ทำไมพระโสดาบันต้องเกิดเพียง 7 ชาติค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ก่อนอื่นควรที่จะได้เข้าใจว่า พระโสดาบันคือใคร? พระโสดาบัน คือ ผู้ที่ถึงพระนิพพาน เป็นครั้งแรก ซึ่งก็คือ เป็นพระอริยบุคคลขั้นที่ ๑ ที่ได้ประจักษ์แจ้งพระนิพพาน ดับกิเลสได้ในระดับหนึ่ง ดับกิเลสได้เพียงบางส่วนตามสมควรแก่มรรคที่ท่านได้ ยังไม่สามารถดับได้ทั้งหมด พระโสดาบันดับความเห็นผิดทุกประการ ดับความลังเลสงสัยในสภาพธรรม ดับความตระหนี่ ดับความริษยา ดับกิเลสอย่างหยาบที่จะเป็นเหตุให้ไปเกิดในอบายภูมิ เพราะพระโสดาบันเป็นผู้ไม่ต้องไปเกิดในอบายภูมิอีกต่อไป ท่านเกิดอีกอย่างมาก ไม่เกิน ๗ ชาติ เป็นผู้แน่นอนที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระอริยบุคคลขั้นสูงๆ ขึ้นไป กล่าวคือ บรรลุเป็นพระสกทาคามี พระอนาคามี จนกระทั่งถึงความเป็นพระอรหันต์ในที่สุด
กว่าจะถึงความเป็นพระโสดาบัน ตลอดจนถึงพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ นั้นจะขาดการสะสมอบรมเจริญปัญญาไม่ได้ จะต้องเข้าใจอย่างมั่นคงว่าการเป็นพระอริยบุคคล เป็นไปด้วยปัญญา และ การบรรลุเป็นพระอริยบุคคลนั้นต้องเป็นลำดับขั้นด้วย เริ่มตั้งแต่พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ เพราะการดับกิเลส จะต้องดับเป็นขั้นๆ ตามลำดับมรรคและจะดับได้อย่างหมดสิ้นเมื่อถึงความเป็นพระอรหันต์
พระโสดาบันมีหลายประเภท บางประเภทเกิดเพียงชาติเดียวก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ เพราะท่านมีปัญญามาก พระโสดาบันบางประเภท ก็เกิด ๒ - ๓ ชาติก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ แต่บางประเภทเกิดอีกเพียง ๗ ชาติ ถึงบรรลุเป็นพระอรหันต์
จากประเด็นคำถามทำไมพระโสดาบันต้องเกิดไม่เกิน ๗ ชาติ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าพระโสดาบัน เป็นผู้ที่แน่นอนต่อการที่จะได้ตรัสรู้มรรคผลเบื้องสูงขึ้นไป เพราะมีความมั่นคงในหนทางที่ถูกต้อง ซึ่งจะต้องอบรมเจริญปัญญาต่อไปจนในที่สุดปัญญาก็ถึงความแก่กล้า ถึงความเป็นพระอรหันต์ซึ่งเป็นพระอริยบุคคลขั้นสูงสุดได้พร้อมบรรลุในชาติที่ ๗ ไม่มีชาติที่ ๘ หรือไม่มีภพที่ ๘
หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญาเท่านั้น ที่จะเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในสภาพธรรมตามความเป็นจริง จนสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น ครับ .
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
พระโสดาบันไม่มีชาติที่ ๘ [พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์]
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระโสดาบัน เหตุที่ไม่เกิดเกิน 7 ชาติ เพราะกำลังของปัญญาที่รู้หนทางและประจักษ์พระนิพพานแล้วครับ จึงอบรมปัญญาต่อได้ ถึงการดับกิเลสหมดสิ้น ไม่เกินชาติที่ 8 ก็ปรินิพพานครับ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔- หน้าที่ 601
ในบรรดาพระโสดาบันบุคคล ๓ จำพวก คือ เอกพีชี โกลังโกละ สัตตักขัตตุปรมะเหล่านี้ พระโสดาบันผู้มีอินทรีย์อ่อนกว่าเขาทั้งหมด ชื่อว่า สัตตักขัตตุปรมะ ท่านย่อมไม่เกิดในภพที่ ๘ แต่ยังต้องท่องเที่ยวไปด้วย สามารถแห่งการเกิดของตนที่ธรรมดากำหนดไว้. พระโสดาบันแม้นอกนี้ก็เหมือนกัน.
การรู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสตามลำดับขั้นนั้น เป็นเรื่องที่ยาวไกลมาก ซึ่งจะต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานในการสะสมปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูก ซึ่งจะปราศจากปัญญาไม่ได้เลยทีเดียว และที่สำคัญจะต้องเป็นผู้เคยเห็นประโยชน์ของพระธรรม เคยได้ฟังพระธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ มาแล้ว จึงทำให้ได้ฟังได้ศึกษาอบรมเจริญปัญญาต่อไป ไม่ใช่ว่าฟังพระธรรมแล้วจะให้ปัญญาเจริญขึ้นมากๆ ในทันทีทันใดทำให้ถึงความเป็นพระอริยบุคคลเลย ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ต้องค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อยจริงๆ จนกว่าปัญญาจะถึงความเจริญสมบูรณ์พร้อมในที่สุด จึงสำคัญอยู่ที่เหตุ คือ การอบรมเจริญปัญญา เพราะในที่สุดแล้ว ผลสูงสุดของการอบรมเจริญปัญญา ก็คือ สามารถดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น กิเลสที่สะสมมาอย่างมากมายและยาวนานในสังสารวัฏฏ์ จะดับได้ก็ด้วยปัญญา ครับ.
ขออนุโมทนา