การรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงมีความสัมพันธ์กับสติปัฏฐานหรือไม่อย่างไร
เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน
การรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงมีความสัมพันธ์กับสติปัฏฐานหรือไม่อย่างไรครับขอ ความ อนุเคราะห์ ด้วย ครับ
ขออนุโมทนาครับ
การรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ขณะนั้นมีปัญญาเกิดรู้ความจริงของธรรม พร้อมสติที่ระลึก ขณะนั้นเป็นสติปัฏฐาน แม้จะไม่เรียกชื่อว่าสติปัฏฐาน แต่ก็เป็นเพราะกำลังรู้ ตามความเป็นจริงด้วยปัญญาและสติ ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษานั้น แสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรม ที่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา เพื่อให้ผู้ฟังได้เข้าใจถึงลักษณะ ของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง สำหรับธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงนั้น ไม่พ้นไปจากสิ่งที่มีจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึก จิตเป็นกุศล เป็นอกุศล เป็นวิบาก เป็นกิริยา โดยประมวลแล้ว เป็นจิต เจตสิก รูป หรือ เป็นนามธรรม กับ รูปธรรม เมื่อประมวลให้ย่อที่สุดแล้ว คือ เป็นธรรม หรือ เป็นธาตุ เมื่อเป็นธรรม เป็นธาตุ แต่ละอย่างๆ จึงหาความเป็นสัตว์เป็นบุคคลไม่ได้เลย
การระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏ เป็นเรื่องของความเข้าใจที่ค่อยๆ เจริญขึ้นจากการได้มีโอกาสไดัฟังความจริง ที่เป็นสัจจธรรม เป็นธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่ใช่ด้วยความคิดนึก แต่ในขณะนั้นสติพร้อมด้วยปัญญา เกิดขึ้น ทำกิจหน้าที่ระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ธรรมเกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอด เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปทางทวารใด ก็ตาม สำคัญที่ปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูกที่ได้สะสมอบรมเจริญ ไม่ใช่เป็นการเจาะจงที่จะรู้เฉพาะทวารหนึ่งทวารใด เพราะถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว ไม่พ้นไปจากความเป็นตัวตน ไม่ได้ขัดเกลาละคลายอะไรเลย จึงสำคัญที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกตั้งแต่ต้น ซึ่งถ้ามีความเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม สภาพธรรมเกิดปรากฏ ก็สามารถรู้ตามความเป็นจริงได้ เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ