ร่างกายเราและสิ่งอื่นๆ มีกิเลสไหมครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่ว่าจะกล่าวถึงอะไรก็ไม่พ้นไปจากธรรมที่มีจริง กิเลส ก็เป็นธรรมที่มีจริง เป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต เวลาเกิดขึ้นก็เกิดร่วมกับอกุศลจิตเท่านั้น กิเลสไม่เกิดกับจิตประเภทอื่นเลย นอกจากอกุศลจิตเท่านั้น กิเลสมีมาก เช่น โลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น
กิเลส เป็นสภาพธรรมที่เป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต เมื่อกิเลสเกิดขึ้นย่อมทำให้จิตเศร้าหมอง กิเลสเป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นเจตสิก
ดังนั้น กิเลสเป็นเจตสิก เป็นนามธรรม ส่วน สิ่งที่มีจริง มีรูปธรรมด้วยที่เป็นสภาพธรรมที่ไม่รู้อะไรเลย อย่างเช่น ร่างกาย ก้อนหิน ป่าไม้ แม่น้ำ ลำธาร โลก จักรวาล เหล่านี้เป็นการประชุมรวมกันของรูปธรรม เพราะฉะนั้น ร่างกาย อื่นๆ ตามที่ผู้ถามยกมาไม่ใช่กิเลส และ ไม่มีกิเลสไปอยู่ด้วย หากแต่ว่า ถ้าเป็นรูปธรรมที่เกิดจากกรรม คือ หทยรูป เป็นที่เกิดของกิเลส ที่เป็นเจตสิกได้ ครับ ซึ่งหทยรูปอยู่ในร่างกายของสัตว์ที่มีชีวิต แต่ต้นไม้ ภูเขาจักรวาล ไม่มีรูปเหล่านี้ที่เป็นที่เกิดของจิตและกิเลสได้ เพราะไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ครับ
อนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กิเลส เป็นนามธรรม เป็นธรรมที่มีจริง เป็นธรรมฝ่ายดำ มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น เป็นสภาพธรรมที่ไม่สะอาด ไม่บริสุทธิ์ เป็นธรรมที่เศร้าหมอง กระทำให้จิตเศร้าหมองไม่สะอาด ตราบใดที่ยังละกิเลสไม่ได้ กิเลสก็เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ และเวลาเกิดก็ต้องเกิดพร้อมกับจิต ทำให้จิตในขณะนั้นเป็นอกุศลจิต มีจริงๆ ในชีวิตประจำวัน แต่ละคนก็ยังมีกิเลสอยู่ กิเลสเมื่อได้เหตุได้ปัจจัยก็เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ กิเลสไม่ได้เกิดที่ก้อนหิน หรือ ภูเขา เป็นต้น แต่กิเลส มีในสัตว์ บุคคล ผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ นั่นเอง
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ตลอด ๔๕ พรรษา เป็นคำพร่ำสอน เพื่อให้พุทธบริษัทเห็นโทษเห็นภัยของกิเลส เพื่อสำรวจตนเองว่ายังเป็นผู้มากไปด้วยกิเลส (ซึ่งจะทำให้เป็นผู้ไม่ประมาท) เพื่อจะได้ขัดเกลา ละคลายให้เบาบางลง ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยเริ่มจากการฟังการศึกษาพระธรรม สะสมปัญญาในชีวิตประจำวัน จนกว่าจะถึงความเป็นผู้ที่ไม่มีกิเลสได้ในที่สุด ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
