การเกิดดับของโต๊ะตัวหนึ่ง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประโยชน์ของการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็เพื่อเข้าใจสภาพธรรมที่มีจริง ที่กำลังปรากฏในขณะนี้ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เมื่อได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมสะสมความเข้าใจถูก เห็นถูกไปตามลำดับ ก็จะเข้าใจได้ว่า แต่ละคนเป็นแต่ละหนึ่ง เมื่อว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ก็ไม่พ้นไปจาก ความเกิดขึ้นเป็นไปของสภาพธรรม ที่เป็นนามธรรม (จิต และเจตสิก) และสภาพธรรม ที่ไม่ใช่สภาพรู้ คือ รูปธรรม ไม่พ้นจากสภาพธรรมที่มีจริงเหล่านี้เลย
รูปธรรม เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ไม่ใช่สภาพรู้ ตัวอย่างรูป เช่น ตา หู จมูก ลิ้น กาย รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นต้น รูปธรรม เกิดขึ้นตามสมุฏฐานของตนๆ แล้วก็ดับไปไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน รูปมีมากมายมีทั้งรูปที่เป็นภายในและภายนอก และ รูปทุกๆ รูป เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ทยอยกันเกิด ทยอยกันดับ รูปแต่ละกลุ่มจะไม่ปะปนกัน กล่าวคือ รูปที่เกิดจากกรรม ไม่ใช่รูปกลุ่มเดียวกันกับรูปที่เกิดจากจิต เป็นต้น และที่สำคัญ รูปจะไม่ปะปนกัน กับนามธรรมอย่างเด็ดขาด อายุของรูป เท่ากับจิตเกิดดับ ๑๗ ขณะ มีอายุที่ยาวนานกว่าจิต (และเจตสิก) เพราะจิตมีขณะย่อย ๓ อนุขณะ คือ ขณะที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป สั้นแสนสั้นจริงๆ ไม่มีใครที่จะสามารถหยุดยั้งความเป็นไปของสภาพธรรมได้เลย ความเป็นจริงของธรรม ก็เป็นเช่นนี้ ใครๆ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้น รูปทุกรูป ก็เกิดดับ เท่ากับจิต ๑๗ ขณะ แล้วก็ดับไป ครับ
โต๊ะก็เป็นการประชุมรวมกันของรูปธรรม ที่เป็นธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม สี กลิ่น รส โอชา แปดรูป ซึ่งเป็นรูปที่เกิดจากอุตุ ซึ่งก็รูปเหล่านั้นก็เกิดขึ้นและดับไปตลอดเวลา
1. เขาดับอยู่ตลอดเวลาและเขาเกิดด้วยหรือไม่
รูปธรรมที่ประชุมรวมกัน ที่สมมติเรียกว่า โต๊ะ รูปเหล่านั้น ก็ต้องเกิด เพราะเกิดจึงมีการดับไป เพราะฉะนั้น เมื่อมีดับ ก็ต้องมีเกิด ครับ
2. การดับของโต๊ะ เช่น การค่อยๆ ผุพังทีละนิดใช่หรือไม่
จริงๆ รูปเกิดดับ ตลอดเวลา เพียงแต่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตา ที่เป็นรูปที่เล็กมากๆ แต่ เพราะอาศัยการเกิด และดับไปบ่อยๆ ของรูปที่ประชุมรวมกันเป็นเวลานาน ก็ปรากฎความเสื่อมสลายไป มีการผุพัง เป็นต้นได้ ครับ
3. มีรูปเกิดใหม่ที่โต๊ะตัวนั้นหรือไม่ในระหว่างที่เขายังไม่พังทลายไปหมด
มีตลอดเวลา ครับ เพียงแต่มองไม่เห็น จนกว่าจะหมดปัจจัยที่จะไม่เกิด รูปที่เกิดจากอุตุ ก็เสื่อมสลายไปจนหมดสิ้น ครับ
ขออนุโมทนา
เรื่องราวมีเมื่อคิด โต๊ะมีเมื่อคิด ถ้าไม่คิดก็ไม่มี จนเป็นความเข้าใจของตนเอง ที่มั่นคงขึ้นแม้ในขั้นการฟังว่า มี เมื่อคิด เท่านั้นจริงๆ ไม่คิด ไม่มีเลย สภาพคิดเรื่องโต๊ะเกิดดับ มีจริงๆ สภาพสงสัย ก็มีจริงๆ
ขออนุโมทนา
รูปทุกรูป ไม่ว่าจะเป็นรูปอะไร ก็เกิดดับ รวมถึงรูปที่โต๊ะด้วย เพราะ รูปมีความหมายว่า มีความเสื่อม แตกสลายไปเป็นธรรมดา ค่ะ
เดิมผมสงสัยว่าโต๊ะตัวหนึ่ง เกิดด้วยอุตุ อาหาร เป็นต้นไม้ พอแปรรูปมาเป็นโต๊ะตัวหนึ่ง คิดว่าเขามีแต่ดับอย่างเดียว เพราะเป็นรูปที่ต้องย่อยยับไปด้วยความร้อน เย็นคือ อุตุ ในที่สุดก็จะผุพังเป็นผงไปหมด แต่ในคำตอบบอกว่าเกิดใหม่อยู่ตลอดเวลา แต่ไม่อาจมองเห็นได้ง่ายๆ ต้องมีปัญญาในระดับสูง จึงจะมองเห็นได้
อีกประการหนึ่งในความเห็นที่ 2 กล่าวว่าเรื่องราวมีเมื่อคิด โต๊ะมีเมื่อคิด สภาพคิดเรื่องโต๊ะเกิดดับมีจริงๆ ก็ได้ความเข้าใจไปอีกแบบหนึ่ง
เราไม่สามารถเข้าใจการเกิดดับของรูปและสภาพธรรมได้ด้วยการคิด แต่ต้องโดยการประจักษ์แจ้งด้วยปัญญาระดับสูง
ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็เข้าใจได้แค่ระดับว่า รูปใดก็ตามเกิดดับตลอดเวลา แต่ปัญญาเรามองไม่เห็น ต้องเจริญอบรมปัญญาต่อไป จนกว่าจะประจักษ์ด้วยตนเอง (คล้ายๆ คำตอบของบางท่านที่ว่า "เมื่อปฏิบัติไปถึงขั้นนั้นแล้วจะเห็นเอง") ผมยินดีรับคำแนะนำที่จะศึกษาต่อไป ฟังพระธรรมต่อไป ขอบพระคุณทุกท่านที่ตอบ
และขออนุโมทนาทุกท่านครับ
กราบเรียนท่านอาจารย์ ตามประเด็นที่สนทนาในหัวข้อนี้ ผมมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ตามความเข้าใจของผู้ยังไม่มีปัญญาดังนี้ โต๊ะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพืชซึ่งเป็นสิ่งที่มีชีวิตที่ไม่มีวิญญาณครอง อาศัยอุตุ อาหาร ฯลฯ ในการดำรงค์ชีพ (ตามความเข้าใจ) ในขณะที่ยังคงสภาพที่เป็นต้นไม้ที่มีชีวิตอยู่ ยังพอเข้าใจได้ว่ายังมีการเกิด-ดับ ดั่งเช่นมนุษย์ หรือสิ่งที่มีชีวิตทั่วๆ ไป แต่เมื่อถูกตัด และแปรสภาพเป็นโต๊ะแล้ว ซึ่งก็หมายความว่าน่าจะหมดสภาพแห่งความความเกิดแล้ว น่าจะคงเหลือแต่สภาพแห่งความดับอย่างเดียว (สลายสภาพ) ไม่เหมือนมนุษย์ที่เป็นสิ่งที่มีชีวิตที่มีวิญญาณครอง ถูกปลิดชีวิตวิญญาณ หมดสภาพความเป็นมนุษย์ในภพนั้น ดวงจิตก็ยังมีการเกิด-ดับๆ อยู่ เวียนว่าย ตาย เกิด ไม่มีวันจบสิ้น