กราบเรียนถามเรื่องนิพพาน

 
udomjit
วันที่  11 พ.ย. 2556
หมายเลข  24000
อ่าน  911

มีความปราถนาใคร่รู้ว่า บุคคลที่นิพพานนั้นต้องเป็นอริยบุคคลระดับอรหันต์เท่านั้นใช่ไหม่คะ ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
prachern.s
วันที่ 11 พ.ย. 2556

พระอริยบุคคลที่จะปรินิพพาน คือ ดับโดยรอบ ไม่มีขันธ์เกิดขึ้นอีก จะต้องเป็นพระอริยบุคคลระดับพระอรหันต์เท่านั้น พระอริยเจ้าขั้นอื่นก็ยังต้องเกิดอีก เพราะยังดับกิเลสไม่หมด แต่ภพชาติของท่านก็เหลือไม่มาก เช่น พระอนาคามีบุคคล เกิดอีกชาติเดียวท่านก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ ปรินิพพานในพรหมโลก พระโสดาบันบุคคล ท่านจะเกิดอีกไม่เกิน ๗ ชาติ ท่านจะเจริญปัญญาบรรลุเป็นพระอริยขั้นสูงขึ้นไปจนถึงพระอรหันต์แล้วปรินิพพานเหมือนกัน ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 11 พ.ย. 2556

ปรมัตถธรรม ที่เป็นสภาพธรรมที่มีจริง แบ่งเป็นามธรรมและรูปธรรม นามธรรม คือ จิต เจตสิก และนิพพาน ส่วนรูปธรรมคือ รูป ปรมัตถธรรม จึงแบ่งเป็นจิต เจตสิก รูป และนิพพาน

นิพพานเป็นสภาพธรรมที่เป็นนามธรรมด้วยครับ แต่ไม่ใช่นามธรรมแบบจิต เจตสิก เพราะนามธรรมที่เป็นจิต เจตสิก เป็นสภาพธรรมที่เป็นนามธรรมที่ยังมีเหตุปัจจัยปรุงแต่ง เป็นสังขารธรรม ที่เกิดขึ้นและดับไป จิต เจตสิก เป็นนามธรรมที่รู้อารมณ์ แต่นิพพาน เป็นสภาพธรรมที่ไม่มีเหตุปัจจัย ปรุงแต่ง ไม่เกิดขึ้นและดับไป ต่างกับ จิต เจตสิก ที่เป็นสภาพธรรมที่มีปัจจัยปรุงแต่ง เกิดขึ้นและดับไปครับ ดังนั้นเราจะต้องแยกระหว่างนามธรรมที่เป็นพระนิพพาน กับ นามธรรมที่เป็นจิต เจตสิก ครับ คือ เป็นนามธรรมที่ไม่รู้อารมณ์ ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง เป็นพระนิพพาน กับ นามธรรมที่รู้อามรณ์ มีปัจจัยปรุแต่ง เกิดขึ้นและดับไปเป็น จิต เจตสิกครับ

ขอแยกเป็นประเด็น ผู้ที่รู้นิพพานได้กับ ผู้ที่นิพพานไม่เกิดอีก ประเด็นแรก ผู้ที่รู้นิพพานได้ คือ ซึ่งพระนิพพาน สามารถรู้ได้โดยการเป็นอารมณ์ของจิต ซึ่งพระนิพพานเป็นอารมณ์ของมรรคจิต สี่ และ ผลจิตสี่ มีโสดาปัตติมรรค เป็นต้น เพราะฉะนั้น พระนิพพานเป็นอารมณ์ของพระอริยบุคคลทุกขั้น ทั้งพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามึ และพระอรหันต์ ครับ ส่วนผู้ที่นิพพานไม่เกิดอีก คือ พระอรหันต์เท่านั้น ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 11 พ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระอริยบุคคลเป็นผู้ประจักษ์แจ้งพระนิพพานดับกิเลสตามลำดับขั้น และจะถึงการดับกิเลสได้อย่างหมดสิ้นก็ต้องถึงความเป็นพระอรหันต์

พระอรหันต์ ดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างหมดสิ้น ดับกิเลสได้โดยรอบโดยประการทั้งปวง ไม่มีเหลือ (กิเลสปรินิพพาน) แต่ชีวิตของพระอรหันต์ หลังจากที่ได้บรรลุแล้ว ก็จะต้องดำเนินต่อไป เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย มีจิต เจตสิก และรูป เกิดขึ้นเป็นไป กล่าวคือ มีขันธ์ เกิดขึ้นเป็นไป แต่ไม่เป็นไปกับด้วยกิเลสใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าจะถึงเวลาดับขันธปรินิพพาน (ดับโดยรอบซึ่งขันธ์) เมื่อดับขันธปรินิพพานแล้ว ไม่มีการเกิดอีกในสังสารวัฏฏ์ ไม่มีจิต เจตสิก และรูป เกิดขึ้นอีกเลย เพราะดับเหตุที่จะทำให้มีการเกิดคือ กิเลสได้อย่างหมดสิ้นแล้ว ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
udomjit
วันที่ 11 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 16 พ.ย. 2556

สาวก แปลว่า ผู้ฟัง ผู้ที่ศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า ปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน ปรารถนาบรรลุ มรรค ผล นิพพาน คือการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมเป็นพระอรหันต์ ค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ