ให้ทานเพราะหวังผลตอบแทน
อยากได้สวรรค์สมบัติจึงขวนขวายการให้ทาน เพราะเคยได้ยินได้ฟังมาว่าหากให้ทานหรือทำบุญมากๆ จำนวนเงินมากๆ ให้กับผู้ที่เป็นผู้มีบุญกุศลมาก เช่นพระภิกษุสงฆ์ที่แลดูสงบ เคร่งธรรมะ รักษาศีลบริสุทธิ์๒๒๗ข้อ จะได้บุญมากๆ จึงกระทำให้ทาน เช่นนี้แล้วจะได้บุญมากๆ จริงหรือ กราบเรียนถามท่านผู้รู้กรุณาเรียนให้ทราบด้วยค่ะ
ตามหลักคำสอนพระพุทธองค์ทรงแสดงความจริงว่า กุศลกรรมคือการให้ทาน มีผลมีอานิสงส์ แต่ผลจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น วัตถุสิ่งของที่เราให้เป็นของดีประณีต ผู้ให้ก็มีคุณธรรม ประพฤติธรรม ก่อนให้ทาน หลังให้ทานก็ดีใจมีเจตนาดี ผู้รับก็มีคุณธรรมประพฤติธรรม เป็นต้น ดังนั้น การให้ทานทำบุญแต่ละครั้งนั้น ผลของบุญจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่ที่องค์ประกอบดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ส่วนจำนวนเงินมาก หรือน้อยคงไม่เป็นประมาณ คือคนที่ทำบุญด้วยเงินจำนวนน้อย ผลบุญก็อาจจะมากกว่าคนที่ทำบุญด้วยเงินจำนวนมากก็ได้ และผู้รับทานก็มีส่วนคือ ถ้าท่านมีศีลไม่มีกิเลสในภายใน ผลของบุญก็ยิ่งมากกว่า และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าทำบุญแล้วติดข้องผูกพันในผลของบุญ ผลของบุญก็น้อยกว่าผู้ที่ให้แล้วไม่ติดข้องในผลบุญครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ถ้าทานกุศลในชีวิตประจำวัน ไม่เกิดเลย จะดำเนินไปถึงการดับกิเลสได้อย่างไร การเจริญกุศล ก็ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น แต่เพื่อขัดเกลากิเลส กุศลเป็นสภาพธรรม ฝ่ายดี ควรที่จะอบรมเจริญในชีวิตประจำวัน ขณะใดที่กุศลจิตเกิด ขณะนั้นจะเบาสบาย ผ่องใส ซึ่งจะตรงกันข้ามกับขณะที่จิตเป็นอกุศลอย่างสิ้นเชิง
แม้ในขณะที่ให้ทาน ไม่ใช่ให้เพื่อหวังผลเป็นสิ่งตอบแทนจากการให้ เป็นต้น แต่เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ความตระหนี่ ถ้าเป็นผู้ได้ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ก็จะทำให้เห็นอกุศลที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงแล้วเริ่มขัดเกลากิเลสของตนเอง และเป็นผู้ที่เข้าใจในเหตุในผลมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดย่อมเป็นเพราะได้ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ปัญญาเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมีในขณะนั้น
การเจริญกุศลเพื่อหวังสิ่งหนึ่งสิ่งใดตอบแทนนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ถ้าเริ่มเข้าใจพระธรรมไปตามลำดับแล้ว การเจริญกุศลทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นในขั้นของทาน (การให้ สละวัตถุสิ่งของ เพื่อประโยชน์สุขของบุคคลอื่น อันเป็นการสละซึ่งความตระหนึ่) ขั้นของศีล (งดเว้นจากทุจริตกรรมประการต่างๆ และประพฤติในสิ่งทีดีงาม) ขั้นของภาวนา (การอบรมเจริญความสงบของจิต และการอบรมเจริญปัญญาที่ประจักษ์แจ้งในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง) ย่อมเป็นไปเพื่อการขัดเกลากิเลสทั้งสิ้น ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขอร่วมแสดงความเห็นด้วยครับ
จิตขณะให้ หรือขณะที่คิดจะให้ เป็นคนละขณะ กับขณะที่หวังผลตอบแทน
และขณะที่ให้ทาน นั้น (จิต) เป็นบุญ ไม่ใช่ได้บุญ
และขณะที่หวังหรืออยากได้ นั้น (จิต) ไม่เป็นบุญ และก็ไม่ได้บุญด้วยครับ