อกุศลที่เหนียวแน่น

 
สิริพรรณ
วันที่  3 พ.ย. 2556
หมายเลข  23959
อ่าน  1,692

ที่ท่าน อ. กล่าวว่า "ความคิดบางอย่างเกิดมาก บางอย่างเกิดน้อย ก็เพราะอาศัยเหตุปัจจัยที่แตกต่างกันไป อันแสดงถึงความเป็นอนัตตา ซึ่งความคิดที่เกิดบ่อยในเรื่องใด ก็เพราะ มีการทรงจำในเรื่องนั้นมากเป็นพิเศษ เมื่อมีการเสพคุ้น เรื่องราวอารมณ์นั้นบ่อยๆ ก็ทำให้มีการตรึกนึกคิดในเรื่องนั้น แต่หากมีการทรงจำในเรื่องที่น้อยก็ทำให้คิดในเรื่องนั้นน้อยตามไปด้วย"

จากข้อความข้างต้นนี้ เข้าใจว่า การสะสมสัญญาเรื่องที่ดี ถูกต้อง เช่น การฟังพระธรรม สนทนาธรรม ทำให้เกิดปัญญา ทีละเล็กทีละน้อย ดีกว่าไปสนทนาหรือสนใจเรื่องที่เป็นอกุศล การคลุกคลีกับเรื่องราวทางโลก ความโลภ โกรธ หลง ในที่ทำงาน ผลย่อมต่างกับการคลุกคลีในการฟังพระธรรม ทั้งที่รู้ และฟังพระธรรมอย่างต่อเนื่อง จนวิทยุพังไปหลายเครื่อง แต่เมื่ออยู่ที่ทำงาน ยังสนใจเรื่องราวบางเรื่องที่เป็นอกุศล และเกิด โลภะ โทสะ โมหะ บ่อยๆ เช่น มีคนมาระบายเรื่องความไม่ดีของคนอื่น ที่ทำให้เขาเดือดร้อน แม้เราจะรับฟังด้วยความเห็นใจเขา แต่ใจก็ยังมีความไม่ชอบคนที่เป็นต้นเหตุ นี่มันคืออกุศลแท้ๆ บางครั้งอดไม่ได้ที่จะนำไปเล่าต่อ รบกวนท่าน อ.ทั้งสองกรุณาชี้แนะด้วยค่ะ

กราบขอบพระคุณยิ่ง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 3 พ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อกุศลธรรม เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น แต่ละบุคคลไม่สามารถจะยับยั้งอกุศลธรรม เพราะเหตุว่าเมื่อได้เหตุได้ปัจจัยก็เกิดขึ้น และอาจจะมีกำลังแรงกล้าด้วย เพราะได้สะสมมานานแสนนานในสังสารวัฏฏ์ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมอกุศลจึงเกิดบ่อยมากในชีวิตประจำวัน แต่อย่างไรก็ตามสำหรับบุคคลที่ได้อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมบ่อยๆ เนืองๆ ถึงแม้ว่าอกุศลธรรมจะเกิดขึ้นเป็นไป แต่สติและปัญญาที่ได้สะสมอบรมมาก็สามารถจะเกิดขึ้นระลึกรู้ในลักษณะที่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ของอกุศลธรรมในขณะนั้นได้

จึงแสดงให้เห็นว่าการฟังพระธรรม การศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน เป็นประโยชน์เกื้อกูลอย่างยิ่งเพราะจะเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส จากที่เคยเต็มไปด้วยกิเลสประการต่างๆ แต่เมื่อได้อาศัยการอบรมเจริญปัญญา โดยเริ่มจากการศึกษาพระธรรมในแนวทางที่ถูกต้อง ความเข้าใจถูกเห็นถูกเท่านั้น ที่จะเป็นที่พึ่ง ทุกที่ ทุกเวลา ทุกสถานการณ์ตามกำลังปัญญา กำลังของกุศลธรรมเท่านั้น ที่จะทัดทานกำลังทางฝ่ายอกุศล ได้

เพราะฉะนั้นแล้ว โอกาสแห่งการฟังพระธรรม ไม่ว่าจะเป็นเมื่อใด ก็ย่อมจะเป็นประโยชน์ เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก แม้จะเล็กน้อย ก็มีค่า แทนที่จะไปเสพคุ้นกับสิ่งอื่นที่ไม่ได้เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมและปัญญาเลย และชีวิตที่เหลืออยู่นี้ ก็ควรที่จะได้เป็นไปเพื่อการสะสมความเข้าใจถูก และไม่ประมาทในการสะสมความดีประการต่างๆ ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 3 พ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นััน

การสะสม มีทั้ง สะสมสิ่งที่ดี และ สะสมสิ่งที่ไม่ดี ที่เป็นการสะสม กุศลธรรม และสะสม อกุศลธรรม ซึ่งในความเป็นจริง ชีวิตของปุถุชนก็เป็นธรรมดา ที่จะต้องเป็นไปตามอำนาจของกิเลส เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมก็ไหลไปโดยมากกับกิเลส หากแต่ว่า ควรเข้าใจความต่างกันของการสะสมทั้งสองอย่าง คือการสะสม สิ่งที่ดี กับการสะสมสิ่งที่ไม่ดี มีกำลังแตกต่างกัน จนมีคำถามหนึ่ง ที่กล่าวว่า ถ้าในชีวิตสะสมสิ่งที่ไม่ดีมากกว่า แล้วจะละสิ่งที่ไม่ดีได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งที่ดี คือ กุศล เกิดน้อย

แต่ในความเป็นจริง สภาพธรรมที่เป็นกุศล และ อกุศล มีกำลังแตกต่างกันอย่างมาก โดยเฉพาะ ปัญญา กับ อวิชชา เพราะฉะนั้น แม้จะมีการสะสมอกุศลในชีวิตประจำวันมากมายสักเท่าไหร่ แต่สภาพธรรมที่เป็นอกุศล มีกำลังน้อยกว่ากุศลธรรม โดยเฉพาะปัญญา เพราะฉะนั้น ปัญญาที่ค่อยๆ สะสมทีละน้อยในบางช่วงเวลา แต่ เมื่อสะสมมีกำลังมาก ย่อมฆ่าหมู่กิเลสที่สะสมมามากมาย นับไม่ถ้วนได้ ท่านเปรียบเหมือน หมู่พลหทาร แม้จะมีมาก แต่ ไม่มีกำลัง ไม่มีฝีมือ เมื่อเจอแม่ทัพ แม้จะมีน้อย แต่มีกำลัง มีฝีมือมาก ย่อมฆ่าหมู่กิเลส ได้หมดสิ้นฉันใด กุศลแม้จะสะสมน้อย แต่เมื่อสะสมมากย่อมมีกำลังมาก ดั่งเช่น ปัญญาที่ค่อยๆ สะสมแต่เมื่อสะสมมากเข้า ย่อมมีกำลังมาก ย่อมฆ่าหมู่กิเลสได้หมดสิ้น ครับ

จะเห็นได้ว่าแม้ในชีวิตประจำวัน จะสะสมกิเลสในช่วงเวลาใด เวลาหนึ่งก็ตาม แต่ก็มีการสะสม สภาพธรรมที่สำคัญ คือ ปัญญา ที่จะทำให้ถึงการมีกำลัง ดับกิเลสได้ในที่สุด ซึ่งการเจริญสติปัฏฐาน อบรมปัญญา จึงเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน เกิดอกุศลได้ และปัญญาก็สามารถเกิด รู้ว่าอกุศลเป็นธรรมไม่ใช่เราได้ เช่นกันครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
papon
วันที่ 3 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
orawan.c
วันที่ 4 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
สิริพรรณ
วันที่ 4 พ.ย. 2556

กราบขอบพระคุณท่าน อ.ทั้งสองเป็นอย่างสูง เป็นความรู้ใหม่จริงๆ ค่ะว่ากำลังของกุศล โดยเฉพาะปัญญา มีกำลังมากกว่าอกุศลที่สะสมไว้มาก ทำให้มีกำลังใจในความเพียรเจริญสติปัฎฐานให้บ่อยๆ เพิ่มขึ้นควบคู่กับฟังพระธรรม จะมีผลฆ่าอกุศลได้

ขออนุโมทนา ด้วยความเคารพในพระธรรมที่ท่าน อ.กรุณาชี้แนะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 18 ธ.ค. 2556

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nong
วันที่ 5 ม.ค. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 31 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ