ถ้าเรามี ผัง แผนที่ ที่ทำให้เราเข้าใจในสิ่งนั้น จักถึงที่หมายหรือไม่

 
arkhom
วันที่  5 ก.พ. 2557
หมายเลข  24423
อ่าน  1,011

สาธุ ถ้าเรามี ผัง แผนที่ ที่ทำให้เราเข้าใจในสิ่งนั้น จักถึงที่หมายหรือไม่

ข้อใดเป็นข้อที่วัดผลได้ หากแม้นเรามีเพียง ผัง แผนที่เท่านั้น อย่างไรคือผังที่เป็นของแท้เป็นของปลอม

ประโยชน์ใช่หรือไม่ มรรค 8 เป็นผังใช่หรือไม่ หรือญาณ 16 ศีล สมาธิ ปัญญาเป็นแผนที่ ขอขอบคุณผู้รู้ทั้งหลายทุกท่าน สาธุ สาธุ สาธุ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 5 ก.พ. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

แผนที่ คือ พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง จุดหมาย คือ พระนิพพาน การหลุดพ้นจากกิเลส อาศัย แผนที่ คือ พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง แต่ที่สำคัญ จะต้องอ่านแผนที่เป็น คือ จะต้องอาศัย การสะสมความเข้าใจของตนเองด้วย คือ เมื่ออ่านฟังพระธรรม แล้วเกิดความเข้าใจ เมื่อเกิดความเข้าใจถูก ตั้งแต่ขั้นการฟัง การศึกษาพระธรรม ปัญญาก็ค่อยๆ เจริญขึ้น จนในที่สุด ก็ถึงปัญญา ที่เป็นการเจริญอริยมรรคและถึงการดับกิเลสได้ ขณะที่ ปัญญาค่อยๆ เจริญขึ้น อันเกิดจากการอ่านแผนที่เป็น ก็เดินทางถูก ขณะที่ความเข้าใจค่อยๆ เกิดขณะนั้น กำลังเดินตามทางแผนที่ เพื่อไปสู่จุดหมายที่ถูก มี เชียงใหม่ เป็นต้น ขณะปัญญาเกิด ขณะนั้น กำลังดำเนินตามทางจนเป็นทางที่ประเสริฐ ที่มีทางเดียว คือ อริยมรรค มีองค์ 8 ครับ

เชียงใหม่ ไปได้หลายทางก็จริง แต่ หนทางการอบรมปัญญา มีทางเดียวเท่านั้นคือ การเจริญอริยมรรค รู้ความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ว่า เป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา โดยอาศัย แผนที่ คือ พระธรรม และ ต้องพิจารณา ไตร่ตรอง รอบคอบ เปรียบเหมือนผู้ที่อ่านแผนที่เป็น เพราะ หากมีแผนที่ แต่ อ่านแผนที่ไม่เป็น ก็ไม่ถึงจุดหมาย หากได้ฟังพระธรรม แต่ ไม่พิจารณาไตร่ตรอง ด้วยความแยบคาย ปัญญาย่อมไม่เกิด ครับ

และหากสำคัญว่า สิ่งนี้เป็นแผนที่ที่ถูก ทั้งๆ เป็นสิ่งที่ผิด ก็ไม่มีทางที่จะถึงจุดหมายได้เลย ซึ่งจะรู้ว่า สิ่งใดถูก สิ่งใดผิด เป็นแผนที่ปลอม หรือ จริง ก็ด้วยปัญญาของตนเอง เมื่อปัญญาเจริญขึ้น ย่อมรู้ว่าสิ่งใดถูก และ สิ่งใดผิด ครับ

พระธรรมจึงเป็นเรื่องละเอียด และ ควรเคารพอยู่เสมอว่า พระธรรมลึกซึ้ง ยาก แต่ สามารถเข้าใจได้ ด้วยการศึกษาในพระธรรมที่ถูกต้อง ปัญญาจะค่อยๆ เจริญขึ้น แต่ต้องใช้เวลายาวนาน แต่สามารถถึงได้ในที่สุด ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 5 ก.พ. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

* * เห็นประโยชน์ของพระธรรม (ปัญญา) ก็มั่นคงในการฟังพระธรรม และเข้าใจหนทางที่ถูก การตั้งเป้าหมายไม่ได้หมายความว่า เมื่อตั้งแล้วจะทำให้เข้าใจหนทางที่ถูก ความอยาก ไม่ได้ทำให้เข้าใจถูก แต่การฟังเพื่อเข้าใจในสิ่งที่ฟังขณะนั้น และเกิดความเข้าใจขึ้น ความเข้าใจที่เกิดจากการฟังในขณะนั้นต่างหากจะทำให้เข้าใจหนทางดับกิเลสได้ถูกและบรรลุได้ โดยไม่ต้องตั้งเป้าหมายหรืออยาก อย่างไรเลย * *

อ้างอิงจาก ... ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๙๗

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา นำมาซึ่งประโยชน์คือเพื่อสภาพธรรมที่เป็นกุศลเจริญขึ้น เพราะกุศลนำมาซึ่งประโยชน์ทั้งปวง ไม่เคยนำความทุกข์ความเดือดร้อนมาให้เลย นอกจากจะเป็นประโยชน์โดยตรงสำหรับตนเองแล้ว เมื่อกุศลเกิดขึ้นยังทำประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่นได้อีกด้วย

ประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในพระพุทธศาสนา คือ เพื่อพ้นจากทุกข์ ไม่เกิดอีก ซึ่งเป็นการดับกิเลสทั้งหลาย มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ที่เป็นเหตุให้เกิดทุกข์

เพราะฉะนั้น พระธรรมคำสอนทั้งหมด ไม่ว่าจะทรงแสดงโดยนัยใดก็ตาม ก็เพื่อประโยชน์สูงสุด คือ การดับกิเลส พ้นจากทุกข์โดยประการทั้งปวง, หนทางแห่งการดับกิเลสนั้น มีอยู่แล้ว คือ การอบรมเจริญปัญญาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่การจะดำเนินไปตามทางดังกล่าวหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับบุคคลแต่ละคนจริงๆ ถ้าดำเนินตามหนทางที่ถูกต้อง โอกาสแห่งการพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ก็ย่อมจะมีได้ ซึ่งจะต้องอาศัยกาลเวลาอันยาวนานในการอบรมเจริญปัญญาต่อไป โดยเห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรม และไม่ขาดการฟังพระธรรม

ขอให้ตั้งต้น ที่ การฟังพระธรรม ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 5 ก.พ. 2557

พระธรรมเป็นเครื่องนำทางให้บรรลุ มรรค ผล ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 5 ก.พ. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
mon-pat
วันที่ 8 ก.พ. 2557

หากสำคัญว่า

สิ่งนี้เป็นแผนที่ที่ถูก

ทั้งๆ เป็นสิ่งที่ผิด

ก็ไม่มีทางที่จะถึงจุดหมายได้เลย

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nopwong
วันที่ 8 ก.พ. 2557

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ดรุณี
วันที่ 9 ก.พ. 2557

จากคำถามท่านเจ้าของกระทู้

ถามว่าจะทราบว่าแผนที่ใดคือแผนที่ของจริงหรือของปลอม

ดิฉันคิดว่าถ้าใครไม่ได้คบสัตบุรุษ ไม่ได้ฟังคำของสัตบุรุษ

กลับไปคบอสัตบุรุษ ไปฟังคำอสัตบุรษ

ก็คงเชื่อว่าของปลอมเป็นของจริงอย่างแน่แท้

และก็คงจะมองของจริงเป็นของปลอมในที่สุด

ส่วนการที่คนมักจะอุปมาว่าไปเชียงใหม่ไปได้หลายทาง

แต่คำอุปมานี้ ทำให้คนเข้าใจว่านิพพานไปได้หลายทาง

ซึ่งจริงๆ แล้วนิพพานไม่ใช่เชียงใหม่

และการไปเชียงใหม่ก็ไปเพื่อได้ แต่นิพพานนั้น เพื่อละ

นิพพานไม่ใช่สถานที่ ไม่มีการเกิดของจิตเจตสิกรูปอีก

ดังนั้น ที่เปรียบนิพพานเหมือนเชียงใหม่ ก็ตั้งต้นผิดตั้งแต่แรกแล้ว

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ดรุณี
วันที่ 9 ก.พ. 2557

ที่คนทั่วไปกล่าวว่า ทางไปนิพพาน มีหลายทาง

จริงๆ แล้วเกิดจากเหตุที่มีการสอนเรื่องสมถภาวนา 40 ทาง

แล้วคนก็เข้าใจว่าต้องเลือกทางใดทางหนึ่งใน 40 ทางนี้ ตามจริตต่างๆ

ซึ่งทำให้คนสอนธรรมะเอาเรื่องนี้มาปนกับวิปัสสนาซึ่งเป็นทางเดียวที่จะไปนิพพาน

จนทำให้เข้าใจผิดกันไปทั่วว่า นิพพาน ไปได้หลายทางนั่นเอง

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
paderm
วันที่ 10 ก.พ. 2557

ขออนุโมทนา คุณ ดรุณี ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
papon
วันที่ 11 ก.พ. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
arkhom
วันที่ 6 ส.ค. 2557

ท่านดารุณีตอบได้ดีมากครับ ทางไปนิพพานคือความความเข้าใจความประจักษ์แจ้งทุกประการโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ ไม่เกี่ยวกับทาง ข้อปฏิบัติคือสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจ ดังนั้นในหลักการทั้งหมดในคำสอน ก็เพื่อให้เราเข้าใจในความจริงทั้งหมด ที่เราไม่เข้าใจที่ติดอยู่ และผู้ใดทำความเข้าใจโดยละเอียดถึงที่สุดแล้ว เป็นขั้นตอนก็ไม่ติดกับเรื่องใดแล้วก็เห็นเป็นไปตามปกติของธรรมเหล่านั้น มีภาวะ มีการรับรู้ได้เป็นขั้นตอนรับรสแห่งธรรมนั้นได้อย่างแท้จริง

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
orawan.c
วันที่ 7 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ