ความไม่เข้าใจเรื่องสมถภาวนา

 
kajeerat
วันที่  27 พ.ย. 2556
หมายเลข  24095
อ่าน  941

ฟังพระธรรมท่านอาจารย์สม่ำเสมอทุกวันมิได้ขาด วันหนึ่งน้อยที่สุด ๔-๕ ช.ม. ชีวิตเปลี่ยนแปลงหมด มุ่งศึกษาพระธรรมเพราะเข้าวัยชราแล้วค่ะ ปรากฏความเข้าใจเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ทุกอย่างเป็นธรรมะ สามารถพักผ่อนในสมถภาวนาได้หรือไม่ค่ะ

ขอความเมตตาจากท่านอาจารย์ทุกท่านด้วยค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 27 พ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ต้องตั้งต้นที่การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจริงๆ จุดประสงค์ของการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริงของธรรม ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น ได้ยินได้ฟังคำอะไร ก็จะต้องเข้าใจให้ถูกต้องจริง แม้แต่คำว่า สมถภาวนา ก็ต้องเข้าใจก่อนว่าคือ อะไร

ขอกล่าวเป็นลำดับไป ดังต่อไปนี้ คำว่า ภาวนา หมายถึง การอบรม การยังกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น ซึ่งจะต้องมีปัญญาจึงจะอบรมได้ไม่ใช่เป็นการไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ ไม่ใช่การท่องบ่น แต่เป็นการอบรมเจริญกุศลให้มีมากยิ่งขึ้น จากที่กุศลไม่มี ก็ค่อยๆ มีกุศลขึ้น จากที่ปัญญาไม่มี ก็ค่อยๆ อบรมเจริญให้มีขึ้น

ภาวนามี ๒ อย่าง คือ สมถภาวนา (การอบรมความสงบของจิต เป็นการอบรมกุศลให้มั่นคงแนบแน่นเป็นสมาธิ) และ วิปัสสนาภาวนา (การอบรมเจริญปัญญาเพื่อรู้แจ้งธรรมตามความเป็นจริง) เมื่อกล่าวสมถภาวนา ก็ต้องเป็นทางฝ่ายกุศล ไม่ใช่อกุศล และแน่นอนว่าจะต้องเกิดร่วมกับปัญญาจึงจะสามารถเห็นโทษของอกุศลประการต่างๆ ได้ในชีวิตประจำวัน และสมถภาวนาเมื่ออบรมเจริญอย่างถูกต้อง ก็เป็นเครื่องอยู่ผาสุก สงบระงับกิเลสที่กลุ้มรุมจิต [ภาวนาทั้งสอง จะขาดปัญญาไม่ได้เลย] ส่วนวิปัสสนาภาวนา เป็นการอบรมเจริญปัญญา เป็นไป น้อมไปเพื่อการเห็นธรรมตามความเป็นจริง

วิปัสสนาภาวนาผลสูงสุด ทำให้ผู้อบรมสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ จนกระทั่งถึงบรรลุเป็นพระอรหันต์ดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด แต่สมถภาวนา ผลคือระงับกิเลส (ไม่ใช่ดับกิเลสอย่างเด็ดขาด) และเป็นเหตุให้เกิดเป็นพรหมบุคคลในพรหมโลก ตามระดับขั้นของฌานที่ได้ ซึ่งยังเป็นไปในวัฏฏะ ยังไม่พ้นจากกองแห่งทุกข์ทั้งปวง

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นจริงโดยตลอดอุปการะเกื้อกูลให้ได้เข้าใจถูกเห็นถูก ตามความเป็นจริง ผู้ที่ไม่ขาดการฟังเห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็ย่อมได้รับประโยชน์จากพระธรรมตามกำลังปัญญาของแต่ละคน ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 27 พ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การพักผ่อนที่ดีที่สุด คือ ไม่มีกิเลสเกิดขึ้นในจิตใจ ในขณะนั้น เพราะ กิเลสเป็นสภาพธรรมที่วุ่นวาย ร้อนรน จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ท่านเปรียบกิเลสเหมือนดั่งไฟไฟ ๑๑ กอง ไฟ ๓ กอง เป็นต้น มีไฟ ราคะ โทสะ และ โมหะ ซึ่ง เมื่อใดที่เป็นอกุศล จิตไม่พักผ่อน แต่ซัดส่ายไปกับกิเลสแล้ว เพราะ ฟุ้งซ่านเป็นไปกับกิเลสแต่ เมื่อใด จิตเป็นกุศล เมื่อนั้น จิตสงบจากกิเลส ขณะนั้น พักผ่อนจิตพักผ่อนใจที่จะไม่เป็นไปกับอกุศลที่สภาพธรรมที่วุ่นวาย ซัดส่ายไปไม่รู้จบ

เพราะฉะนั้น ขณะใดที่อ่านพระธรรม ฟังพระธรรม และ เกิดความเข้าใจพระธรรม จิตขณะนั้นเป็นกุศลแล้ว พักผ่อนแล้วในขณะนั้น โดยไม่ต้องไปหาวิธี พยายาม จากสิ่งอื่นเลย เพราะฉะนั้น ในความละเอียด เมื่อใดที่อยากจะทำ เมื่อไหร่ที่ต้องการและ เมื่อไหร่ที่จะเลือก หาสิ่งหนึ่งสิ่งใด ที่คิดว่าจะเป็นการพักผ่อน มีการเจริญสมถภาวนา เป็นต้น ขณะนั้น ที่คิดจะเลือก เป็นโลภะ ความต้องการ ติดข้องอย่างละเอียดโดยไม่รู้ตัว ซึ่ง ขณะที่เป็นโลภะ เป็นอกุศล ไม่ได้พักผ่อนแล้วในขณะนั้นเพราะ เป็นอกุศลจิตที่เกิดขึ้นในจิตใจ

เพราะฉะนั้น แทนที่จะทำ จะหาวิธี จะเลือกสภาพธรรม ก็อาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม จะเป็นประโยชน์ เพราะ ขณะที่เข้าใจก็พักผ่อนจิตในขณะนั้นแล้ว และ ปัญญาที่เจริญขึ้นจากการฟังพระธรรมปัญญาทีเกิด ย่อมจะนำพาให้กุศลประการอื่นๆ เจริญขึ้นตามไปด้วย เพราะเมื่อมีความเห็นถูก ก็ย่อมจะทำให้คิดถูก คิดก็ด้วยเมตตา ความหวังดี และก็คิดที่จะระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณได้ถูกต้อง เพราะ การจะระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย ที่เป็นสมถภาวนา ที่เป็นพุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติก็ต้องเกิดจากความเข้าใจพระธรรมเป็นสำคัญ เพราะฉะนั้นเมื่อฟังพระธรรมเข้าใจก็ย่อมทำให้เกิดการระลึกถึงพระคุณของพระรัตนตรัยตามควาเมป็นจริง ก็เป็นการเจริญสมถภาวนาในชีวิตประจำวันแล้ว โดยไม่ต้องไปหาวิธีทำสมถภาวนาเลยเพราะในความเป็นจริง สมถภาวนา จะเกิดไม่ได้เลย หากปราศจากปัญญา

เพราะฉะนั้น เมื่อฟังพระธรรมเข้าใจก็เกิดสมถภาวนาในชีวิตประจำวัน กุศลอื่นๆ เจริญขึ้น เช่น เมตตาพรหมวิหาร กรุณา มุทิตา อุเบกขาได้ในชีวิตประจำวัน เพราะเกิดปัญญาความเห็นถูกในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องไปทำ แสวงหาวิธี เพราะ วิธีที่ถูกต้องคือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
thilda
วันที่ 27 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nopwong
วันที่ 27 พ.ย. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เข้าใจ
วันที่ 28 พ.ย. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
kajeerat
วันที่ 28 พ.ย. 2556

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ทุกท่านในความกระจ่าง

สาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 7 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ