ทุกครั้งที่พบกันก็พูดถึงสิ่งที่มีจริงอีก

หนทางที่จะดับกิเลส เป็นหนทางที่แสนยาก มีเพียงหนทางเดียวก็คือ การอบรมเจริญสติปัฏฐาน ทรงแสดงมรรคพรหมจรรย์ ทรงแสดงโดยละเอียดเพื่อไม่ให้เข้าใจผิดในการอบรมเจริญปัญญา ไม่ใช่บรรลุเป็นพระอริยบุคคลโดยไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ สิ่งที่กำลังปรากฏแต่ละอย่างเกิดขึ้นเพราะมีปัจจัยปรุงแต่งไม่มีใคร ทำให้สภาพธรรมเกิดได้เลย ทุกอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่เรา มั่นคงในความเป็นอนัตตา สติก็เป็นอนัตตา ความละเอียดยิ่งที่ทรงแสดงหนทางนี้ หนทางที่เริ่มจากความเห็นถูก เข้าใจถูกสิ่งที่มีจริงขณะนี้ ซึ่งเป็นการอบรมที่ยาวนานมาก ขันติเป็นตบะอย่างยิ่ง เห็น ขณะนี้รู้จริงๆ หรือยัง อดทนที่จะฟังให้เข้าใจสิ่งที่รู้ได้ยากยิ่ง มีเพียงหนทางเดียว เข้าใจความเป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา ฟังให้เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การละความต้องที่จะรู้ ความเข้าใจจะยิ่งเข้าใจขึ้นเมื่อละความติดข้องต้องการอยากเข้าใจเร็วๆ ฟังธรรมเพื่อเข้าใจธรรม เพราะมีแต่ธรรมะ สภาพธรรมมีอยู่ตลอดเวลา ความไม่รู้ไม่สามารถรู้ได้ ความต้องการก็ไม่สามารถรู้ได้ สามารถรู้ได้ด้วยปัญญาเท่านั้นซึ่งเกิดจากการฟังให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงขณะนี้ หนทางนี้ประเสริฐไหม ท่านอาจารย์กล่าวว่า ทุกครั้งที่พบกันก็พูดถึงสิ่งที่มีจริงอีก เพียงฟังให้เข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏขณะนี้ก็ยาก สติเกิดก็ยิ่งยาก ปัญญาขั้นต่างๆ วิปัสสนาแต่ละขั้น ที่จะเห็นแจ้งตามความเป็นจริงตามลำดับจนดับกิเลสได้ยากยิ่งสักเพียงใด ฟังบ่อยๆ สิ่งที่มีจริงขณะนี้ เพื่อเก็บไว้ในใจ จนไม่ลืมว่า ขณะนี้เป็นธรรม สักวันหนึ่งสภาพธรรมปรากฏตามความเป็นจริงแก่สติ จึงจะรู้ว่าความเป็นอนัตตาเป็นอย่างไร ไม่ใช่จะไปทำอะไรเพื่อรู้ สิ่งหนึ่งที่มีจริง ไม่ใช่เรา เกิดแก่สติสัมปชัญญะ เพราะเริ่มจากการฟังเข้าใจขึ้นอย่างมากละคลายความต้องการ สภาพธรรมก็ปรากฏตามความเป็นจริง

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ