สะสมไปจนกว่าจะเข้าใจ

 
tanrat
วันที่  12 พ.ย. 2556
หมายเลข  24009
อ่าน  1,080

ฟังพระธรรมก็นาน เป็นปี ความไม่รู้ก็บอกว่านานพอสมควร เข้าใจหรือยัง มั่นคงไหม ต้องเป็นผู้ที่ตรง จึงเป็นสัจจะ รู้นิดหน่อยก็บอกว่ารู้แล้ว เป็นผู้ตรงหรือเปล่า เป็นเรื่องของการสะสมของผู้ที่ศึกษาหรือผู้ฟังเอง ต้องไม่หลอกตน จะหลอกก็ได้แต่ผู้ที่จะได้รับประโยชน์ คือใคร คงต้องฟังไปอีกนาน ไม่รู้มานานแสนโกฏิกัปป์ ฟังด้วยความเคารพ แล้วน้อมมาพิจารณา นำมาประพฤติปฎิบัติตามกำลังแห่งตน อย่างน้อยก็เข้าใจถูก สะสมความถูกต้องไป


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 12 พ.ย. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 12 พ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จิรกาลภาวนา เป็นการอบรมเจริญปัญญา ที่ต้องใช้เวลาหรืออาศัยเวลาในการอบรมเจริญ ที่ยาวนาน ไม่ใช่วันเดียว ชาติเดียว ค่อยๆ สั่งสมความเข้าใจธรรมทีละเล็กทีละน้อย (จิระ ยาวนาน, กาละ เวลา ภาวนา การอบรมเจริญ) ในแต่ละวันที่ชีวิตดำเนินไปอยู่นี้ บางครั้งเป็นไปตามอำนาจของกิเลส ทั้งโลภะ (ความติดข้องเพลิดเพลิน) โทสะ (ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ) โมหะ (ความหลง ความไม่รู้) บางครั้งก็เป็นโอกาสของการเจริญกุศลประการต่างๆ ตามสมควร แต่อย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต คือ การได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง อวิชชา (ความไม่รู้) ที่ได้สั่งสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์นับชาติไม่ถ้วน ก็จะค่อยๆ เบาบางลงไปตามลำดับของความเข้าใจ เพราะฉะนั้นแล้ว จึงต้องมีความอดทนที่จะศึกษาที่จะฟังพระธรรมต่อไป เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ตามความเป็นจริง ยิ่งๆ ขึ้นไป แม้แต่ท่านที่ได้บรรลุถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ ได้นั้น ท่านก็ได้อบรมเจริญปัญญาเป็นเวลาที่ยาวนาน (จิรกาลภาวนา) มาแล้วทั้งนั้น เมื่อได้ฟังได้ศึกษา ความรู้ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นไปตามลำดับ ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม เพื่อเข้าใจลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริงเพื่อเข้าใจว่าธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตน แต่เป็นสิ่งที่มีจริงไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ แม้กระทั่งความคิด ขณะที่คิด ก็เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้แน่นอน ไม่มีอะไรที่เกิดแล้วจะไม่ดับ สิ่งใดที่ไม่ดี ไม่เป็นประโยชน์ ก็ไม่ควรที่จะสั่งสมให้มีมากขึ้น แต่สิ่งที่ควรเพิ่มในชีวิตประจำวัน คือ การฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 12 พ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การฟังพระธรรม คือ ฟังในสิ่งที่มีจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดง การที่จะได้ฟังพระธรรม นั้น ย่อมมีเหตุ เหตุที่ว่านั้น ก็คือ ความเป็นผู้ที่เคยได้สะสมการฟังพระธรรมมาแล้ว มีศรัทธาที่จะฟัง จึงทำให้สนใจที่จะฟัง ที่จะศึกษา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไป จึงเป็นเรื่องที่น่าคิดพิจารณาว่า ใครก็ตามที่มีโอกาสได้ฟังได้ศึกษาพระธรรม จะเป็นวัยใด เพศใด อยู่ในฐานะใด ประโยชน์ก็ย่อมเกิดมีแก่ผู้นั้น คือความเข้าใจถูกเห็นถูก เมื่อมีโอกาสที่จะได้ฟังได้ศึกษาพระธรรม ก็ควรที่จะได้ฟัง ได้ศึกษาต่อไป ไม่ละทิ้งการฟังพระธรรม ฟังพระธรรมด้วยความละเอียดรอบคอบ สะสมเป็นอุปนิสัยที่ดีต่อไป การฟังพระธรรมในแต่ละครั้ง ไม่ไร้ผล เพราะเป็นการสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 12 พ.ย. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ธนัตถ์กานต์
วันที่ 13 พ.ย. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 16 พ.ย. 2556

ในพระไตรปิฏกก็มีแสดงไว้ว่า การฟังธรรมเป็นความดี การฟังธรรมเป็นเหตุให้ปัญญาค่อยๆ เจริญขึ้น และเป็นเหตุให้สติปัฏฐานเกิดเมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ch.
วันที่ 17 พ.ย. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
tanrat
วันที่ 21 เม.ย. 2557

การปฎิบัติธรรมสมควรธรรมคืออย่างไร กรุณายกตัวอย่างด้วยค่ะ?

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pamali
วันที่ 23 เม.ย. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ