จริงๆ คุณว่าคุณรู้จักตัวเองดีพอหรือเปล่าครับ
การรู้จักตัวเอง คือ ในขณะไหน คุณอาจจะบอกว่า คุณเป็นคนมักโกรธเพราะเกิดบ่อย แต่คุณลืมไปว่า คุณคิดนึกถึงสภาพธัมมะ (ความโกรธ) ที่ดับไปแล้ว และที่สำคัญขณะที่คิดนึก ก็ไม่ใช่ขณะที่รู้ลักษณะของความโกรธจริงๆ ในขณะนั้น และขณะที่ไม่โกรธอย่างตอนอ่านกระทู้อยู่ คุณรู้จักตัวเองไหมครับ ว่าขณะนี้สภาพธัมมะใดเกิดกับคุณบ่อยๆ ในขณะนี้
โลภะ ก็เกิดบ่อย แต่เราไม่รู้เลย เพราะบางขณะแถมเกิดร่วมกับความรู้สึกเฉยๆ ด้วย ยิ่งไม่รู้เข้าไปใหญ่
ดังนั้น การรู้จักตัวเองที่แท้จริงไม่ใช่การคิดนึกถึงสภาพธัมมะที่ดับไปแล้ว แต่การรู้จักตัวเอง หรือการรู้จักกิเลสของเรานั้น ต้องเป็นสติที่ระลึกตรงลักษณะสภาพธัมมะ ที่กำลังเกิดขึ้นนะครับ จึงจะเป็นผู้รู้จักตัวเองอย่างแท้จริง
ไม่อยากรู้จักตัวเองค่ะ แต่อยากรู้จักธรรม เพราะถ้ายังมีความเป็นเรา ก็ยังไม่เข้าถึงธรรม
ขณะที่อยาก ขณะนั้นเป็นเรา ขณะที่ระลึกสภาพธัมมะที่อยากขณะนั้น รู้ว่าไม่ใช่เราเป็น ธัมมะ
ผมก็ไม่อยากรู้จักตัวเองเหมือนกันครับ กลัวเป็นพระอรหันต์ แล้วดูหนัง-ฟังเพลงไม่ได้ มองสาวๆ ก็ไม่ได้เป็นพระอรหันต์ ไม่บวชภายใน 7 วัน ก็ต้องตาย ส่วนถ้าต้องไปบวชก็แย่เลยครับ ต้องสละอาคารบ้านเรือน ต้องสละทรัพย์สินเงินทอง ไม่มีเงินใช้ (เพราะพระภิกษุจับเงิน ยินดีในเงิน ต้องอาบัติปาจิตตีย์)
คุณ สำราญบานตะไท ไม่ต้องห่วงหรอกครับ หนทางที่จะเป็นพระอรหันต์ไม่ใช่ง่ายๆ ชาตินี้ สมัยนี้ก็หมดสิทธิ์ ไม่ใช่กาลของพระอรหันต์ด้วย แต่ยังไงก็ขออนุโมทนาในกุศลจิตที่ติดตามศึกษานะครับ และถ้าจำไม่ผิดผู้ที่ท่านบรรลุธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์ หากท่านไม่บวชในวันนั้น ท่านก็จะปรินิพพานในวันนั้นแหละ (ไม่ใช่ 7 วัน) เนื่องจากเพศผู้ครองเรือนไม่สามารถรองรับคุณธรรมของท่านได้