บ้านว่าง

 
ดวงทิพย์
วันที่  14 ต.ค. 2556
หมายเลข  23859
อ่าน  1,344

เหตุใดจึงทรงเรียก จักขุปสาทรูป โสต ฆานะ ชิวหา กายปสาทรูป ว่า บ้านว่าง คะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 15 ต.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ในอาสีวิสสูตร แสดงถึง ว่า บ้านร้าง คือ อายตนะภายใน 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เป็น บ้านร้าง ท่านเปรียบโจร ดั่งเช่น อกุศล เมื่อโจร เข้าบ้าน ไม่พบอะไร เป็นบ้านร้าง ก็ละทิ้งบ้านนั้นไปฉันใด ผู้ที่อบรมปัญญารู้ความจริงของสภาพธรรมว่า ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ และธรรมที่เกิดขึ้นเป็นธรรมไม่ใช่เรา เมื่อรู้ความจริงอย่างนี้ อกุศลไม่เกิด ปัญญาเกิด ก็รู้ว่า เป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา เป็นบ้านร้างว่างเปล่า จากความเป็นสัตว์ บุคคล ครับ นี่คือ ความหมายของ บ้านร้าง ที่เปรียบเทียบกับ อายตนะ 6

เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ

อายตนะภายใน ๖ เป็นเสมือนบ้านร้าง [อรรถกถา อาสีวิสสูตร]

ดังนั้น ขณะที่อกุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นไปนั้นไม่มีค่าเลย มีแต่โทษโดยส่วนเดียว เปรียบเหมือนกับโจรที่คอยดักปล้นกุศล ปล้นสิ่งที่มีค่า เพราะเหตุว่าเวลาที่อกุศล มี โลภะ เป็นต้น เกิดขึ้น นั้น ก็จะไม่เจริญกุศลประการใดๆ ไม่ฟังพระธรรม เป็นต้น เลย เวลานั้นมีเครื่องกั้น ไม่ให้กุศลจิตเกิด ไม่ยอมให้ไปสู่จุดหมายโดยราบรื่น อกุศลธรรมทั้งหลาย เป็นเช่นนั้น คือ เป็นโจรที่คอยดักปล้นกุศล เพราะในขณะที่อกุศลเกิด กุศลก็จะเกิดไม่ได้ ทำให้ห่างเหินจากพระธรรมอันเป็นรัตนะที่ประเสริฐ จึงควร อบรมเจริญปัญญา ด้วยการศึกษาพะรธรรม ขณะที่รู้ความจริง ย่อมไม่ถูกปล้นจากโจรอกุศล และเข้าใจความจริง ว่า เป็นเหมือน บ้านร้างที่สูญจากความเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 15 ต.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น ไม่ว่าจะโดยนัยใดก็ตาม เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด เพื่อความเข้าใจในสภาพธรรมที่มีจริงๆ ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา สภาพธรรมที่มีจริงๆ นั้น ไม่พ้นไปจากทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ เลย เป็นสภาพธรรมที่ว่างเปล่าจากควาเป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นตันตนอย่างสิ้นเชิง สำหรับสภาาพธรรมที่เกิดแล้วดับไป นั้น เกิดแล้วดับไป ไม่กลับมาอีกเลีย ไม่ควรค่าแก่การยึดถือติดข้องยินดีพอใจ ความเข้าใจพระธรรมเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งได้อย่างแท้จริง ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ที่สำคัญ คือไม่ขาดการฟังพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวัน เมื่อความเข้าใจเจริญขึ้น คุณความดีประการต่างๆ ก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น เป็นการขัดเกลาความไม่รู้และกิเลสในชีวิตประจำวัน ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 15 ต.ค. 2556

บ้านร้าง โจรก็มาปล้นไม่ได้ เหมือนตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่ไม่ยึดถือ เพราะ มีปัญญาเข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 16 ต.ค. 2556

ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
papon
วันที่ 16 ต.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
peem
วันที่ 24 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ