ถ้าศึกษาเรื่องราวของธรรม ก็จะไม่เจอธรรมะเลย
ถ้าศึกษาเรื่องราวของธรรม โดยไม่รู้ว่าธรรมอยู่ที่ไหน ก็จะไม่เจอ
ธรรมะเลย เพราะว่าเป็นการรู้เรื่องราวเท่านั้น เช่น ถ้าเปิดพระไตรปิฎก ไม่
ว่าจะเป็นพระสุตตันตปิฎก หรือพระอภิธรรมปิฎก หรือแม้พระวินัยปิฎก เป็น
เรื่องราวทั้งหมด แต่ไม่รู้ว่าสภาพธรรมอยู่ตรงไหน แต่ถ้าเข้าใจว่าสภาพ
ธรรมมีอยู่ เกิดปรากฏทุกขณะ ในชีวิตไม่ขาดธรรมะเลย ขณะที่เกิดก็เป็น
ธรรมะที่เกิด ขณะเห็นก็เป็นธรรมะที่เห็น ขณะคิดก็เป็นธรรมะที่คิด ก็จะ
เข้าใจได้ว่า การศึกษาธรรมะนั้น ไม่ใช่เพียงศึกษาเรื่องราวที่มีปรากฏใน
หนังสือ ในตำรา แต่เป็นการศึกษาเพื่อเข้าใจในลักษณะของสภาพธรรม
เดี๋ยวนี้ซึ่งเป็นธรรม แต่อวิชชาไม่สามารถที่จะรู้ได้ อวิชชาไม่สามารถจะ
เข้าใจได้เลย เพราะว่า อวิชชาเป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นอกุศล เมื่อ
เกิดขึ้นก็ทำให้ไม่เห็นความจริงของสิ่งที่ปรากฏ ที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เพราะฉะนั้น เวลาที่ศึกษาธรรมะต้องเข้าใจด้วยว่า ศึกษาเพื่ออะไร
เพื่อเข้าใจธรรมะตัวจริงๆ ซึ่งเป็นชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายทุกขณะๆ สามารถที่
จะเข้าใจได้
ผมว่าแค่ชื่อกระทู้ ก็หาคนเข้าใจยาก หากจะให้เข้าใจตามความหมายจริงของกระทู้ยิ่งยากมาก ผมลองทบทวนย้อนหลังเหมือนกับว่า ที่ผมพอจะเข้าใจ ความหมายของกระทู้ได้บ้างนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
ประการที่สำคัญต้องย้อนนึกถึงคำพูดของอาจารย์สุจินต์ที่ว่า "ด้วยเหตุนี้แหละ ที่เราต้องกราบไหว้บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์นั้น ท่านช่างฉลาดลึกล้ำเสียจริงๆ "
ถ้าหากไม่เพราะพระองค์ท่าน เ ราคงมีตาก็หารู้ว่ามีตาไม่ มีหูก็คงไม่ใส่ใจถึงหู จมูกก็เหมือนกัน มันคงแค่โพรงเนื้อที่อยู่บนปาก ลิ้นมันก็คงมีไว้กระดก แท่งกายอันใหญ่โตนี้เราก็คงชื่นชมความงดงาม และใจที่เป็นที่คิดนึกทั้งหลายทั้งปวง เราคงจะเห็นเป็นรูปหัวใจที่เราวาดๆ เพียงแค่นั้นจริงๆ และเราคงจะปรนเปรอตัวเราเองเพื่อเป็นการแก้ทุกข์ หรือไม่ก็ไปทรมานตนเองเพื่อทำลายกิเลสกันจนผอมและแห้งตายไปในที่สุด คงไม่มีทางสายกลางที่เรียกว่ามัชฌิมาปฏิปทา กันอย่างนี้หรอก
ขนาดนี้แล้ว จะมีสักกี่คนที่เข้าใจลึกซึ้งในคำสั่งสอนของพระองค์ท่านสำหรับคนที่รู้ เข้าใจในสิ่งที่พระองค์ตรัสสั่งสอน ก็จะมีสักกี่คนที่ไปถึงความเป็นอรหันต์
นึกถึงตรงนี้ น้ำตาแห่งความปลื้มปิติ ก็ค่อยๆ ไหลรินลงมาจากเบ้าตาโดยไม่รู้ตัว ...อีกแล้วและจะไหลรินอย่างนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ไม่รู้...
แด่...พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อนุโมทนา การเข้าใจพระธรรมเป็นเรื่องยากมากๆ จริงๆ เพราะปัญญาเท่านั้นที่สามารถเข้าใจได้ อวิชชาไม่สามารถ เมื่อปัญญาขั้นฟังเรื่องธรรมะเกิด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ปัญญาขั้นรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ยิ่งยากกว่าหลายเท่า เพราะฉะนั้นมีหนทางเดียวเท่านั้นคือ ฟังพระธรรมให้มากๆ ฟังให้เข้าใจจริงๆ ว่าทุกอย่างเป็นธรรมะและหมั่นพิจารณาไตร่ตรองในสิ่งที่ฟังเข้าใจ ปัญญาก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น