ลาสิกขา

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำหรับที่เป็นของใช้ส่วนตัว ก็สามารถนำเอามาใช้ได้ เพราะไม่ใช่ของส่วนกลางที่เป็นของสงฆ์ หากนำเอาของสงฆ์ไป อย่างนี้ ถ้าสึกออกมาแล้ว ไม่ควร มีโทษ แต่ถ้าเป็นของใช้ส่วนตัว ไม่เป็นอะไร ครับ

บรรพชิต หมายถึง ผู้เว้นทั่ว, เว้นจากอกุศลโดยประการทั้งปวง

ภิกษุ โดยอรรถแล้ว หมายถึง ผู้ขอ ผู้เห็นภัยในวัฏฏะ ผู้ทำลายซึ่งกิเลสทั้งหลาย ผู้ดับกิเลสได้ ข้ามห้วงน้ำคือกิเลสได้ ไม่มีการเกิดในภพใหม่

เมื่อกล่าวถึงโดยภาวะ คือ ความเป็นจริงๆ แล้ว ภิกษุ กับ บรรพชิต สูงสุดคือสามารถดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างหมดสิ้น ไม่ว่าจะอยู่ในเพศใดก็ตาม แต่ถ้ากล่าวโดยเพศแล้ว ภิกษุกับบรรพชิต เป็นเพศที่ไม่ใช่เพศคฤหัสถ์ เป็นเพศที่สูงกว่าคฤหัสถ์ ต้องสละอาคารบ้านเรือน ละกองแห่งโภคสมบัติทั้งหลายทั้งปวงเข้าสู่เพศบรรพชิต เป็นเพศที่แตกต่างจากคฤหัสถ์อย่างสิ้นเชิง แสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะขัดเกลากิเลสในเพศของบรรพชิตด้วยความจริงใจ สูงสุดเพื่ออบรมเจริญปัญญาจนกระทั่งสามารถที่จะดับกิเลสทั้งหมดโดยเด็ดขาด บรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์

แต่ละบุคคลมีชีวิตเป็นไปตามการสะสม ไม่ว่าจะอยู่ในเพศใดก็ตาม สำคัญที่ความเข้าใจถูกเห็นถูก เห็นประโยชน์ของการอบรมเจริญปัญญา เพราะการอบรมเจริญปัญญาไม่ได้จำกัดเฉพาะเพศหนึ่งเพศใด ขึ้นอยู่กับว่าผู้นั้นจะเห็นความสำคัญมากน้อยแค่ไหน ครับ ขออนุโมทนา

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก็เป็นสิ่งที่น่าพิจารณาจริงๆ ว่า ได้ลาสิกขา คือ ได้สึกออกมาเป็นคฤหัสถ์แล้ว ไม่ได้อยู่ในเพศบรรพชิตอีกต่อไป ย่อมไม่มีอาบัติติดตัวแต่อย่างใด แม้ว่าวัตถุสิ่งของ เครื่องใช้ต่างๆ ที่ได้ซื้อ อันเกิดจากเงินที่ได้รับในขณะที่เป็นพระภิกษุ ก็ย่อมกล่าวได้ว่าเป็นของส่วนตัว ไม่ได้ไปขโมยใครมา และไม่ได้เป็นของส่วนกลางคือไม่ได้เป็นของสงฆ์ด้วย

ดังนั้น เมื่อลาสิกขาออกมาแล้ว สิ่งของนั้นๆ ก็เป็นของของตน และไม่เป็นอาบัติด้วย เพราะสึกออกมาแล้ว รวมถึงสิ่งของต่างๆ ที่นำไปจากบ้านเพื่อใช้ในขณะบวช เมื่อบวชแล้วลาสิกขา สิ่งของนั้น ก็เป็นของของตน สามารถนำมาใช้ได้ ไม่เป็นการผิดศีลแต่อย่างใด ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

ไม่ผิด เพราะ เป็นของส่วนตัว ไม่ได้ขโมย ของสงฆ์มา ค่ะ

ขอบพระคุณครับ

ขออนุโมทนา

ขออนุโมทนา