อายตนะ 12

 
papon
วันที่  17 พ.ย. 2556
หมายเลข  24036
อ่าน  11,169

เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน

ฟังพระอภิธรรมพื้นฐานตอนที่ 82 ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับอายตนะ 12 ขอรายละเอียดด้วยครับ และขอความกรุณาช่วยยกตัวอย่างด้วยครับ อย่างเช่น การเห็นประกอบด้วยอายตนะอย่างไรครับ ขอความอนุเคราะห์ด้วย ครับ

ขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 19 พ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก่อนอื่นก็จะต้องเข้าใจก่อนครับว่า อายตนะ ซึ่งคำว่า อายตนะ หมายถึง ที่ต่อ บ่อเกิด ที่ประชุม เหตุ อายตนะภายใน ๖ และ อายตนะภายนอก ๖ มีดังนี้

อายตนะภายใน ๖ อายตนะภายนอก ๖

๑. จักขวายตนะ (จักขปสาทรูป)

๒. รูปายตนะ (รูปสี)

๓. โสตายตนะ (โสตปสาทรูป)

๔. สัททายตนะ (รูปเสียง)

๕. ฆานายตนะ (ฆานปสาทรูป)

๖. คันธายนะ (รูปกลิ่น)

๗. ชิวหายตนะ (ชิวหาปสาทรูป)

๘. รสายตนะ (รูปรส)

๙. กายายตนะ (กายปสาทรูป)

๑๐. โผฏฐัพพายตนะ (ดิน ไฟ ลม)

๑๑. มนายตนะ (จิต ๘๙)

๑๒. ธัมมายตนะ (สุขุมรูป ๑๖ เจตสิก ๕๒ นิพพาน)

เช่น ขณะเห็น ก็มี จักขวายตนะ (จักขปสาทรูป) ที่เป็นที่เกิดของจิตเห็น และมี รูปายตนะ (รูปสี) ที่เป็นอารมณ์ของจิตเห็น ครับ

ขอยกข้อความคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ในเรื่องนี้ดังนี้ ครับ

ความหมายของอายตนะ

ชุมพร อยากเข้าใจคำว่า “อายตนะ” ค่ะ ตามที่เข้าใจก็คือ อายตนะ เป็นที่ประชุมรวม กันของ ๓ อย่าง ทีนี้การที่จะเข้าใจอรรถของคำว่า “อายตนะ” เราควรเข้าใจอย่างไรคะ

สุ. ก็หมายความว่า เป็นที่ต่อ ที่ประชุม หรือเป็นบ่อเกิด

ชุมพร ในด้านของสติปัฏฐาน จะเข้าใจอายตนะอย่างไรคะ

สุ. ขณะนี้มีจิตซึ่งเป็นธาตุรู้ แต่ขณะนี้กำลังเห็น ถูกไหมคะ ที่เห็นนี่เป็นจิตชนิดหนึ่ง ถ้าไม่มีจักขุปสาท เห็นได้ไหม

ชุมพร ไม่ได้ค่ะ

สุ. ถ้าไม่มีรูปารมณ์กระทบ เห็นได้ไหม

ชุมพร ไม่ได้

สุ. แล้วเห็นเมื่อไรคะ

ชุมพร เห็นเมื่อมี ๓ อย่างประชุมกัน

สุ. เห็นเมื่อมีจักขุปสาทที่ยังไม่ดับและรูปารมณ์ที่กระทบยังไม่ดับ นี่คือความหมายของอายตนะ

ชุมพร ที่ไปอ่านในสติปัฏฐานสูตร มีอายตนบรรพ คนที่เข้าใจคำว่า “อายตนะ” จะต้องเข้าใจ หรือสติปัฏฐานเกิดขณะที่จักขุวิญญาณปรากฏ อย่างนั้นใช่ไหมคะ

สุ. ถ้ายังไม่รู้ลักษณะที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม จะเข้าใจอายตนะได้ไหมคะ

ชุมพร ไม่ได้ค่ะ

สุ. ก็เพียงแต่จำชื่อ


สำคัญที่ความเข้าใจตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะกล่าวถึงคำใด ก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ แม้จะได้ยินคำว่า อายตนะ ก็ไม่พ้นไปจากขณะนี้ เพราะแต่ละขณะ ที่จิตเกิดขึ้นรู้อารมณ์ แต่ละขณะๆ นั้น มีสภาพธรรม ประชุมกันอยู่ มีอยู่ ณ ขณะนั้นมากทีเดียว ยกตัวอย่าง ขณะที่เห็นขณะเดียว ขณะนั้นมีจิตเห็นเกิดขึ้น มีเจตสิกเกิดร่วมด้วย มีที่เกิดของจิตเห็น และมีสีปรากฏ เป็นอารมณ์ของจิตเห็น ซึ่งแต่ละอย่างๆ ก็เป็นแต่ละอายตนะ แต่ละอายตนะ ล้วนเป็นสภาพธรรมที่มีจริง

ประโยชน์ของการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็เพื่อเข้าใจธรรมะ ที่กำลังมี กำลังปรากฏ ตามความเป็นจริง ไม่ใช่ให้มีชื่อ หรือ มีพยัญชนะมาเป็นเครื่องกั้น ขอเพียงเข้าใจในคำนั้นๆ ให้ชัดเจน ไม่สับสน และที่สำคัญ ไม่ขาดการฟังพระธรรมในชีวิตประจำวัน จะฟังมาก ฟังน้อย ก็ย่อมจะเป็นประโยชน์ทั้งนั้น เพราะประโยชน์อยู่ที่ความเข้าใจถูกเห็นถูก เมื่อได้เหตุได้ปัจจัย ปัญญาเจริญขึ้น มั่นคงในความเป็นจริงของธรรมเพิ่มขึ้นก็ย่อมจะเป็นเหตุ ให้สติเกิดขึ้นระลึกรู้สภาพธรรมที่มีจริง ในขณะนั้นได้ ซึ่งสภาพธรรมที่กําลังมี กำลังปรากฏในขณะนั้น ก็ไม่พ้นไปจากความเป็นอายตนะ แต่ละอายตนะ ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 19 พ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่ว่าจะทรงแสดงโดยนัยของขันธ์ก็ดี ธาตุ ก็ดี อายตนะ ก็ดี ล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลต่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏตามความเป็นจริง ว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงที่ว่าพระธรรม เป็นวาจาสัจจะ เป็นคำที่อนุเคราะห์เกื้อกูลอย่างแท้จริง และจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีโอกาสได้ฟังได้ศึกษาเท่านั้นจริงๆ

อายตนะ เป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ เป็นสภาพธรรมที่ประชุมกันในขณะที่จิตเกิดขึ้นรู้อารมณ์ทีละขณะ แม้ว่าจะทรงแสดงอายตนะมี ๑๒ ก็ไม่ใช่ให้ไปติดที่จำนวน แต่ทั้งหมดเป็นสภาพธรรมที่มีจริงแต่ละหนึ่งๆ โดยไม่ปะปนกันเลย ยกตัวอย่าง ขณะที่ได้ยิน มีสภาพธรรมอะไรบ้างในขณะนั้น? มีได้ยิน มีเสียงซึ่งเป็นอารมณ์ของจิตได้ยิน มีเจตสิกธรรมที่เกิดร่วมกับจิตได้ยิน พร้อมทั้งมีที่เกิดของจิตได้ยิน นั่นก็คือ ต้องมีโสตปสาทะ (หู) เป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ แต่ละหนึ่งๆ ซึ่งเมื่อได้ฟังได้ศึกษาก็ยิ่งจะเพิ่มพูน ความมั่นคงในความเป็นจริงของสภาพธรรม ไม่มีเราแทรกอยู่ในสภาพธรรมเหล่านั้นเลย หาความเป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นตัวตน ไม่ได้ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 19 พ.ย. 2556

อายตนะ คือ สภาพธรรมที่ประชุม เป็นสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
orawan.c
วันที่ 24 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ประสาน
วันที่ 20 มี.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
peem
วันที่ 6 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 30 พ.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Selaruck
วันที่ 17 ธ.ค. 2564

ขอบคุณและอนุโมทนายิ่งค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ