เรียนถามเรื่องกรรมครับ
๑. กรรมที่ไม่ถึงกรรมบถจะให้ผลที่เป็น อเหตุกวิบากและกัมมชรูปได้ไหมครับ
๒. กัมมชรูปที่เกิดภายหลังขณะปฏิสนธิจิต เป็นผลอันเนื่องมาจากกรรมที่ให้ปฏิสนธิจิตเกิดอย่างเดียวกัน หรือว่า เกิดจากกรรมอื่นได้ด้วยครับ
ขอบคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
๑. กรรมที่ไม่ถึงกรรมบถจะให้ผลที่เป็น อเหตุกวิบากและกัมมชรูปได้ไหมครับ
รูปที่เกิดขึ้นเพราะกรรมเป็นปัจจัยนั้น (กัมมชรูป) เป็นผลของกรรมแต่ไม่ใช่วิบาก เพราะรูปไม่ใช่นามธรรม รูปไม่ใช่สภาพรู้ ไม่ใช่ จิต เจตสิก รูปจึงไม่เป็นวิบาก วิบากต้องเป็นนามธรรมซึ่งเป็นสภาพรู้ที่เป็นจิตและเจตสิกเท่านั้นครับ
กัมมชรูป คือ รูปที่เกิดจากกรรม หมายถึง รูป ๑๘ รูป คือ อวินิพโภครูป ๘ ปสาทรูป ๕ ภาวรูป ๒ หทยรูป ๑ ชีวิตรูป ๑ ปริจเฉทรูป ๑ ซึ่งเกิดจากเจตนาเจตสิกที่เป็นกุศลหรืออกุศลที่ดับไปแล้วในอดีต (นานักขณิกกัมมปัจจัย) แต่ยังมีอำนาจของปัจจัยที่สามารถให้ผลในปัจจุบันได้ ซึ่งกรรมที่ไม่ถึงกรรมบถ สามารถให้ผลเป็นอเหตุกวิบากได้ เช่น ทำให้เห็นสิ่งที่ไม่ดี ได้ยินเสียงที่ไม่ดี ครับ จิตเห็น เป็นอเหตุกวิบากจิต ส่วนกรรมที่ไม่ครบกรรมบถ ไม่เป็นเหตุให้เกิดกรรมชรูป
๒. กัมมชรูปที่เกิดภายหลังขณะปฏิสนธิจิต เป็นผลอันเนื่องมาจากกรรมที่ให้ปฏิสนธิจิตเกิดอย่างเดียวกัน หรือว่า เกิดจากกรรมอื่นได้ด้วยครับ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นกรรมเดียวกันก็ได้ครับ แต่เป็นกรรรมอื่นที่ครบกรรมบถในอดีตชาติมาให้ผลทำให้เกิดกัมมชรูปได้ ยกตัวอย่าง คนที่เคยตาบอด ที่ไม่ได้ตาบอดแต่กำเนิด แต่ภายหลังก็กลับมามองเห็นได้ เพราะกรรมที่เป็นกุศลกรรมในอดีตเป็นปัจจัยให้ผล เกิดจักขุปสาทรูปทำให้มองเห็นได้อีกครั้ง เพราะ กัมมัชรูป เกิดอีกครั้ง ครับ
อนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เรื่องกรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง และเป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ ถ้าเป็นเจตนาที่จะทำให้ผลเกิดขึ้นเกิดเป็นไป ก็ต้องเป็นเจตนาเจตสิก ที่เป็นไปกับอกุศล หรือกุศล เท่านั้น ชีวิตประจำวันก็ไม่พ้นไปจากการกทำกรรม ที่ดีบ้าง ไม่ดี บ้าง และและไม่พ้นไปจากผลของกรรมเลย ซึ่งผลของกรรม นั้น กว้างทีเดียว ครอบคลุม ทั้งผลของกรรมที่เป็นรูปที่เกิดจากกรรม และ ผลที่เป็นวิบาก ได้แก่วิบากจิตและเจตสิกธรรมที่เกิดร่วมด้วย แต่เมื่อกล่าวโดยประมวลแล้ว ผลที่เกิดขึ้น ต้องมาจากเหตุคือกรรม เท่านั้น
ถ้ากล่าวเจาะจงวิบาก แล้ว ต้องมุ่งหมายถึง จิตและเจตสิกชาติวิบากเท่านั้น
กรรมที่กระทำไม่ครบองค์ ให้ผลในปวัตติกาล คือ หลังจากที่เกิดแล้ว แต่ถ้าเป็นกรรมที่ครบองค์เป็นเหตุทำให้เกิดเกิดผลในปฏิสนธิกาล คือ ทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดได้ นี้คือ ความเป็นจริงของสภาพธรรม กรรมชรูป เป็นรูปที่เกิดจากกรรมที่ครบเป็นกรรมบถ เช่น ตา หู จมูก ลิ้น กาย เป็นต้น เกิดทุกอนุขณะของจิต เกิดขึ้นเป็นไปเพราะกรรมเป็นปัจจัย
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ความจริงทั้งหมดทุกประการ แล้วทรงแสดงพระธรรมให้สัตว์โลกได้เข้าใจความจริงตามพระองค์ ด้วย บุคคลผู้ที่ได้สะสมเหตุที่ดีมา มีโอกาสได้ฟัง ได้ศึกษา ความรู้ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ แม้แต่ในเรื่องกรรม ก็เช่นเดียวกัน เมื่อได้ฟัง ได้ศึกษา ก็จะทำให้เข้าใจละเอียดยิ่งขึ้น มีความมั่นคงในเรื่องกรรมเพิ่มขึ้น คือ มีความจริงใจที่จะสะสมเหตุที่ดี คือ กุศลทุกประการต่อไป พร้อมกันนั้นก็ละเว้นในสิ่งที่ไม่ดีที่ไม่ควร ซึ่งเป็นอกุศลกรรม และมีความมั่นคงในเรื่องผลของกรรม ด้วย กล่าวคือ เมื่อได้รับผลของอกุศลกรรม ก็จะไม่โทษคนอื่น แต่เข้าใจความจริงเพิ่มขึ้นว่าในเมื่อเป็นอกุศลกรรมที่ตนได้กระทำไว้ ผลที่ไม่น่าปรารถนา จึงเกิดขึ้น ไม่ใช่คนอื่นกระทำให้เลย หรือ ถ้าได้รับผลของกรรมที่ดี ก็จะเป็นผู้ไม่หลงระเริง ไม่มัวเมาด้วยอำนาจของอกุศลธรรม ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงนั้น ต้องเป็นผู้ที่มีปัญญา อันเริ่มจากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน นั่นเองครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
กัมมชรูป คือ รูปที่เกิดจากกรรม เช่น คนที่มีตาสวย มีรูปงามก็เป็นรูปที่เกิดจากกุศลกรรม ค่ะ
มีคำถามเพิ่มเติมครับ
- กรรมที่ครบองค์ที่เป็นเหตุทำให้เกิดผลในปฏิสนธิกาล คือปฏิสนธิจิตรวมถึง กัมมชรูปที่เกิดได้ในขณะนั้นด้วย ใช่ไหมครับ
- กรรมที่ครบองค์ที่เป็นเหตุทำให้เกิดผลในปฏิสนธิกาลสามารถให้เกิดวิบากคือภวังคจิต จุติจิตและกัมมชรูปต่อไปอีกในปวัตติกาล ใช่ไหมครับ
- กรรมที่ครบองค์ที่เป็นเหตุทำให้เกิดผลในปฏิสนธิกาล กรรมเดียวกันนั้น จะยังให้ผลในปวัตติกาลที่เกี่ยวกับการเห็น..ได้ยินเสียง..เป็นต้น ได้ไหมครับ
- กรรมที่ครบองค์ที่ไม่ได้เป็นเหตุทำให้เกิดผลในปฏิสนธิกาล จะสามารถให้ผลได้ในปวัตติกาลที่ีเกี่ยวกับการเห็น การได้ยิน..เป็นต้น ใช่ไหมครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ