โมหะ ๕
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
จารุ ตอนแรกคิดว่า ถ้าไม่รู้ว่าตัวอะไร แล้วจะเป็น โมหะ
ท่านอาจารย์ นั่นรู้ชื่อ เห็นแล้วไม่รู้ เป็น โมหมูลจิต ไม่รู้ชื่อ หรือไม่รู้สภาพที่เห็น ไม่รู้ในบัญญัตินั้นๆ ไม่เกี่ยวกับโมหะเลยอันนี้ภาษาฝรั่งเศสเรียกว่าอะไร คุณจารุพรรณ นี่ก็เหมือนกันคือไม่รู้ชื่อ แต่ก็ยังรู้ว่า อ้ายตัวดำๆ เป็นอย่างไรลักษณะของมัน พอบอกได้ใช่ไหมคะ คุณจารุพรรณ ก็เรียกมันว่า ตัวดำๆ ก็บอกลักษณะอยู่แล้วว่า ตัวดำๆ ชื่อต่างหากค่ะ ไม่รู้ว่าชื่ออะไร
ผู้ฟัง คือลักษณะนั้นที่อาจารย์ตอบผม คล้ายๆ ลักษณะที่ไม่รู้บัญญัติ ที่อาจารย์บอกว่า ขณะที่เดินผ่านไปตามท้องตลาด ข้างๆ ในร้าน เชามีอะไรเยอะแยะ
ท่านอาจารย์ นอกจากไม่รู้บัญญัติ ยังไม่สนใจด้วย
ผู้ฟัง นอกจากไม่รู้บัญญัติ ยังไม่สนใจด้วย อาจารย์บอกว่า ขณะนั้นเป็น โมหะ เพราะว่าการเห็นมี เมื่อการเห็นมี แล้วไม่รู้ว่าอะไร ลักษณะนั้นเป็นโมหะ
ท่านอาจารย์ ไม่เห็นอะไร ไม่รู้ความจริงของสิ่งที่เห็น ไม่ใช่ไม่รู้ว่า สิ่งที่เห็นนั้นชื่ออะไร
ผู้ฟัง วันนั้น ผมก็ไม่ได้ซักต่อ เลยเข้าใจว่าเห็นแล้ว ไม่รู้ว่าชื่ออะไร
ท่านอาจารย์ แต่พระอรหันต์ก็เห็น ท่านก็ไม่รู้ชื่อแน่ อย่างท่านพระสารีบุตรท่านไม่รู้ว่า นี่เป็นท่านพระปุณณะ ไม่รู้ว่าชื่อ ท่านพระปุณณะ ท่านสนทนากันจนจบ แล้วจึงได้ถามชื่อ
ผู้ฟัง รู้สึกว่าจะรู้ก่อน เพราะก่อนสนทนามีพระมาบอก
ท่านอาจารย์ มีพระมาบอก แต่พระท่านจะรู้ได้อย่างไร ว่าคนที่มาคือท่านพระปุณณะ พูดจนจบแล้ว ท่านจึงถามว่าท่านชื่ออะไร นี่ชื่อสารีบุตร นั่นชื่อปุณณะ ท่านก็บอกว่า ถ้าท่านรู้อย่างนี้ ท่านก็คงสนทนาไม่ได้ละเอียด
ผู้ฟัง พูดไม่ออกแล้ว เพราะทั้งสองท่านเป็น เอตทัคคะ ท่านพระสารีบุตร ท่านเลิศในปัญญา แต่ท่านพระปุณณะ มาแก้ปัญหาให้ท่านพระสารีบุตร ถ้ารู้ก่อนค่ะ ท่านแก้ไม่ออกหรอก
จารุ เห็นแล้ว ไม่ใส่ใจ ก็เป็น โมหะ
ท่านอาจารย์ เอาอย่างนี้นะคะ ถ้าจะให้รู้ง่ายๆ ไม่ต้องไปคิดมากปวดหัว เวลาที่เกิดพอใจ สี่งหนึ่งสี่งใด ขณะนั้น เป็นโลภะ แล้วต้องมีโมหะเกิดร่วมด้วย ไม่ต้องสงสัย แต่ขณะที่เราผ่านแล้วไม่ได้ติดใจ ไม่ได้เกิดความพอใจ ไม่ได้เกิดความต้องการอะไรขึ้นมาเลย เพียงแต่ผ่านสายตาไปเฉยๆ เหมือนเรานั่งที่หน้าต่างในทางรถไฟ เราก็เห็น เพียงเห็น จะบอกว่าไม่เห็นก็ไม่ได้ แต่เราก็ไม่ได้เกิดโลภะหรือความพอใจ ไหนดอกไม้สีแดงอยู่ตรงนั้น ตรงนี้หญ้าเขียวจริง วัวตัวนี้อ้วนดี ไม่ใช่อย่างนั้น ขณะนั้นต้องเป็น โมหะ เพราะว่าเราไม่ได้เกิดความสนใจ สลับกับความสนใจของเรา ซึ่งกำลังมีในสิ่งอื่นที่จะให้รู้ ลักษณะ ของโมหะล้วนๆ นี้ อย่างคนละเมอ และเขาทำอะไรไปโดยไม่รู้สึกตัว ไม่ใช่ว่า ขณะนั้นเขาไมมี โทสะ และ โลภะ แต่เขาไม่มี โมหะ ขั้นมาก จนกระทั่งจำไม่ได้ หรือคนที่ทำอะไรไม่ได้เลย ช่วงขณะหนึ่ง ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ไม่ใช่ โลภะ ไม่มี หรือโทสมูลจิต ไม่มี มีแต่ โมหะ มากจนไม่สามารถที่จะจำได้ ว่าตัวทำอะไร หรือชื่ออะไร นั่นคีอ ลักษณะ ของ โมหะ ซึ่งไม่รู้ จำไม่ได้เลย
(ยังมีต่อครับ)