กลัวกำลังของกิเลส2

 
papon
วันที่  23 พ.ย. 2556
หมายเลข  24063
อ่าน  834

เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน

จากที่อาจารย์ทั้งสองได้ให้ความเห็นใน"กลัวกำลังของกิเลส"กระผมพอจะเข้าใจครับแต่อกุศลที่สะสมมาก ทุกวันจะสามารถระงับได้ด้วยปัญญาเท่านั้นและปัญญาจะเกิดได้ด้วยการฟังพระธรรมและเข้าใจพระธรรมแต่ว่าการอบรมในเบื้องต้นคือการอบรมเจริญเมตตาพร้อมกันไปใช่ไหมครับ ขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 23 พ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เป็นดี และฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ครับ แม้ว่าจะอกุศลจะมาก เพราะสะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสังสารวัฏฏ์ แต่ก็สามารถค่อยๆ ขัดเกลาละคลายได้ เมื่อมีความเข้าใจถูกเห็นถูก จากการที่ได้ฟังได้ศึกษาพระธรรมเมื่อมีความเข้าใจเจริญขึ้น ก็จะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลให้คุณความดีต่างๆ เจริญขึ้นด้วย "สภาพธรรมที่ดีงาม ย่อมคล้อยไปตามความเข้าใจพระธรรม" รวมถึงการที่มีเมตตาต่อผู้อื่น ซึ่งเป็นสภาพจิตที่ดีงาม มีความเป็นมิตร มีความเป็นเพื่อนกับผู้อื่น เป็นธรรมที่ควรอบรมเจริญในชีวิตประจำวัน ด้วย และไม่ใช่เพียงแค่เมตตาเท่านั้น แต่ต้องหมายรวมถึงคุณความดีทุำกอย่าง เป็นสิ่งที่ควรสะสมในชีวิตประจำวันเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้ากุศลไม่เกิด ก็ต้องเป็นโอกาสแห่งการเกิดขึ้นของอกุศล ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 23 พ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อาศัยการฟัง การศึกษาพระธรรม ปัญญาก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น เมื่อปัญญาเจริญขึ้น กุศลธรรมประการต่างๆ ก็เจริญขึ้นตามไปด้วย รวมทั้งความเมตตา ความกรุณา และความดีประการต่างๆ เพราะ อาศัยความเห็นถูก ทำให้เกิดความคิดที่ถูก วาจาก็ถูกการกระทำทางกายก็ถูกต้องตามไปด้วย เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องมีตัวตนที่จะอบรมคุณธรรมอะไรก่อน แต่อาศัยการฟัง การศึกษาพระธรรม ก็จะเป้นเหตุปัจจัยให้ปัญญาเจริญ และเกิดคุณงามความดีประการต่างๆ อันเกิดจากความเห็นถูกเป็นสำคัญ ครับ ซึ่งกิเลสจะมีมากเท่าใด ก็สามารถค่อยๆ ละ ขัดเกลากิเลสได้ ทีละน้อยด้วยปัญญาที่ค่อยๆ เจริญขึ้น ซึ่งหน้าที่ที่สำคัญที่สุด จึงไม่พ้นจากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมเป็นสำคัญ ครับ

ขออนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ