บัญญัติเป็นเงาของปรมัตถ์

 
papon
วันที่  2 ก.พ. 2557
หมายเลข  24402
อ่าน  2,579

เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน

"บัญญัติเป็นเงาของปรมัตถ์" กระผมยังเข้าใจไม่กระจ่าง ขออาจารย์ช่วยแปลพจนานี้ด้วยครับ ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ

ขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 2 ก.พ. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

บัญญัติไม่มีสภาวะ บัญญัติเป็นเพียงเรื่องหรือชื่อของปรมัตถธรรม เพราะมีปรมัตถธรรม จึงมีชื่อ หรือมีคำบัญญัติ เพราะแท้ที่จริงแล้ว สิ่งที่มีจริงๆ ที่ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงลักษณะของสิ่งที่มีจริงนั้น ไม่ได้ มีอยู่ ๔ อย่าง ที่เรียกว่า ปรมัตถธรรม ๔ ได้แก่ จิต เจตสิก รูป และนิพพาน ไม่ใช่บัญญัติ บัญญัติไม่ใช่ปรมัตถธรรม บัญญัติไม่มีลักษณะให้รู้ ไม่มีจริง เพราะไม่มีลักษณะ แต่เพราะมีปรมัตถธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริง นี้เองจึงมีบัญญัติธรรม ยกตัวอย่างเช่น เพราะมีขันธ์ ๕ ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่มีจริงที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย อันได้แก่นามธรรม (จิต และเจตสิก) และรูปธรรม จึงมีการบัญญัติเรียกว่าเป็นคนนั้นคนนี้ เป็นคนดี เป็นคนไม่ดี เป็นต้น ทั้งหมดนี้ก็สืบเนื่องมาจาก มีสิ่งที่มีจริงที่เป็นปรมัตถธรรม นั่นเอง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 2 ก.พ. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

บัญญัติ คือ สิ่งไม่มีลักษณะของสภาพธรรม แต่ เป็น เรื่องราว ที่เกิดจากการคิดนึก สมมติ บัญญัติขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่มีได้เพราะอาศัย สภาพธรรมที่มีจริงเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ขณะที่เห็นเป็นคน เป็นสัตว์ ขณะนั้น เป็นสมมติบัญญัติแล้ว เป็นเรื่องราว ที่เป็นสัตว์ บุคคล สิ่งต่างๆ บัญญัติว่าเป็นคน เป็นสัตว์ เป็นต้น แต่เพราะอาศัยสภาพธรรมที่มีจริง คือ จิต เจตสิก ที่มีการเห็น เห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา จิตคิดนึก ในสีนั้น ปรากฏเป็นรูปร่าง สัณฐาน เป็นเรื่องราว เป็นสัตว์ บุคคล สิ่งต่างๆ ครับ และขณะแม้ไม่เห็น ไม่ได้ยิน แต่ มีการคิดนึกในเรื่องต่างๆ ขณะนั้น ก็เป็นการคิดนึกในสมมติ บัญญัติ เรื่องราวต่างๆ ที่เคยทรงจำไว้ ว่า เป็น สิ่งนั้น สิ่งนี้ แม้ที่จริง ไม่ได้มีลักษณะที่มีจริง แต่เป็นการคิดในเรื่องราว ที่สมมติ บัญญัติขึ้นในขณะที่คิดนึก ครับ

สมมติ บัญญัติ จึงไม่พ้นจากชีวิตประจำวันที่เป็นไป เพราะ ไม่มีปัญญา จึงถูกสมมติบัญญัติปิดบังปรมัตถ์ ไม่ให้รู้ว่าแท้ที่จริง เป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ซึ่งหนทางการอบรมปัญญา คือ การเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ว่าเป็นแต่เพียงธรรม และ เข้าใจถูกว่า เรื่องราว สมมติ บัญญัติไม่มีจริง ก็จะไถ่ถอนความยึดถือด้วยความเห็นผิดว่า เป็นเรา เป็นสัตว์ บุคคล ครับ

เพราะฉะนั้น บัญญัติเป็นเงาของปรมัตถ์ คือ เพราะ มีสภาพธรรมที่มีจริงเกิดขึ้น จึงมีเรื่องราว สิ่งต่างๆ ที่สมมติเกิดขึ้นเพื่อเรียก เพื่อสื่อ และเพื่อให้เข้าใจความหมายของ สภาพธรรมที่เป็นปรมัตถ์นั้น ครับ

ขออนุโมทนา สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
peem
วันที่ 2 ก.พ. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 2 ก.พ. 2557

ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
mon-pat
วันที่ 4 ก.พ. 2557

การเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ ว่าเป็นแต่เพียงธรรม และ

เข้าใจถูกว่า เรื่องราว สมมติ บัญญัติไม่มีจริง ก็จะไถ่ถอนความยึดถือด้วความเห็นผิดว่า เป็นเรา เป็นสัตว์ บุคคล

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 15 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
AmpholSuttipo
วันที่ 16 ก.ย. 2567

ขออนุโมทนาในกุศลของการเผยแพร่พระธรรมคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ