เก็บเล็กผสมน้อย ... สนทนาธรรมที่อิมพีเรียลแม่ปิง เชียงใหม่ ตอนที่ ๒ (จบ)
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
วันนี้ วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๗ สนทนาธรรมที่โรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง เชียงใหม่ เป็นวันสุดท้าย (๒ ช่วงเวลา คือ ๐๙.๐๐ ถึง ๑๒.๐๐ น. และ ๑๓.๐๐ ถึง ๑๕.๐๐ น.)
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ก็ได้สนทนา ให้เข้าใจในสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ มีหลากหลายสาระ หลากหลายข้อคิด ที่เป็นเครื่องเตือนใจที่ดี ในชีวิตประจำวัน เตือนให้ไม่ลืมว่า ธรรม ก็คือ ขณะนี้
(บันทึกภาพโดย บุญยวีร์ รัชนี สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ ๑๒๓๔)
ขออนุญาตประมวลมาฝาก ผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกันทุกๆ ท่าน ได้อ่าน ได้พิจารณาร่วมกัน ในประโยคสั้นๆ ดังต่อไปนี้.-
- ขณะนี้มีสภาพธรรมกำลังปรากฎ ควรที่จะได้ละอะไร? ละความไม่รู้ความจริง ของสิ่งที่กำลังปรากฏ อันเป็นเหตุให้เกิดความติดข้อง และความเห็นผิด เป็นต้น - คำจริง แสดงถึงสิ่งที่มีจริง ย่อมเป็นจริงโดยตลอด
- เกิดมาแล้ว ชีวิตเพียงชั่วคราวสิ่งต่างๆ ที่เคยมีในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน เงินทอง ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่ ร่างกายของตน ไม่สามารถติดตามไป ใน ชาติหน้าได้เลย - ห้ามไม่ให้ธรรม เกิด ห้ามไม่ให้ธรรม ดับ ไม่ได้
- เห็น ย่อมเห็นเพียงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้เท่านั้น
- ความเข้าใจต้องเป็นไปตามลำดับขั้นจริงๆ
- ธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง แสดงถึงสิ่งที่มีจริงตั้งแต่เกิดจนตาย
- เมื่อมีสิ่งที่มีจริง แล้วไม่พูด ในสิ่งที่มีจริง ไม่ฟังในสิ่งที่มีจริง แล้วจะพูดอะไร จะฟังอะไร
- ทั้งสามปิฎก มีคำไหนบ้าง ที่ไม่กล่าวถึงสิ่งที่มีจริง? ไม่มีเลย
- ความทุกข์เกิดจากความยึดมั่นถือมั่น ซึ่งเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย
- กว่าจะเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงตั้งแต่เกิดจนตาย มีหนทางเดียว คือ ฟังพระธรรมด้วยความเคารพยิ่ง
- ธรรม มีจริงๆ ในชีวิตประจำวัน แต่เพราะไม่รู้จึงหลงยึดถือว่าเป็นเรา เป็นของของเรา หรือเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด
- ฟังพระธรรม เพื่อละความไม่รู้ จะละกิเลสด้วยความไม่รู้ เป็นไปไม่ได้
- สิ่งที่มีจริงๆ ไม่พ้นไปจากสภาพธรรม ที่เป็น นามธรรม และรูปธรรม
- สิ่งที่เกิดแล้วไม่รู้อะไร ไม่ใช่ธาตุรู้ เป็นรูปธรรม
- จะฟังคำของใคร จึงจะสามารถเข้าใจสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริงได้ ต้องไม่ใช่คำของคนอื่น แต่เป็นคำที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดง ซึ่งเป็นคำจริงโดยตลอด ถ้าไม่ได้ฟังคำของพระองค์แล้ว ไม่สามารถจะเข้าใจความเป็นจริงของสิ่งที่มีจริงได้เลย
- เกิดมาเพราะความไม่รู้ แล้วก็จะไม่รู้ต่อไป สำหรับผู้ที่ไม่ยอมจะรู้ ไม่มีความ ประสงค์ที่จะรู้ความจริง
- แต่ละโลกต่างกันมาก เห็น เป็น โลกเห็น ต้องไม่ปนกับโลกคิด
- จิตที่เกิดต่อจากจิตเห็น มี แต่ไม่ใช่จิตเห็น จิต เกิดดับทีละขณะ จะไม่เกิดพร้อมกันหลายๆ ขณะ
- ใครจะสามารถยับยั้งความคิดได้ ไม่มีเลย แสดงถึงความเป็นจริงของ สภาพธรรมที่เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น
- เป็นโอกาสของกุศลแล้ว ในขณะที่ ได้มีการช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น
- เมื่อเหตุมีแล้ว ก็ย่อมทำให้เกิด วิบาก ในภายหน้าได้ วิบาก เป็นความสุกงอม พร้อมที่จะเกิดขึ้น อันเนื่องมาจาก เหตุ คือ กรรมที่ได้กระทำแล้ว
- ทิฏฐิ ไม่ใช่จิต แต่เป็นเจตสิก ทิฏฐิ มี ๒ อย่าง คือ มิจฉาทิฏฐิ กับ สัมมาทิฏฐิ ถ้าเป็นทิฏฐิที่เกิดร่วมกับอกุศล ก็ต้องเป็นมิจฉาทิฏฐิเท่านั้นไม่ใช่สัมมาทิฏฐิ
- อารมณ์ (อารัมมณะ) คือ สิ่งที่จิตกำลังรู้ และกำลังรู้ในขณะนี้ด้วย ไม่ใช่ในขณะอื่น
- พระธรรม อันตรธาน จากใจของผู้ที่ไม่ได้ฟังไม่ได้ศึกษาพระธรรม แม้ว่าในขณะ นั้น จะเป็นช่วงเวลาที่พระธรรมดำรงอยู่ ก็ตาม
- ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมในขณะนี้ พอถึง สมัยพระพุทธเจ้า พระองค์ ต่อไป จะฟังได้อย่างไร เพราะฉะนั้น ไม่ต้องรอ ฟังเลยเดี๋ยวนี้ จะประมาทพระธรรม ไม่ได้เลยทีเดียว
- ไม่มีอะไรที่จะประเสริฐเท่ากับความเข้าใจถูกเห็นถูก
- ใจดี เพราะจิตประกอบด้วย เจตสิก ฝ่ายดี แต่ถ้าเป็นใจร้าย ก็เพราะจิตในขณะนั้นประกอบด้วย เจตสิก ฝ่ายที่ไม่ดี เช่น โทสะ ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ เป็นต้น
- เที่ยวไปไม่รู้จบ เดี๋ยวทางตา เดี๋ยวทางหู เดี๋ยวทางจมูก เดี๋ยวทางลิ้น เดี๋ยวทางใจ จากขณะหนึ่งไปอีกขณะหนึ่ง นี้คือ สังสารวัฏฏ์
- โลก ไม่ปะปนกัน โลกทางตา ไม่มีเสียงเลย
- มีแต่สภาพธรรมที่มีจริง เท่านั้น เช่น แข็ง ที่กำลังปรากฏในขณะนี้ มีจริงๆ แล้วจะมีเราได้อย่างไร ไม่มีเรา มีแต่สภาพธรรมที่มีจริงๆ แต่ละหนึ่งๆ เท่านั้นจริงๆ
- ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็ไม่ได้พึ่งพระปัญญาตรัสรู้ของพระองค์ แต่พึ่งคนอื่น ซึ่งไม่สามารถจะเป็นที่พึ่งจริงๆ ได้เลย
- ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดง จะรู้ได้อย่างไรว่า
สิ่งใดถูก สิ่งใดผิด
- พระธรรม ยิ่งเปิดเผย ยิ่งรุ่งเรือง รุ่งเรืองด้วยความเข้าใจถูก เห็นถูกของผู้ที่ได้ ฟังได้ศึกษา จากการเปิดเผยสิ่งที่มีจริง นั้น
- พร้อมที่จะฟังพระธรรม หรือ พร้อมที่จะคิดถึงเรื่องอื่น?
ขอเชิญคลิกอ่านครั้งที่ ๑ ได้ที่นี่ครับ
เก็บเล็กผสมน้อย ... สนทนาธรรมที่อิมพีเรียลแม่ปิง เชียงใหม่ ตอนที่ ๑
... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
-พระธรรม อันตรธาน จากใจของผู้ที่ไม่ได้ฟังไม่ได้ศึกษาพระธรรม
แม้ว่าในขณะนั้นจะเป็นช่วงเวลาที่พระธรรมดำรงอยู่ ก็ตาม
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนา วิทยากรทุกท่าน และ ผู้ที่มีศรัทธา
และ อ.คำปั่น ที่แบ่งปันธรรมดีๆ มาให้อ่านกัน ครับ
ขออนุโมทนา
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอกราบอนุโมทนาในวิริยะกุศลของคุณคำปั่น อักษรวิลัย
ขอกราบอนุโมทนาในกุศลจิตของวิทยากรและผู้ร่วมสนทนาธรรมทุกท่านคะ
"ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง จะรู้ได้อย่างไรว่า
สิ่งใดถูก สิ่งใดผิด"
กราบอนุโมทนาขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเครพอย่างยิ่ง
อนุโมทนาขอบคุณอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัยและคณะวิทยากรรวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน
จากทักษพล - จริยา - ศิริพล เจียมวิจิตร
เป็นโอกาสของกุศลแล้ว ในขณะที่ได้มีการช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอกราบอนุโมทนาในวิริยะกุศลของคุณคำปั่น อักษรวิลัย