วันมาฆบูชา ๑๔ ก.พ. ๒๕๕๗ ชั่วโมงปฏิบัติธรรม
สนทนาธรรม
วันมาฆบูชา 14 กุมภาพันธ์ 2557
ชั่วโมง ปฏิบัติธรรม
ท่านอาจารย์ บางคนอาจคิดว่า ชาวพุทธไม่รู้จักความรัก แต่ ความรักมีอยู่ทุกวัน เพราะ ชาวพุทธเริ่มรู้จักธรรมบ้าง เพราะ ความรักเป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นความติดข้องซึ่ง สัตว์โลก มีความรัก ความติดข้องมากเป็นปกติ จึงสรรเสริญ ความติดข้อง ความรัก ว่าเป็นวันพิเศษ วันแห่งความรัก แท้ที่จริงความรักที่เป็นความติดข้อง เป็นสภาพธรรมที่ไม่ดี นำมาซึ่งทุกข์ประการต่างๆ ตามมา
วันแห่งการฟังธรรม เป็นวันแห่งความดี เพื่อให้กุศลถึงพร้อม เพื่อ ให้เกิดอรหันตมรรค ดับกิเลสไม่เหลือเลย ซึ่งในความเป็นจริง โดยทั่วไปเป็นวันแห่งความไม่รู้ โดยมาก แต่ ขณะที่ได้ฟังธรรม เข้าใจธรรม ก็เป็นวันแห่งความเข้าใจ และ วันนี้ ก็เป็นวันที่พระสารีบุตรสิ้นกิเลสเป็นพระอรหันต์ หมดความรัก หมดความเยื่อใยหมดสิ้น ทุกสิ่งทุกอย่างจะนำมาซึ่งทุกข์ทั้งปวง
พระโอวาทปาฏิโมกข์ ก็เป็นคำสอน เพื่อ ละความรัก ความติดข้องจนหมดสิ้นเพื่อละทุกข์ทั้งปวง คนที่ศึกษาธรรม ชาวพุทธที่ไม่ได้ศึกษา รักดี เพราะ รัก ดีกว่าเกลียด ให้รักกันมากๆ แต่ ความดีต้องเป็นความดี คือ ความมีเมตตาที่พร้อมจะช่วยเหลือกื้อกูล พร้อมที่จะทำสิ่งที่ดีให้ อย่างนี้ดีแน่ ค่ะ
เว้นการทำบาปทั้งปวง เป็นไปได้ไหม และ เป็นไปได้ง่ายไหม ถ้าเป็นเราไม่ทำบาปก็ยังเป็นเราไม่ทำบาป ถูก หรือ ผิด ซึ่ง ขณะที่เว้นทำบาป เพราะ กุศลจิตเกิดขึ้น กุศลที่เว้นก็ไม่มีเรา มีแต่ธรรมแต่เป็นเรื่องยาก และเป็นเรื่องของความเข้าใจถูกทีละเล็กละน้อย
ชีวิตที่เกิดมา จะเป็นประโยชน์มากที่สุด คือ ภาวนา หมายถึง อบรม อบรมอะไร อบรมปัญญา ในสิ่งที่ไม่เคยฟัง และ สิ่งที่ฟังเป็นความจริง และ ฟังแล้ว จะนำไปสู่สิ่งที่เว้นจากบาปได้ไหม ถ้ามีความเข้าใจเพิ่มขึ้น ขณะนั้นก็เว้นจากบาป แต่ ยังไม่พอ
ยังมีกิเลส และ ยังมีเหตุปัจจัยให้ทำบาป เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ไม่ประมาท ก็จะเจริญกุศลทุกประการ แม้เล็กน้อย และ ไม่ประมาทที่จะฟังธรรม โดยเข้าใจถูกว่า ไม่มีเราที่ทำกุศล เป็นไปได้นะคะ เพราะ วันนี้ ก็มีผู้ที่ดับกิเลสได้ในอดีตที่เป็น วัมาฆบูชา ซึ่งต้องบำเพ็ญบารมี ที่จะสามารถรู้ความจริงด้วย
ผู้ถาม ขันติ เป็นตบะอย่างยิ่งถ้าเราอดทนที่จะต่อคิวซื้ออาหารเป็นความอดทน ขันติหรือเปล่า คะ
ท่านอาจารย์ ธรรม ไม่มีชื่อ แต่ก็มีสภาพธรรมอย่างนั้น ซึ่งสภาพธรรมนั้นเกิดดับอย่างเร็วไหม และ ก็จะรู้ว่า ความอดทน อดทนให้ได้สิ่งที่พอใจ ยอมทุกข์ยากลำบากต่างๆ แต่เราจะต้องพิจารณาว่าสิ่งนั้นเป็นประโยชน์ หรือ เป็นโทษ
หากอดทน เพื่อสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพื่อกุศล เพื่อผู้อื่น ก็เป็นความอดทน ที่ดีไม่ใช่เพื่อความติดข้อง แต่ อดทนเพื่อตนเอง เพื่อต้องการ ก็ไม่ใช่ความอดทนที่ดี แต่ อดทนเพื่อที่จะทำความดี ก็ดีขึ้นอีก เช่น เมื่อได้ยินเสียงไม่ดี ก็อดทน ที่ไม่โต้ตอบ แต่ด้วยจิตที่เป็นกุศล ด้วยความเข้าใจ ขณะนั้น ก็อดทนในสิ่งที่ดี เป็นความอดทนที่ดี ซึ่งในความเป็นจริงในขณะนี้ เปรียบเหมือนอยู่บ้านของศัตรู คือ อยู่กับกิเลส โดยไม่รู้เลย
ซึ่งความอดทน ที่จะทำงาน ทำสิ่งต่างๆ เช่น ทำกิจการงานต่างๆ แต่ก็ดีกว่าที่จะไม่อดทนที่จะไม่ทำงานเลย แต่ ความอดทนที่ดีกว่า คือ อดทนที่จะไม่โกรธ ยากไหม คะ อดทนที่จะไม่รัก ยิ่งยากขึ้นไปอีก แต่ถ้า เป็นผู้ที่เห็นประโยชน์ ก็จะเห็นถึงความอดทนที่สูงขึ้นไป ที่เป้นความอดทนที่ประเสริฐ คือ ความอดทน ที่จะรู้ความจริง และ เมื่อได้ฟังธรรม ก็อดทน ที่จะทำความดี ก็ยังไม่พอ ก็ต้องอดทนที่จะเข้าใจความจริงในขณะนี้ด้วย
ผู้ถาม จะวางใจได้อย่างไร ในเหตุบ้านการเมืองในขณะนี้ คะ
ท่านอาจารย์ วางใจไม่ได้ เพราะ เป็นธรรมที่เป็นอนัตตา และ ขณะที่เหตุการณ์ต่างๆ มากระทบขึ้น จะเป็นเครื่องทดสอบจิตใจ ว่าสะสมปัญญา สะสมกิเลส สิ่งที่ไม่ดี มามากหรือน้อย
และ แทนที่จะเดือดร้อนนะคะ ก็ควรทำความดี ที่เป็นประโยชน์กับคนอื่น และ ตนเองดีกว่าไหมซึ่ง ผู้มีปัญญาแล้ว ไม่ต้องวางใจ แต่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และ ไม่มีใครรู้อนาคตจะเป็นอย่างไรแต่ ความเข้าใจเป็นที่พึ่ง พึ่งได้ทุกสถานการณ์ ค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาต ส่งข้อความประทับใจ เพิ่มเติม ครับ
-อดทนที่จะได้ฟังความจริง ให้เข้าใจ
-ความไม่รู้ สะสมมานานแสนนาน มีความไม่ดี สะสมมานานแสนนาน แล้วจะให้หมดไปในทันทีทันใดได้อย่างไร
-การเกิดในอบายภูมิ ไม่ใช่เป็นได้ด้วยกุศลกรรม แต่เป็นได้ด้วยอกุศลกรรม เมื่อเข้าใจถูกเห็นถูกอย่างนี้ ก็จะไม่กระทำอกุศลกรรม
-ฟังเพื่อให้เข้าใจว่าไม่มีเรา มีแต่ธรรม ทั้งหมดเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย และดับไปอย่างเร็วมาก
... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
แต่ถ้า เป็นผู้ที่เห็นประโยชน์ ก็จะเห็นถึงความอดทนที่สูงขึ้นไป ที่เป้นความอดทนที่ประเสริฐ คือ ความอดทน ที่จะรู้ความจริง
ขออนุโมทนา
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขอนอบน้อมต่อพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
กราบแทบเท้าท่านอ.สุจินต์ด้วยความสำนึกพระคุณ
ความอดทนที่จะศึกษาพระธรรมและไตร่ตรองสภาพธรรมในทุกสิ่งทุกอย่าง
วันที่ได้ฟังความจริงคือวันที่ประเสริฐ เพื่อละความรักที่ติดข้อง ละความไม่รู้
กราบอนุโมทนากัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ อ่านดี เป็นประโยชน์มากครับ
ทั้งยังรวดเร็ว มีภาพประกอบ ให้เห็นบรรยากาศได้ทันใจมาก
ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะ เป็นอย่างยิ่งครับ