ศีล 5

 
บรรดลอดทน
วันที่  23 ม.ค. 2557
หมายเลข  24367
อ่าน  1,397

ศีล ๕ ได้แก่อะไร จุดประสงค์ของการรักษาศีลเพื่ออะไรครับ


Tag  ศีล ๕  
  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 23 ม.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ศีล ๕ ประกอบไปด้วย .-

-การงดเว้นจากการฆ่าสัตว์

-การงดเว้นจากการถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้

-การงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม

-การงดเว้นจากการพูดเท็จ

-การงดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

การรักษาศีล ๕ นั้นเป็นนิจศีล ที่คฤหัสถ์ควรรักษา เพราะถ้ารักษาแล้วก็จะเป็นการให้ความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น อย่างแท้จริง กล่าวคือ ศีลข้อที่ ๑ การเว้นจากการฆ่าสัตว์ เป็นการให้ชีวิต ให้ความปลอดภัย ให้ความไม่มีภัย แก่สัตว์ทั้งหลาย ศีลข้อที่ ๒ การเว้นจากการลักทรัพย์ ชื่อว่า ให้ความปลอดภัยแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น ศีลข้อที่ ๓ การเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ชื่อว่าให้ความปลอดภัย แก่บุตรธิดา ภรรยา สามี ของผู้อื่น ศีลข้อที่ ๔ การเว้นจากการพูดเท็จ ชื่อว่า ให้ความจริง แก่ผู้อื่น และ ศีลข้อที่ ๕ การเว้นจากการดื่มน้ำเมา ชื่อว่า ให้ความปลอดภัยแก่ทุกสิ่ง ทุกอย่าง

ที่สำคัญ ถ้าเป็นผู้ที่มีความเข้าใจในเรื่องกรรม ทั้งกุศลกรรมและอกุศลกรรม รวมถึง ผลของกรรมทั้งสองฝ่ายด้วย นั้น ก็จะเป็นเครื่องยับยั้ง เป็นปัจจัยให้แต่ละบุคคลไม่ล่วงศีลได้ง่าย ดังนั้น ความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง จึงเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมทั้งหลายอย่างแท้จริง และเมื่อมีปัญญาคมกล้าสามารถที่จะบรรลุเป็นพระโสดาบัน เมื่อนั้นจึงจะไม่มีการล่วงศีล ๕ อีกเลยครับ

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 253

โทษ ๕ ประการของศีลวิบัติ

[๗๙] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสกะอุบาสกทั้งหลายชาวบ้านปาฏลิคามว่า ดูก่อนคหบดีทั้งหลาย โทษของศีลวิบัติของบุคคลทุศีลมี ๕ ประการ ๕ ประการเป็นไฉน

(๑) ดูก่อนคหบดีทั้งหลาย บุคคลทุศีล ผู้ปราศจากศีลในโลกนี้ ประสบความเสื่อมโภคะเป็นอันมาก เพราะมีความประมาทเป็นเหตุ นี้เป็นโทษข้อที่ ๑ ของศีลวิบัติของบุคคลทุศีล.

(๒) ดูก่อนคหบดีทั้งหลาย และยังมีข้ออื่นอีก กิตติศัพท์ชั่วของบุคคลทุศีล ผู้ปราศจากศีลก็อื้อฉาวไป นี้เป็นโทษข้อที่ ๒ ของศีลวิบัติ ของบุคคลทุศีล

(๓) ดูก่อนคหบดีทั้งหลาย และยังมีข้ออื่นอีก บุคคลทุศีล ผู้ปราศจากศีล เข้าสู่บริษัทใดๆ คือขัตติยบริษัทก็ดี พราหมณบริษัทก็ดี คหบดีบริษัทก็ดี สมณบริษัทก็ดี เป็นผู้ไม่องอาจ ขวยเขิน เข้าไป นี้เป็นโทษข้อที่ ๓ ของศีลวิบัติ ของบุคคลทุศีล.

(๔) ดูก่อนคหบดีทั้งหลาย และยังมีข้ออื่นอีก บุคคลทุศีล ผู้ปราศจากศีล เป็นคนหลง ทำกาละ (ตาย) นี้เป็นโทษข้อที่ ๔ ของศีลวิบัติ ของบุคคลผู้ทุศีล

(๕) ดูก่อนคหบดีทั้งหลาย และยังมีข้ออื่นอีก บุคคลทุศีล ผู้ปราศจากศีล ครั้นร่างกายแตกภายหลังมรณะ จะเข้าไปถึงอบาย ทุคคติ วินิบาต นรก นี้เป็นโทษข้อที่ ๕ ของศีลวิบัติ ของบุคคลผู้ทุศีล

ดูก่อนคหบดีทั้งหลาย โทษ ๕ ประการของบุคคลผู้ทุศีล ผู้ปราศจากศีล เหล่านี้แล.


ตราบใดที่ยังไม่ใช่พระโสดาบัน โอกาสที่จะล่วงศีล ก็ย่อมจะมีได้ ตามเหตุตามปัจจัย ในชีวิตปัจจุบันสำหรับผู้ที่ยังเป็นปุถุชน ยังมีกิเลสอย่างหยาบซึ่งไม่พ้นไปจากโลภะ โทสะ โมหะ เมื่อมีเหตุปัจจัยพร้อม ย่อมกระทำทุจริตกรรม ล่วงศีลได้ เมื่อเหตุมีแล้ว ผลก็ย่อมจะมีตามสมควรแก่เหตุที่ได้กระทำแล้ว ประโยชน์จากการได้ศึกษาในเรื่องโทษของการล่วงศีล นั้น คือ ได้เข้าใจถึงโทษภัยของกิเลส ว่า เป็นเหตุนำมาซึ่งสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ มากมาย จึงไม่ควรล่วงศีล เพราะการล่วงศีล นำมาซึ่งโทษประการต่างๆ และยังเป็นปัจจัยให้ไปเกิดในอบายภูมิด้วย เพราะฉะนั้นไม่ควรประมาทกำลังของกิเลส ค่อยๆ อบรมเจริญปัญญาเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองต่อไป เพราะกุศลธรรมเท่านั้นที่จะคอยประคับประคองอุปการะเกื้อกูลให้กาย วาจา ใจ เป็นไปในทางที่ถูกต้องดีงาม คล้อยตามความเข้าใจที่เกิดจากการได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 23 ม.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความจากพระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค สังคีติสูตร

แสดงไว้ว่า ศีล ๕ ได้แก่ .-

๑. ปาณาติปาตา เวรมณี (เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการฆ่าสัตว์)

๒. อทินนาทานา เวรมณี (เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้)

๓. กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี (เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม)

๔. มุสาวาทา เวรมณี (เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการพูดเท็จ)

๕. สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี (เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท)

ศีลเป็นเรื่องปกติจริงๆ ไม่พ้นไปจากความประพฤติเป็นไปทางกายทางวาจา ของแต่ละบุคคล ในแต่ละวันจิตใจเป็นกุศลหรือเป็นกุศลมากน้อยเท่าใด ถ้ามีการล่วงศีล มีการกระทำทุจริตกรรมประการต่างๆ ก็เป็นเครื่องแสดงว่ากิเลสหนาแน่นมีกำลังมากทีเดียว ซึ่งทุกคนควรจะได้ทราบ และจะได้ตรวจสอบตนเองว่า มีการล่วงศีลข้อใดบ้างในแต่ละวัน กล่าวคือ มีการฆ่าสัตว์ เบียดเบียนสัตว์ มีการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ มีการประพฤติผิดในบุตร ภรรยา สามี ของผู้อื่น มีการพูดเท็จ มีการดื่มสุราเมรัยของมึนเมาอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท บ้างหรือไม่ ซึ่งเป็นการตรวจสอบในชีวิตประจำวัน เพื่อจะได้สำรวมระมัดระวังความประพฤติทางกาย ทางวาจาให้เป็นปกติเรียบร้อยดีงาม

ศีล ๕ นั้นเป็นการให้ความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น ดังนี้ คือ ศีลข้อที่ ๑ การเว้นจากการฆ่าสัตว์ เป็นการให้ชีวิต ให้ความปลอดภัย ให้ความไม่มีภัย แก่สัตว์ทั้งหลาย ศีลข้อที่ ๒ การเว้นจากการลักทรัพย์ ชื่อว่า ให้ความปลอดภัยแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น ศีลข้อที่ ๓ การเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ชื่อว่าให้ความปลอดภัยแก่บุตรธิดา ภรรยา สามี ของผู้อื่น ศีลข้อที่ ๔ การเว้นจากการพูดเท็จ ชื่อว่า ให้ความจริง แก่ผู้อื่น และศีลข้อที่ ๕ การเว้นจากการดื่มสุราเมรัยของมึนเมา ชื่อว่า ให้ความปลอดภัยแก่ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น ด้วย

ศีล เป็นการขัดเกลาจิตใจของตนให้เบาบางจากกิเลส ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้ดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างหมดสิ้น ก็จริง แต่ก็เป็นการอบรมจิตใจให้เบาบางจากกิเลส เพราะเหตุว่าถ้าไม่ทราบว่า การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ เป็นต้น เป็นสิ่งที่ไม่ดี เป็นสิ่งที่ทำให้สัตว์อื่น บุคคลอื่นเดือดร้อน เป็นทุกข์ เพียงใด ก็อาจจะเกิดความยินดีพอใจในความไม่ดีเหล่านี้ก็เป็นได้ และเมื่อสำเร็จเป็นกุศลกรรมประการต่างๆ ก็ย่อมจะเป็นเหตุให้เกิดผลที่ไม่ดี (กุศลวิบาก) ข้างหน้าสำหรับตนเองอีกด้วย เมื่อไม่ทราบอย่างนี้ เจตนาที่จะงดเว้นก็จะไม่มี แต่ถ้าทราบ ก็จะสามารถละคลายให้เบาบาง หรือว่างดเว้นเท่าที่สามารถจะกระทำได้ ซึ่งก็จะเป็นการชำระจิตใจให้เบาบาง ให้บรรเทาจากกิเลสได้ในชีวิตประจำวัน

ที่สำคัญ คือ ความเข้าใจพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง โดยเฉพาะในเรื่องกรรม ทั้งกุศลกรรมและอกุศลกรรม รวมถึงผลของกรรมทั้งสองฝ่ายด้วย ก็ยิ่งจะเป็นเครื่องยับยั้ง หรือ เป็นปัจจัยให้แต่ละบุคคลไม่ล่วงศีลได้ง่าย ความเข้าใจพระธรรม จึงเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมทั้งหลาย ในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง ครับ.

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

สัพพลหุสสูตร .. เสาร์ที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๓

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 23 ม.ค. 2557

ผลของการล่วงศีล ทำให้ ถูกฆ่า ถูกตี ตายจากมนุษย์ ก็ตกนรก เป็นสัตว์เดรัจฉาน ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
บรรดลอดทน
วันที่ 23 ม.ค. 2557

ขอบพระคุณอย่าสูง และขออนุโมทนาครับผม

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
papon
วันที่ 18 พ.ค. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 4 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ