ผมเข้าใจถูกไหมครับเรื่อง อกุศลกรรมบถ
1.ที่เขาบอกกันว่า สึก ออกมาแล้วจะไม่มีอาบัติติดตัวเพราะเราเป็นเพศคฤหัสถ์ เพราะอะไรหรอครับ
2.ในพระบัญญัติ สังฆาทิเสส 13 ข้อ จะเป็น อกุศลกรรมบถ ก้อต่อเมื่อทำผิดข้อที่ 9 10 และ 11 ก็คือ
9. แกล้งสมมติแล้วใส่ความว่าภิกษุอื่นต้องอาบัติปาราชิกโดยไม่มีมูล
10. ยุยงสงฆ์ให้แตกกัน
11. เป็นพวกของผู้ที่ทำสงฆ์ให้แตกกัน
นอกนั้นถ้าสมมติทำผิดแล้วสึกไปก็จะไม่มีผลต่อเพศคฤหัสถ์ ใช่ไหมครับ ไม่มีผลต่อการขัดขวางการดำรงชีวิตที่ว่าจะพาชีวิตไม่เจริญ และเรื่องนรก สวรรค์อะไรต่างๆ นานาเมื่อสิ้นชีวิต
สงสัยครับ ถามเอาความรู้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
1. ที่เขาบอกกันว่า สึก ออกมาแล้วจะไม่มีอาบัติติดตัวเพราะเราเป็นเพศคฤหัสถ์ เพราะอะไรหรอครับ
ควรเข้าใจความจริงครับว่า หากว่า สึกออกมาแล้ว ในเพฤศคฤัสถ์ อาบัติที่เคยล่วง ไม่ว่าในข้อใด ก็จะไม่ติดตามมาอีกเลย ยกเว้นเสียแต่กลับไปบวชใหม่ ที่สำคัญ หากไม่ใช่การทำการผิดศีล ที่เป็นการฆ่าศัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกามที่เป็นอกุศลกรรมบถ ก็ไม่ส่งผลกลับชีวิตแน่นอน ซึ่งควรเข้าใจว่า อาบัติของพระภิกษุ ย่อมมีผลจำกัดกับเฉพาะเพศบรรพชิตเท่านั้น ไม่ได้มาติดตาม เมื่อสึกเป็นคฤหัสถ์แล้ว ครับ
2. ในพระบัญญัติ สังฆาทิเสส 13 ข้อ จะเป็น อกุศลกรรมบถ ก้อต่อเมื่อทำผิดข้อที่ 9 10 และ 11 ก็คือ
9. แกล้งสมมติแล้วใส่ความว่าภิกษุอื่นต้องอาบัติปาราชิกโดยไม่มีมูล
10. ยุยงสงฆ์ให้แตกกัน
11. เป็นพวกของผู้ที่ทำสงฆ์ให้แตกกัน
____________________________________
อาบัติสังฆาทิเสส มี 13 ข้อดังนี้
๑. แกล้งปล่อยน้ำอสุจิด้วยความจงใจ เว้นไว้แต่ฝัน
๒. เคล้าคลึง จับมือ จับช้องผม ลูบคลำ จับต้องอวัยวะอันใดก็ตามของสตรีเพศ
๓. พูดจาหยาบคาย เกาะแกะสตรีเพศ เกี้ยวพาราสี
๔. การกล่าวถึงคุณในการบำเรอตนด้วยกาม หรือถ้อยคำพาดพิงเมถุน
๕. ทำตัวเป็นสื่อรัก บอกความต้องการของอีกฝ่ายให้กับหญิงหรือชาย แม้สามีกับภรรยา หรือแม้แต่หญิงขายบริการ
๖. ไม่ให้สงฆ์แสดงที่ให้ก่อสร้างกุฏิด้วยการขอและสร้างใหญ่เกินประมาณ
๗. สร้างวิหารใหญ่ โดยพระสงฆ์มิได้กำหนดที่ รุกรานคนอื่น
๘. แกล้งใส่ความภิกษุอื่นว่าต้องอาบัติปาราชิกโดยไม่มีมูล
๙. แกล้งสมมติแล้วใส่ความว่าภิกษุอื่นต้องอาบัติปาราชิกโดยไม่มีมูล
๑๐. ยุยงสงฆ์ให้แตกกัน
๑๑. เป็นพวกของผู้ที่ทำสงฆ์ให้แตกกัน
๑๒. เป็นผู้ว่ายากสอนยาก และต้องโดนเตือนถึง 3 ครั้ง
๑๓. ทำตัวเป็นเหมือนคนรับใช้ ประจบคฤหัสถ์
ข้อที่ 8 9 10 เท่านั้นที่เป็นกรรมที่ถึงอกุศลกรรมบถ ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระวินัยบัญญัติแต่ละสิกขาบท พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติด้วยพระองค์เอง เพื่อให้พระภิกษุได้สำรวมระวัง ไม่ล่วงละเมิดในสิกขาบทนั้นๆ อันจะเป็นไปเพื่อฝึกหัดกาย วาจา ใจ ให้เป็นไปในทางที่ถูกที่ควร เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส ถ้าไม่ได้ศึกษา พระธรรมวินัยให้เข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว โอกาสที่จะล่วงละเมิดสิกขาบท ก็ย่อมจะมีได้มาก รวมถึงต้องอาบัติสังฆาทิเสส ด้วย ซึ่งเมื่อต้องอาบัติสังฆาทิเสส แล้ว ต้องแก้ไขด้วยการประพฤติวุฏฐานวิธี (อยู่กรรม) ตามพระวินัย จึงจะพ้นจากอาบัติสังฆาทิเสสได้ ตามความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาบัติหนักหรือเบา ถ้าไม่ได้แก้ไขให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยแล้ว ย่อมมีโทษแก่ภิกษุรูปนั้น เป็นเครื่องกั้นในการบรรลุมรรคผล นิพพาน และถ้ามรณภาพในขณะที่ยังมีอาบัติอยู่ ก็เป็นผู้มีอบายภูมิเป็นที่ไปในเบื้องหน้า แต่ถ้าได้แก้ไขให้ถูกต้องแล้ว ย่อมไม่เป็นเครื่องกั้น เมื่อลาสิกขาแล้ว ย่อมไม่มีอาบัติอีกต่อไป สามารถเป็นคนดี ในเพศคฤหัสถ์ได้ โดยไม่ต้องวิตกกังวลในเรื่องอาบัติเพราะเป็นคฤหัสถ์แล้ว ไม่มีอาบัติ ไม่ใช่เพศบรรพชิตอีกต่อไป ก็ควรที่จะเป็นคนดี ควบคู่ไปกับการฟังพระธรรมให้เข้าใจ แม้อาบัติสังฆาทิเสสบางข้อจะเป็นอกุศลกรรมบถ ก็ต้องเข้าใจถึงความเป็นจริงอย่างมั่นคงว่ากรรมมีจริงๆ เป็นธรรม และเมื่อถึงคราวที่อกุศลกรรมให้ผล ผลก็ต้องเกิดขึ้นเป็นไปใครๆ ก็ยับยั้งไม่ได้ครับ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ