ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ซาบซึ้งในหทัย [7]

 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่  8 ธ.ค. 2556
หมายเลข  24150
อ่าน  1,521

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ท่ามกลางความเห็นต่าง ความแตกแยก ของบุคคล ในเวลานี้

หลายคน อาจมีความสงสัยว่า พระธรรม จะช่วยให้รอดพ้นจากภัยนี้ ได้อย่างไร?

แม้ในช่วงเช้าของวันนี้ ท่านอาจารย์ ก็ไม่เคยละเลย ที่จะมีเมตตา เกื้อกูลความเข้าใจ

ความเข้าใจ อันจะเป็นที่พึ่ง หนึ่งเดียว เท่านั้น ในทุกสถานการณ์

ความเข้าใจ อันจะเป็นที่พึ่ง ของทุกบุคคล ที่ เข้าใจธรรม ตามควรแก่การสะสมของตน

ตามบุญ ที่บุคคล ได้เคยกระทำไว้แล้ว และ กระทำต่อๆ ไป ตามเหตุ ตามปัจจัย

เป็นความซาบซึ้งใจของข้าพเจ้า ในความเกื้อกูลของท่านอาจารย์ ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก

ทั้งๆ ที่รู้ว่า พระธรรมนั้น ละเอียด ลึกซึ้ง เข้าใจยาก อย่างยิ่ง

แม้ว่าจะได้เงี่ยโสตลงสดับซ้ำๆ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า แล้วๆ เล่า

และ มีความเข้าใจที่เกิดขึ้น ในแต่ละครั้งที่ได้ฟัง เพียงเล็กน้อย นิดหน่อย ก็ตาม

แต่ หากบุคคล ไรัซึ่ง แม้ความเข้าใจเพียงเล็กน้อย ดังว่านั้น

ย่อมจะเป็นผู้ที่ ไม่มีที่พึ่งเลย กับความประพฤติ ที่เป็นไปในทุกๆ ขณะ ในแต่ละวัน

อย่างไรก็ดี ขออนุโมทนาท่านสหายธรรม ทุกท่าน ที่ได้พบพระธรรมแล้วในชาตินี้

สังสารวัฏฏ์ ยาวนานนัก ความละเอียด นอบน้อม และ ความเข้าใจธรรมเท่านั้น

จะเป็นที่พึ่งอันปลอดภัย ในทุกๆ ที่ ในทุกๆ สถานการณ์

ที่ปรากฏแล้ว เฉพาะหน้า ของบุคคล ในขณะนั้น

ขอเชิญทุกท่าน รับประโยชน์จากพระธรรม เพื่อเป็นที่พึ่งเดียว อันประเสริฐยิ่ง ทั่วกันครับ

ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น อยู่ที่ ความเห็นถูก นะคะ ไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ

ถ้าประมาทปัญญา ก็คือ ไม่พยายามเข้าไปเกี่ยวข้อง

คิดว่า ไม่ใช่เรื่อง หรือว่า ไม่ใช่ธุระ หรือ อะไรต่างๆ

เดี๋ยวจะเป็นอกุศลประเภทนั้น ประเภทนี้

นั่นคือ ผู้ที่ไม่รู้จักธรรมะ

ถ้ารู้จักธรรมะจริงๆ ใครบังคับบัญชาได้?

แต่ละคน สะสมมาต่างๆ กัน

คงจะไม่มีใคร ไปนั่งเย็บปักถักร้อย อยู่ในห้องสบายๆ

ถ้าไม่สะสมอัธยาศัยมา ที่จะเป็นอย่างนั้น ก็ไปที่อื่น ตามอัธยาศัย

เพราะฉะนั้น ธรรมะ ก็คือ สิ่งที่ไม่ใช่ของใคร และ ไม่ใช่เรา ด้วย

แต่ "เกิดแล้ว" ทุกขณะ

"ไม่รู้" ว่าเป็นธรรมะ

แล้วก็ ไปหาธรรมะ ไปกลัวเกรงธรรมะ ประเภทที่เป็นกุศล

โดยไม่รู้

เพราะขณะนั้น คือ "เรา" ที่กำลังกลัวเหลือเกิน ต่อ อกุศลต่างๆ

แล้วอย่างนั้น จะรู้การสะสมในสังสารวัฏฏ์ แสนโกฏิกัปป์ ที่สะสมมา

จากการ เกิดแล้ว เกิดอีก เป็นบุคคลนั้น บุคคลนี้

แต่ละชาติ ก็มีเหตุการณ์ ที่ไม่ซ้ำกันเลย

วิสาขามิคารมารดา ก็เคยเป็นภรรยาท่านพระอานนท์

อะไรล่ะคะ? ชีวิต ในสังสารวัฏฏ์

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เคยเป็นบุตรของ ท่านพระเทวทัต

เพราะฉะนั้น ถ้าศึกษาจริงๆ ก็จะรู้ว่า

ไม่มีอะไร นอกจาก "ธาตุ" หรือ "ธรรมะ"

ซึ่งมีปัจจัยเกิดขึ้น แล้วก็ดับไป แล้วก็ไม่กลับมาอีก

เพราะฉะนั้น คำนี้ "ทนต่อการพิสูจน์" และ "เข้าใจ"

ในขณะที่ "กำลังกลัว" เป็นธรรมะ หรือเปล่า?

เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่า ขณะนั้น ไม่ได้รู้จักธรรมะเลย

มีการที่พยายาม ที่จะไม่ทำอย่างนี้ แต่ ทำอย่างอื่น เป็นธรรมะ หรือเปล่า?

เป็น ก็ไม่รู้

เพราะฉะนั้น ก็ไม่รู้ ไปเรื่อยๆ

และ คิดว่า ตัวเอง ระแวด ระวัง กุศลทั้งหลาย

แต่ลืม กุศล ที่สำคัญที่สุด คือ อวิชชา การไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรมะ ที่ปรากฏ

ทำให้ "รักตัว" มาก

ลืมสนิท ว่าเป็นธรรมะ

เพราะฉะนั้น ก็ ทำทุกอย่าง "เพื่อตัว"

จะเป็นความดี ทำเท่าไหร่ ก็เพื่อตัว

แล้ว ดีจริงๆ หรือเปล่า? ตราบใดที่ "ยังเป็นเรา" ซึ่งไม่ใช่ เป็นธรรมะ

เพราะฉะนั้น "ปัญญา" ไม่ต้องมีใครไปหวั่นเกรงเลย ว่าจะรู้อะไรไม่ได้

แต่เมื่อเป็นปัญญา ที่อบรมแล้ว

ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ในสถานการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น

"ปัญญา" ที่ได้อบรมแล้ว เท่านั้น

ที่สามารถจะเข้าใจ ลักษณะ ของสภาพธรรมะ ที่กำลังปรากฏ เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

ซึ่ง "ไม่มีเรา" ที่จะไปคิด หรือ ไปจำไว้ว่า "เราทำ"

แต่ความจริงก็คือว่า เป็นธรรมะ ทั้งหมด

เพราะฉะนั้น กว่าจะ แม้คำว่า ทุกอย่าง เป็นธรรมะ เป็นธรรมะ ทั้งหมด

จะได้เข้าใจ จริงๆ อย่างมั่นคง

ก็ต้องเป็น ผู้ที่ฟังพระธรรม

แล้ว เลิกความเป็นตัวตน ที่จะทำอย่างนั้น อย่างนี้

เพราะกลัวว่า ถ้าไม่ทำอย่างนั้น อย่างนี้ แล้วปัญญา จะเกิดไม่ได้

นั่นคือ กด หรือว่า ปิด หรือว่า กั้น หรือว่า บังคับ "ปัญญา" ไม่ให้เจริญเลย

แต่ถ้า ตรงกันข้าม มีปัจจัย ที่ค่อยๆ มั่นคงขึ้น

จะรู้เลยว่า

"ปัญญา" ทั้งนั้น ที่ทำหน้าที่

แม้ขณะนั้น ไม่ได้คิดเลย ว่าอยากจะให้ปัญญาเกิด

"ควรจะรู้สิ ว่านี่เป็นธรรมะ"

ขณะที่ "ควรจะรู้สิ ว่านี่เป็นธรรมะ" ก็เป็น "ตัวตน"

แต่พอไม่คิด

มีปัญญา ที่ได้สะสมมา เพียงพอ

ขณะนั้น สัมมาทิฏฐิเกิด ทันที รู้ความเป็นธรรมะ ทันที

เพราะฉะนั้น อีกนานไหม?

กว่าจะหมดเยื่อใย การยึดถือสภาพธรรมะ ว่าเป็นเรา?

เพราะตั้งแต่อย่างหยาบ จนกระทั่ง เยื่อใยในการที่

"เราจะเป็นคนดี" แต่ก็ "เป็นเรา"

เพราะฉะนั้น "อวิชชา" ดีไหม? คะ?

อาจารย์วิชัย เป็นธรรมะไม่ดีครับ แต่ก็ยังมีอยู่ครับ ท่านอาจารย์

ท่านอาจารย์ ค่ะ เพราะฉะนั้น เห็นโทษของ อวิชชา

เพราะไม่รู้ ทั้งหมดนี่ล่ะค่ะ

ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ซาบซึ้งในหทัย

.........

กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 8 ธ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่วันชัย ภู่งาม เป็นอย่างยิ่ง

และ ขออนุโมทนาในกุศลของทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ธนัตถ์กานต์
วันที่ 9 ธ.ค. 2556

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
j.jim
วันที่ 9 ธ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 9 ธ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เพราะฉะนั้น "ปัญญา" ไม่ต้องมีใครไปหวั่นเกรงเลย ว่าจะรู้อะไรไม่ได้

แต่เมื่อเป็นปัญญา ที่อบรมแล้ว

ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ในสถานการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น

"ปัญญา" ที่ได้อบรมแล้ว เท่านั้น

ที่สามารถจะเข้าใจ ลักษณะ ของสภาพธรรมะ ที่กำลังปรากฏ เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

ซึ่ง "ไม่มีเรา" ที่จะไปคิด หรือ ไปจำไว้ว่า "เราทำ"

แต่ความจริงก็คือว่า เป็นธรรมะ ทั้งหมด

-----------------------------------

กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่วันชัย ภู่งาม เป็นอย่างยิ่ง

และ ขออนุโมทนาในกุศลของทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เข้าใจ
วันที่ 9 ธ.ค. 2556

ขอกราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
raynu.p
วันที่ 10 ธ.ค. 2556

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 10 ธ.ค. 2556

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
kinder
วันที่ 10 ธ.ค. 2556
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
prumvuthyv
วันที่ 11 ธ.ค. 2556

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ปวีร์
วันที่ 11 ธ.ค. 2556

กราบเท้าท่านอาจารย์ที่เคารพยิ่ง

และอนุโมทนาอย่างยิ่งครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 12 ธ.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ch.
วันที่ 14 ธ.ค. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ