เป็นอนันตริยกรรมหรือไม่

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อนันตริยกรรม คือ การกระทำที่ให้ผลในภพไม่มีระหว่าง หมายถึง ครุกรรมในฝ่ายอกุศลซึ่งจะให้ผลเป็นชนกกรรม นำปฏิสนธิในอบายภูมิ หลังจากสิ้นชีวิตจากชาตินี้แล้วแน่นอน ไม่ว่าจะเจริญกุศลที่มีอานิสงส์มากอย่างไร ก็ไม่สามารถลบล้างการให้ผลของอนันตริยกรรมได้

อนันตริยกรรม มี ๕ อย่าง คือ ...

๑. ฆ่ามารดา

๒. ฆ่าบิดา

๓. ฆ่าพระอรหันต์

๔. ทำโลหิตของพระพุทธเจ้าให้ห้อ

๕. ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน

ซึ่งสำหรับในกรณี ฆ่าบิดา มารดา เป็นอนันตรยกรรม จาก ตัวอย่างที่ผู้ถามยกมานั้นที่ บุตร ทำให้ บิดา มารดา ตรอมใจตาย ก็ต้องพิจารณาสำคัญที่สุด คือ ลูก หรือ บุตร มีเจตนาฆ่าหรือไม่ หากมีเจตนาฆ่า และ พูด ด่า ว่า ด้วยรู้ว่า ถ้าพูดแล้ว มารดา บิดา จะต้องคิดมาก และ ตายไปในที่สุด ดังนั้น เมื่อมีกากรระทำทางกาย วาจา ด้วยเจตนาฆ่า หวังให้บิดา มารดา ตรอมใจตาย และ เมื่อกระทำทางกาย วาจา มีการพูด เป็นต้น และ มารดา บิดา ตาย ก็ชื่อว่าเป็นอนันตริยกรรมได้ เพราะ มีเจตนาฆ่าแล้ว และได้กระทำทางกาย วาจาให้บิดา มารดาได้ตาย ยกตัวอย่าง ในเรื่องของคำพูด ที่บางคนพูด บางอย่างด้วยเจตนาที่จะฆ่าบุคคลอื่น เช่น รู้ว่าคนนี้เป็นโรคหัวใจ ก็พูด ทำร้ายจิตใจ เพื่อให้เขาตาย เมื่อบุคคลนั้นตาย เพราะ การกระทำทางกาย วาจาที่มีเจตนา ด่า ว่าเพื่อฆ่าเขาให้หัวใจวาย เป็นต้น เมื่อบุคคลนั้นตายก็เป็นปาณาติบาต หากเป็น บิดา มารดา ก็เป็นอนันตริยกรรม ครับ

โดยนัยตรงกันข้าม หากไม่มีเจตนาฆ่า เพียงพูด บ่น หรือ พูดเพียงด่า ว่า บิดา มารดา เป็น วจีทุจริต แต่ ทำให้ บิดา มารดา ตรอมใจตาย กรรมนั้นไม่ถึงอนันตริยกรรม เพราะบุตร ไม่ได้มีเจตนาฆ่า แต่ มีเจตนาด่า ว่า เป็นวาจาหยาบ ที่เป็นผรุสวาจา แต่แม้ไม่เป็นอนันตรยกรรม แต่ กรรม ก็เป็นอกุศลกรรมที่เป็น ผรุสวาจา ก็ชื่อว่ามีโทษมากเช่นกัน แต่ถ้าไม่มีเจตนาว่าร้าย แต่ พูดไป ให้บิดา มารดา เข้าใจในเรื่องต่างๆ แต่ บิดา มารดา คิดมาก กลุ้มใจเอง และ ถึงแก่ความตาย อย่างนี้ไม่บาปอะไร เพราะบุตรไมได้มีเจตนาร้ายอะไรเลย แต่ บิดา มารดา ก็สิ้นชีวิตตามกรรมของ บิดา มารดาเองครับ เพราะฉะนั้น บาป ไม่บาป สำคัญที่เจตนาเป็นสำคัญ

ขออนุโมทนา ครับ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

บาป ไม่มีแก่ผู้ไม่ทำ ถ้าไม่มีเจตนาที่จะฆ่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ตาม ก็ไม่บาป สำหรับ ประเด็นเรื่องที่ปรากฏในคำถามนั้น เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ถ้าไม่มีเจตนาฆ่า ย่อมไม่เป็นบาป ไม่เป็นอนันตริยกรรม แต่ถ้ามีเจตนาฆ่า มุ่งที่จะให้มารดาบิดา ตาย ตามความประสงค์มุ่งหมายของตนเองแล้ว เป็นอนันตริยกรรม

สิ่งที่ควรจะได้พิจารณาเป็นอย่างยิ่ง คือ พระคุณของมารดาบิดา ที่ท่านได้กระทำต่อบุตรนั้น มีมากมายมหาศาล ยากที่จะพรรณนาให้หมดสิ้นได้ ท่านเป็นผู้ที่เอาใจใส่เลี้ยงดูบุตรให้เจริญเติบโตอย่างปลอดภัย โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ท่านเป็นผู้พร่ำสอนให้บุตรออกจากความชั่วแล้วให้ตั้งอยู่ในความดี สอนให้รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ พร้อมทั้งให้ศึกษาศิลปวิทยา เพื่อให้บุตรมีความรู้ติดตัวอันจะเป็นบ่อเกิดแห่งการงานประการต่างๆ ซึ่งจะทำให้ชีวิตของบุตรดำเนินไปด้วยความไม่เดือดร้อนในภายภาคหน้า เป็นต้น เมื่อมารดาบิดาเป็นผู้ที่มีพระคุณต่อบุตร มากมายมหาศาลอย่างนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่บุตรจะต้องมีความกตัญญูกตเวที คือ รู้ถึงพระคุณที่มารดาบิดากระทำแก่ตนแล้วกระทำตอบแทนท่าน ถ้าหากว่าบุตรคนใดไม่รู้คุณ อีกทั้งไม่ทำการตอบแทนพระคุณของมารดาบิดา บุตรนั้นย่อมได้ชื่อว่า เป็นบุตรอกตัญญู เป็นคนไม่ดี

เพราะฉะนั้นแล้ว ในฐานะที่เป็นบุตรธิดา ก็ควรที่จะได้ทำหน้าที่ของบุตรธิดาให้ดีที่่สุด ตั้งใจเป็นคนดี ดูแลท่านอย่างดีที่สุด ไม่กระทำในเรื่องใดๆ ที่จะเป็นเหตุให้ทั้งตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน และประการที่สำคัญ เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ไม่ว่าจะในกรณีใดๆ ก็ตาม การสนทนาพูดคุยปรับความเข้าใจกันด้วยความอดทน ก็ย่อมเป็นสิ่งที่ควรที่จะได้กระทำ และที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เกื้อกูลสำหรับทุกชีวิต นั่นก็คือ การฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ถ้ามีเจตนาฆ่า พูดให้ บิดา มารดาตาย เป็นอนันตริยกรรม ค่ะ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขออนุโมทนาครับ