ขันธ์ 5 ขันธ์น้อยกว่า มากกว่า 5 มีในภูมิใดบ้างเพราะอะไรครับ
ถามว่า ภูมิที่มีขันธ์ 5 มีภูมิใดบ้างครับ ภูมิที่มีขันธ์ น้อยกว่า 5 มีภูมิใด เพราะเหตุอะไรครับ และมีภูมิที่มีขันธ์ มากกว่า 5 มีไหมครับ
ขอบพระคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขันธ์ หมายถึง สภาพธรรมที่มีจริง เป็นสภาพธรรมที่ทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่าจากความเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล เกิดแล้วก็ดับไป ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ขันธ์ มี ๕ ได้แก่ รูปขันธ์ (ได้แก่รูปธรรมทั้งหมด) สัญญาขันธ์ (สัญญาเจตสิก สภาพธรรมที่จำ) เวทนาขันธ์ (เวทนาเจตสิก สภาพธรรมที่รู้สึก) สังขารขันธ์ (เจตสิกธรรม ๕๐ มี ผัสสะ เจตนา เป็นต้น) และ วิญญาณขันธ์ (จิตทุกประเภท) ต่างก็เป็นสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย แล้วก็ดับไปทั้งสิ้น ทุกขณะไม่พ้นไปจากขันธ์ เพราะมีสภาพธรรมเกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอด
สัตว์โลก มีความแตกต่างกัน สัตว์บางพวกเกิดในภูมิที่มีขันธ์ ๕ ครบ ได้แก่ อบายภูมิ ๔ คือ สัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน เปรต อสูรกาย และ มนุษย์ภูมิ เทวดาบนสวรรค์ ๖ ชั้น และรูปพรหมภูมิ ๑๖ เว้น อสัญญสัตตาพรหม สัตว์เหล่านี้ เป็นผู้ที่มีขันธ์ 5 ครับ คือ มีทั้ง รูป เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ คือ มีทั้ง จิต เจตสิกต่างๆ และ มีรู) ด้วย เรียกว่า เป็นผู้ที่ขันธ์ ๕ ครบ บางพวกเกิดในภูมิที่มีขันธ์เดียว (อสัญญสัตตาพรหมภูมิ) เป็น อสัญญสัตตาพรหม คือ มีแต่รูปเท่านั้น ที่เป็นรูปขันธ์ ไม่มีนาม คือ ไม่มี จิต เจตสิก ที่เป็น สัญญาขันธ์ เวทนาขันธ์ สังขารขันธ์ ทีเ่ป็นเจตสิกทั้งหลาย และ วิญญาณขันธ์ คือ จิต ไม่มีนาม คือ จิต เจตสิกเกิดขึ้นเลย จึงเป็นสัตว์ที่มีแต่รูป รูปขันธ์ จึงเรียกว่า สัตว์ผู้มีขันธ์เดียว
บางพวกเกิดในภูมิที่มีขันธ์ ๔ (เฉพาะนามขันธ์) คือ เกิดเป็นอรูปพรหมบุคคล ในอรูปพรหมภูมิ คือ ไม่มีรูปเกิดเลย เช่น ไม่มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ไม่มีรูปร่างกาย มีแต่นาม คือ จิต เจตสกิทีเ่กิดขึ้น คือ มีเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์ ครับ จึงเรียกว่า สัตว์ผู้ที่มีขันธ์ ๔
ส่วนภพภูมิที่มีมากกว่า ขันธ์ ๕ มี ขันธ์ ๖ เป็นต้น ไม่มีครับ สูงสุด แค่ ขันธ์ ๕ เท่านั้น
เมื่อบุคคลได้เกิดในภพภูมิที่ประเสริฐ คือ ภพภูมิมนุษย์แล้ว ที่เป็นภพภูมิ เป็นสัตว์ที่มีขันธ์ ๕ และ ได้มีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม นับเป็นลาภอันประเสริฐ เพราะ เหตุว่า ยังมี ตา หู ที่สามารถอ่าน ฟังพระธรรม มี จิต จิต เจตสิกที่สามารถเกิดปัญญา ความเข้าใจพระธรรม ทีเ่ป็น จิต เจตสิก ก็นับว่า เป็นเรื่องที่ยาก ควรเห็นค่าของการมีชีวิตอยู่ และ ไม่ประมาทในการทำความดี และ ศึกษาพระธรรมต่อไป เพราะ ไม่รู้เลยว่า ภพข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ ณ ตอนนี้ คือ ทำสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ตามกำลังปัญญาของตน ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขันธ์ ไม่พ้นไปจาก ๕ ไม่ว่าจะเป็นภูมิที่มีขันธ์ครบ ๕ ขันธ์ ไม่ว่าจะเป็นภูมิที่มีขันธ์เดียว คือ อสัญญสัตตาพรหมที่มีแต่รูปธรรม หรือในภูมิที่มีขันธ์ ๔ คือ มีเฉพาะนามธรรม (เวทนา สัญญา สังขารขันธ์และวิญญาณขันธ์) ก็คือ ขันธ์ นั่นเอง ซึ่งเป็นธรรมที่มีจริง ที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย เกิดแล้วดับ ไม่กลับมาอีกเลย ทุกขณะไม่พ้นไปจากขันธ์เลย (ขันธ์ คือ สภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไป เมื่อเกิดแล้วก็ดับไปไม่เที่ยง ไม่ยังยืน เป็นสภาพธรรมที่ทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่าจากความเป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นตัวตน) ที่จะเป็นประโยชน์แล้ว ความเข้าใจมาก่อน ชื่อมาทีหลัง เพราะจริงๆ แล้ว ขันธ์ มีจริงๆ และมีจริงในขีวิตประจำวันในขณะนี้ด้วย ซึ่งถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม ก็จะไม่สามารถเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริงได้เลย ไม่ว่าจะยกสภาพธรรมใดขึ้นมากล่าว ก็ไม่พ้นจากขันธ์เลย ไม่ว่าจะเป็นเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสกายคิดนึก กุศล อกุศล เป็นต้น ล้วนมีจริงๆ เกิดแล้วดับไป ทั้งหมด เป็นขันธ์ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...