุศลไม่ว่ามากหรือน้อยเกิดในชวนวิถีจะสะสมในจิต..จากเล็กน้อยกลายเป็นมากขึ้นได้.....อกุศลเล็กน้อยจึงไม่ควรประมาท”ข้อความจากพระไตรปิฏก
ขออนุโมทนาค่ะ ดิฉันคิดว่า ต่อให้อยู่คนเดียว แต่เปิดละครเปิดหนังดู ก็ถือว่ามีการคลุกคลี มีการเสพเรื่องราวเหล่านั้น เกิดอกุศลธรรมและกุศลธรรม สะสมสืบต่อ กลายเป็นนิสัยของตนเองได้ และล่วงออกมาเป็นกรรมบถทั้งกุศลและอกุศล ที่ผู้คนบอกว่าดูละครดูสื่อต่างๆ แล้วไม่ได้มีผลกระทบอะไร ดิฉันคิดว่าสิ่งนี้เรียกว่าความประมาทค่ะ