คำจริงไม่ชั่ว ที่ชั่วเพราะจิต

 
เมตตา
วันที่  11 มี.ค. 2557
หมายเลข  24573
อ่าน  2,449

คำจริงย่อมเป็นคำจริง การพูดเรื่องสิ่งที่มีจริง ให้เข้าใจสิ่งที่มีจริง ไม่เคยทำร้ายใคร คำพูดที่ดีนั้นเมื่อพูด ผู้นั้นสามารถเข้าใจถูกในสิ่งที่มีจริง แต่คำดี คำจริง ก็เป็นชั่วได้เพราะจิตของผู้นั้นไม่สามารถรับคำจริงได้ ไม่สามารถเข้าใจถูกเห็นถูกต่อคำจริง เช่นเมื่อพูดว่า ไปสร้างสิ่งก่อสร้างใหญ่ๆ มีประโยชน์อะไร หากผู้ฟังไม่เข้าใจก็จะขุ่นเคืองใจ การให้ที่เป็น ทาน เป็นอย่างไร ไม่ใช่ให้สร้างสิ่งก่อสร้างเพื่อเพิ่มพูนความเห็นผิด พูดเรื่องสิ่งที่มีจริงพูดเรื่องทาน ควรให้เข้าใจสิ่งที่มีจริง

ทานเป็นสภาพธรรมที่มีจริง ฟังแล้วเข้าใจหรือเปล่า ไม่ใช่เพียงจำคำ หรือไม่เข้าใจคำว่า ทาน จริงๆ ทาน คือ การให้ แต่ให้อะไรจึงเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ให้เขาไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์ ให้ข้าวให้น้ำ ให้ความเป็นเพื่อน ให้ความปลอดภัย ให้อภัยคืออภัยทาน ทานที่สูงสุดคือ การให้ธรรมเป็นทาน ให้ความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงให้เปลือกส้มมีประโยชน์ไหม ไปสร้างสิ่งก่อสร้างมีประโยชน์ไหม การให้เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส เพื่อเข้าใจธรรมถูกต้อง ประโยชน์ที่แท้จริงเป็นเรื่องเข้าใจธรรม ไม่ใช่เรื่องทำตามกันโดยไม่เข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจธรรมจะไม่รู้เลยว่า ขณะนั้นเป็นกุศลหรือไม่ เป็นทานไหม ต้องพิจารณาไตร่ตรองให้เข้าใจ พระธรรมทั้งหมดเพื่อชำระจิตให้บริสุทธ์หากเปิดจิตนี้ออกจะเห็นความสกปรกมาก มีความไม่รู้ โลภ อิจฉา มานะ ตระหนี่ ถ้าไม่มีการเริ่มทำเลยในสิ่งที่ถูกต้อง จิตจะสะอาดขึ้นได้อย่างไร ก็จะสะสมความเน่าเหม็นทับถมต่อไป

คำจริงคำดีสำหรับผู้ที่เห็นประโยชน์ แต่เป็นคำชั่วสำหรับผู้ไม่เห็นประโยชน์ ที่ชั่วก็เพราะจิต แต่คำจริงนั้นไม่ชั่ว คำจริงนั้นเป็นประโยชน์ แต่จะควรพูดหรือไม่ควรพูด แล้วแต่การเห็นประโยชน์ของผู้ฟัง

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 11 มี.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การสนใจที่จะฟังสิ่งที่มีจริง ต้องเป็นผู้ที่ได้สะสมเหตุที่ดีมาแล้ว เห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจสิ่งที่มีจริง ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อน มีศรัทธาน้อมที่จะรับฟัง การกล่าวคำจริง ตามพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่บุคคลเช่นนี้

แต่จะไม่เป็นประโยชน์สำหรับคนที่ไม่เห็นประโยชน์เลย แสดงถึงการสะสม ของแต่ละบุคคล ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในฐานะที่เป็นผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน การเกื้อกูลให้ได้เข้าใจธรรม ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ย่อมเป็นสิ่งทีดีอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นโอกาสแห่งการสนทนาสอบถาม ก็ล้วนแล้วแต่เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญาอย่างแท้จริง เพราะในชีวิตนี้ สิ่งที่ประเสริฐที่สุด คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก ครับ

...ขอบพระคุณพี่เมตตาและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 11 มี.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุโมทนาพี่เมตตา มากครับ ที่นำธรรม ข้อคิดดีๆ มาให้อ่านกัน

ขอร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

คำจริง ที่ดี และ สูงสุด ที่เป็น สัจจะวาจา คือ พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแต่ แม้คำที่ดี แต่ก็เป็นคำชั่วของบุคคลที่ไม่ได้สะสมปัญญา สะสมศรัทธามา อย่างที่พี่เมตตา กล่าวเรื่องการให้สร้างสิ่งใหญ่โต ในวัดวาอาราม หากธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น ความเจริญในพระพุทธศาสนาไม่ได้อยู่ที่วัตถุ ไม่ได้อยู่ที่สิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โต แต่อยู่ที่ปัญญา ความเข้าใจธรรมของพุทธบริษัท

ถ้า เรากล่าว คำที่จริงอย่างนี้ และแนะนำคำที่ไม่ควรให้ทาน ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คำนั้นย่อมจะเป็นคำชั่วของบุคคลที่ไม่เข้าใจธรรม ไม่เข้าใจความจริง แต่นึกว่าเป็นศรัทธา แต่ไม่ใช่เพราะเป็นโลภะ ที่เชื่อในสิ่งที่ผิด ที่มีความต้องการบุญ คือโลภะ เป็นสำคัญ ครับ

ดังนั้น คำดี คำชั่ว ก็ขึ้นอยู่กับจิตของผู้ที่รับฟัง แต่ คำดี คำจริง ไม่ว่า ใครจะคิดว่าดีหรือ ชั่ว คำนั้น ก็ยังคงเป็นสัจจะ เพราะ ความจริงไม่ได้เปลี่ยนแปลงลักษณะ ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
j.jim
วันที่ 13 มี.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 13 มี.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 15 มี.ค. 2557

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 17 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ