ชาติจะมั่นคงได้ ด้วยอะไร
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ชาติจะมั่นคงได้ ด้วยอะไร
สัมภาษณ์ : อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ (ประธานมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา) โดย : พันตรีหญิงศิริลักษณ์ มิ่งโมฬี (สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ ๑๗๔)
ชาติ คือ อะไร?
อาจารย์สุจินต์ : ตามความเป็นจริง ชาติ ก็คือ ประชาชน ถ้าไม่มีประชาชน มีชาติได้ไหม ก็ไม่ได้เลย เรามีผืนแผ่นดินสำหรับเป็นที่อยู่ของหมู่ชนซึ่งเกิดร่วมกัน เชื้อสายเดียวกัน ก็เป็นชาติเดียวกัน
ชาติจะมั่นคงได้อย่างไร?
อาจารย์สุจินต์ : ถ้าประชาชนขาดความรู้ความสามารถและคุณธรรม ไม่มั่นคงเลย เพราะจริงๆ แล้ว คนหนึ่งๆ แต่ละหนึ่ง ที่รวมกันเป็นชาติ เพราะฉะนั้น คุณภาพของคนและความสามารถและก็คุณความดีของทุกคน ที่รวมกัน ก็จะทำให้ชาติมั่นคงได้
เป็นคนดี ต้องทำอย่างไร?
อาจารย์สุจินต์ : เราต้องเป็นคนดี แต่การเป็นคนดี ไม่ง่ายเลย ถ้าเราไม่มีหลักธรรม ไม่มีคุณธรรม ไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ตามหลักของความเป็นจริงซึ่งที่เราใช้คำว่า พระพุทธศาสนา ศาสนาหรือคำสอนของผู้ที่ได้ทรงตรัสรู้ พุทธะ คือ ปัญญา แล้วสอนให้คนอื่นมีปัญญาความเห็นที่ถูกต้องด้วยเช่น ชีวิตธรรมดาๆ เกิดมาแล้วต้องตาย ลืมบ้างหรือเปล่าว่าเราจะมีชีวิตอยู่นานสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น ในชีวิตที่บางคนเกิดมา สั้น อาจจะถึงแค่เย็นนี้ก็ได้หรือต่อไปอีกไม่นานก็ได้ ทำอะไรระหว่างนั้น ที่เป็นประโยชน์ หรือว่าที่ช่วยให้สุขสงบทั้งเราและเขา
ข้อคิดดีๆ ที่ส่งถึงประชาชน
อาจารย์สุจินต์ : ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ชาติสงบและอยู่ด้วยกันได้ด้วยความสุข และการที่ชาติจะดำรงสืบต่อมีความเจริญรุ่งเรือง ต้องอาศัยความรู้ความสามารถและก็คุณความดี แต่ว่าจริงๆ แล้ว เราพูดง่ายมาก แต่ใครทำได้ถ้าไม่มีการเข้าใจจริงๆ ในความจริงของชีวิตที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดง เพราะฉะนั้น เราก็จะได้ไม่ลืมว่าเราไม่ได้มีแต่ชาติ แต่เรามีศาสนาเรามีพระมหากษัตริย์
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของพันตรีหญิงศิริลักษณ์ มิ่งโมฬี และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของพันตรีหญิงศิริลักษณ์ มิ่งโมฬีค่ะ
"...การที่ชาติจะดำรงสืบต่อ มีความเจริญรุ่งเรือง ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถแล้วก็คุณความดี แต่ว่าจริงๆ แล้ว เราพูดง่ายมาก แต่ใครทำได้ ถ้าไม่มีการเข้าใจจริงๆ ในความจริงของชีวิตที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ และทรงแสดง เพราะฉะนั้น เราก็จะได้ไม่ลืมว่า เราไม่ได้มีแต่ชาติ แต่เรามีศาสนา เรามีพระมหากษัตริย์..."
กราบท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขอบพระคุณและขออนุโมทนา พันตรีหญิงศิริลักษณ์ มิ่งโมฬี
คุณคำปั่น อักษรวิลัย และ ทุกๆ ท่าน ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เมื่อคืนวันพฤหัส ครอบครัวและกระผมได้ติดตามฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ทางโทรทัศน์ อย่างใจจดใจจ่อและ เมื่อได้มีโอกาสได้ฟัง แม้จะเพียงสั้นๆ แต่ หากพิจารณาอรรถ เนื้อความที่อาจารย์แล้วคำพูดที่พูดแม้สั้นที่ออกมาจากรายการทาง ช่อง 5 แต่ลึกซึ้ง สุขุมยิ่งนัก ขอยกคำบรรยาย เท่าที่ออกอากาศ ไม่กี่วินาที และ ไม่มีในกระทู้ที่อาจารย์คำปั่นยกมาแม้เพียงออกอากาศในคำสั้นๆ แต่มีค่า มากมายมหาศาลดังนี้ ครับ
ทุกคนมีเหตุที่หลากหลายแตกต่างกัน เพราะฉะนั้น ปัญญาเป็นแสงสว่าง และในบรรดาสิ่งทั้งหลายทั้งหมดในโลกนี้ปัญญาประเสริฐสุด เพราะปัญญาทำให้รู้ความจริงว่า ความสุข ความสงบอยู่ที่ไหน ก็ต้องอยู่ที่ใจ"
แม้เป็นเพียงคำสั้นๆ ที่ได้ออกอากาศ แต่เป็นคำที่มีค่า ที่แสดงว่า ปัญญาเท่านั้นที่ประเสริฐสุด และ ปัญญาเท่านั้นที่จะรู้ความถูกต้องตามความเป็นจริงและ ความสงบที่แท้จริง ไม่ว่าจะกล่าวถึงชาติ หรือ ใคร ถ้าไม่มีปัญญาก็สงบไม่ได้ เพราะ ความสงบหมายถึง จิตที่สงบจากกิเลส และ ความสงบอยู่ที่ไหน ถ้าไม่ใช่ อยู่ที่ใจ คือ จิต เจตสิกที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เพียงคำสั้นๆ เท่านี้ ก็เป็นเครื่องเตือน สำหรับในขณะนี้ ที่อยากจะให้บ้านเมืองสงบหรือ ตนเองสงบ ก็ต้องด้วยการฟัง ศึกษาพระธรรม ปัญญาของตนเองที่เกิดขึ้น ย่อมจะทำให้สงบสงบจากกิเลสที่ไม่ทำให้สงบ และเป็นสภาพธรรมที่ไม่สงบ เพราะ เมื่อมีปัญญาย่อมเห็นถูกขณะนั้นสงบแล้ว แม้เหตุการณ์ภายนอกที่สมมติว่าชาติจะไม่สงบแต่ ใจขณะนั้นสงบแล้ว แต่ละหนึ่ง แต่ละขณะจิต จนถึงในที่สุด ผู้ที่สงบแท้จริง คือดับกิเลสด้วยปัญญา เพราะฉะนั้นปัญญาจึงประเสริฐสุด ตามที่อาจารย์สุจินต์ได้กล่าวมา ครับ
ขออนุโทนา
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของพันตรีหญิงศิริลักษณ์ มิ่งโมฬีครับ
สาธุ
ชีวิตธรรมดาๆ เกิดมาแล้วต้องตาย ลืมบ้างหรือเปล่าว่าเราจะมีชีวิตอยู่นานสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น ในชีวิตที่บางคนเกิดมา สั้น อาจจะถึงแค่เย็นนี้ก็ได้หรือต่อไปอีกไม่นานก็ได้ ทำอะไรระหว่างนั้น ที่เป็นประโยชน์ หรือว่าที่ช่วยให้สุขสงบทั้งเราและเขา ทุกคนมีเหตุที่หลากหลายแตกต่างกัน เพราะฉะนั้น นะคะ ปัญญาเป็นแสงสว่าง และในบรรดาสิ่งทั้งหลายทั้งหมดในโลกนี้ปัญญาประเสริฐสุด เพราะปัญญาทำให้รู้ความจริงว่า ความสุข ความสงบอยู่ที่ไหน ก็ต้องอยู่ที่ใจ "
ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกท่านค่ะ
