รูปารมณ์กับไฟที่ปลายก้านธูปที่แกว่งมีความสัมพันธ์กันอย่างไรครับ
เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน
รูปารมณ์กับไฟที่ปลายก้านธูปที่แกว่งมีความสัมพันธ์กันอย่างไรครับ และมีนัยกับใบพัดของพัดลมอย่างไร
ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับและขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
รูปารมณ์ คือ สภาพธรรมที่เป็น สี ที่เป็นรูปธรรม ซึ่งรูปธรรมเป็นสังขารธรรมมีเหตุปัจจัยปรุงแต่ง จึงเกิดขึ้นและดับไปอย่างรวดเร็ว ที่มีอายุเท่ากับจิตเกิดดับ 17 ขณะ
การแกว่งก้านธูป
เมื่อจุดธูป เห็นไฟจุดเดียวใช่ไหม ลองแกว่งธูป เป็นไงครับ เห็นเป็นวงกลมขึ้นมาแล้วทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วก็เป็นเพียงไฟจุดเดียวเท่านั้น แต่เพราะการสืบต่อของการหมุนก้านธูป จึงทำให้หลงเข้าใจผิดว่ามี วงกลม ฉันใด แม้สภาพธรรมที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เช่น ขณะที่เห็น ก็เกิดขึ้นและดับไป แต่เพราะความเกิดดับของสภาพธรรมคือ เห็น เกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็ว ก็ทำให้เห็นว่า เห็นขณะนี้ ไม่ดับไปเลย ยังเห็นว่าเที่ยงอยู่เสมอ เพราะความเกิดขึ้นและดับไปของธรรมอย่างรวดเร็ว สืบต่อกัน ดังเช่น การแกว่งธูปนั่นเอง เพราะฉะนั้นการเกิดดับของ สี ที่เป็นรูปารมณ์ ที่เกิดดับ บ่อยๆ และมีการเห็นเกิดขึ้นบ่อยๆ ใน สีน้ันก็ทำให้ เห็นว่าเป็นสัตว์ บุคคล เป็นสิ่งต่างๆ และยึดถือว่าเป็นเรา เป็นสัตว์ บุคคล เพราะฉะนั้น รูปารมณ์ หรือ สี จึงมีความสัมพันธ์ กับการแกว่งก้านธูปคือ แสดงถึงการเกิดดับอย่างรวดเร็ว ที่เป็นการอุปมาเหมือนการแกว่งก้านธูป และทำให้ยึดถือว่าเป็นวงกลม หรือยึดถือว่ามีเรา มีสัตว์ บุคคล ครับ
ส่วน พัดลมก็โดยนัยเดียวกัน ในลักษณะของการเกิดดับของสภาพธรรม ก่อนที่ใบพัดลมหมุนนั้น ก็ปรากฎมี 3 ใบ แต่ เมื่อหมุนอย่างรวดเร็วก็ปรากฎ เหมือนใบเดียวหยุดนิ่ง การเกิดดับของสภาพธรรมในชีวิตประจำวันก็เช่นกันเพียงแต่การเกิดดับของรูป ที่เกิดดับอย่างรวดเร็ว แต่เพราะ เกิดดับรวดเร็ว ก็ปรกาฎเป็นคน เป็นสัตว์ได้แท้ที่จริงก็เป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดดับแต่ละขณะเท่านั้นเอง ซึ่ง การเกิดดับของรูปธรรม ที่เป็นสี อย่างรวดเร็ว ก็เหมือนกับ ใบพัดลม 3 ใบ ที่หมุนเร็วและเห็นเป็นใบเดียว แท้ที่จริงก็มี 3 ใบ เช่นเดียวกับ สี ที่เกิดดับรวดเร็วทีละขณะเป็นเพียงสีเท่านั้น แต่เพราะเกิดดับอย่างรวดเร็ว จึงเห็น และ ยึดถือว่าเป็นสิ่งใด สิ่งหนึ่ง ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นข้ออุปมาให้เห็นถึงความเกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็วของสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย จึงทำให้มีการหลงผิดว่าเที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่ดับไป ซึ่งเป็นความเห็นที่ผิดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงของสภาพธรรม ประการที่สำคัญ ธรรม ละเอียดลึกซึ้งอย่างอย่างยิ่ง แม้จะมีจริงอยู่ทุกขณะ ก็ยากที่จะเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง จนกระทั่งเห็นถึงการเกิดขึ้้นและดับไปของสภาพธรรม ได้
ตามความเป็นจริงแล้วทุกขณะ ไม่พ้นไปจากธรรมเลย มีแต่ธรรมเท่านั้นที่เกิดขึ้นเป็นไป เพราะการเกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็วของสภาพธรรม จึงทำให้หลงผิดยึดถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เที่ยงเพราะฉะนั้น หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญาที่เข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงๆ ในขณะนี้จะเป็นไปเพื่อการละคลายการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคล หรือเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ได้ และข้ออุปมาทั้งสองอย่างนั้น ถ้าจะกล่าวโดยนัยของธรรม ก็ต้องมีเห็น และมีสิ่งที่ถูกเห็นอย่างแน่นอน ไม่ได้ปราศจากเห็น และ รูปารมณ์เลย ซึ่งทั้งหมดนั้นก็เกิดดับอย่างรวดเร็ว ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ